ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก ตามทิศทางดาวโจนส์ นักลงทุนจับตาข้อมูลศก.จีน ตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเอเชีย อินโฟเควสท์
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนในสัปดาห์นี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ 26,299.54 จุด เพิ่มขึ้น 64.29 จุด หรือ +0.24% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,048.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.33 จุด หรือ +0.076% ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส เช่นเดียวกับตลาดหุ้นออสเตรเลียที่ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Boxing Day
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของจีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงกำไรภาคอุตสหกรรมเดือนพ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ภาคบริการเดือนธ.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
โพลล์ยก 'กราดยิงหนองบัวลำภู' เป็นเหตุการณ์ที่สุดแห่งปี 2022 : อินโฟเควสท์กรุงเทพโพลล์ โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2022” พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 71.8% เห็นว่าเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู เป็นข่าวหรือสถานการณ์ในประเทศ ที่สร้างการจดจำมากที่สุดแห่งปี 2022 อันดับ 2 คือ ข่าวการเสียชีวิตของนักแสดงชื่อดัง “แตงโม นิดา” คิดเป็น 42.3% อันดับ 3 สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ในประเทศไทย คิดเป็น 34.5% อันดับ 4 ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ 33.4 และอันดับ 5 กัญชา กัญชง พ้นยาเสพติด 31.4% เมื่อถามว่าได้รับข่าวหรือสถานการณ์ในประเทศ ผ่านช่องทางใดมากที่สุดในปี 2022 กลุ่มตัวอย่าง 45.2% ได้รับผ่านโทรทัศน์ รองลงมา 39.1% ได้รับผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook Twitter Tiktok Line และ […]
อ่านเพิ่มเติม »
กรอบหุ้นสัปดาห์หน้า 1,590-1,635 จับตา Flow-โควิดจีน-ข้อมูลศก.สหรัฐ : อินโฟเควสท์บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด ประเมินดัชนีหุ้นไทยสำหรับสัปดาห์ถัดไป (26-30 ธ.ค.) มีแนวรับที่ 1,600 และ 1,590 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,625 และ 1,635 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดในจีน รวมถึงการทำ Window Dressing ช่วงสิ้นปี ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของจีน ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น โดยตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดใกล้เคียงสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ SET Index เผชิญแรงขายในช่วงต้นสัปดาห์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เพราะแม้จะมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แต่ตลาดกลับมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางหลายประเทศ ยังคงส่งสัญญาณในเชิงคุมเข้มนโยบายการเงิน ขณะที่ล่าสุด ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีให้กว้างขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี หุ้นไทยทยอยฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ นำโดยหุ้นแบงก์ […]
อ่านเพิ่มเติม »
กรอบบาทสัปดาห์หน้า 34.50-35.00 จับตาส่งออกไทย, ข้อมูลศก.สหรัฐ : อินโฟเควสท์ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (26-30 ธ.ค.) ไว้ที่ระดับ 34.50-35.00 บาท/ดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออก และรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนพ.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดในจีน และการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชีย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามสัญญาณและท่าทีต่อทิศทางนโยบายการเงินของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และข้อมูลกำไรภาคอุตสหกรรมเดือนพ.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน ขณะที่ในรอบสัปดาห์นี้ (19-23 ธ.ค.) เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง โดยเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศขยายกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์รัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีมาเป็นกรอบ +/- 0.50% (จากเดิม +/- 0.25%) และแม้ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นจะกล่าวว่า การขยายกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์ดังกล่าว ไม่ใช่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาดก็ตีความว่าเป็นการปรับท่าทีไปในเชิงคุมเข้มของธนาคารกลางญี่ปุ่น ทั้งนี้ เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งทำให้มีความกังวลว่า เฟดจะคงส่งสัญญาณนโยบายการเงินแบบคุมเข้มต่อไป ในวันศุกร์ที่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโควิดรายใหม่ในจีน แม้ยอดติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง : อินโฟเควสท์คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) เปิดเผยในวันนี้ (24 ธ.ค.) ว่า จีนยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 รายใหม่ในวันศุกร์ (23 ธ.ค.) เช่นเดียวกับเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ธ.ค.) ขณะที่รายงานระบุว่า มีผู้ติดเชื้อแสดงอาการรายใหม่ 4,128 รายในวันศุกร์ เมื่อเทียบกับ 3,761 รายในวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ หากไม่รวมผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศนั้น จีนรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศรวม 4,103 ราย เพิ่มขึ้นจาก 3,696 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น 99 รายทั่วประเทศในวันศุกร์ เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 42 รายในวันพฤหัสบดี ส่วนยอดรวมผู้ติดเชื้อที่มีอาการทั่วประเทศจีน ณ วันที่ 23 ธ.ค.อยู่ที่ 397,195 ราย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลของทางการจีนล่าสุดนั้นขาดความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีการตรวจเชื้อน้อยลงทั่วประเทศหลังจากที่จีนผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์เมื่อไม่นานมานี้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
โควิดยังไม่หมด! อย่ารอวัคซีนรุ่นใหม่ ใกล้ที่ไหนฉีดที่นั่น : อินโฟเควสท์นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบเริ่มชะลอตัวลง ยังจะพบการระบาดในลักษณะ Small Wave โดยกลุ่มที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 สูงสุดเป็น กลุ่ม 608 (95%) ทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลย หรือไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกิน 3 เดือน ซึ่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันจึงมีความสำคัญ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง คำแนะนำจากคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 8/2565 วันที่ 9 ธันวาคม 2565 ได้มีมติเห็นชอบให้กลุ่มเป้าหมายที่สมควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น เข้ารับวัคซีนตามระยะเวลาที่กำหนด โดยสามารถใช้วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องรอวัคซีนรุ่นใหม่ (mRNA bivalent) ในช่วงสถานการณ์โควิดขาขึ้นเวลานี้ เนื่องจากวัคซีน mRNA monovalent ยังมีประโยชน์ในการป้องกันการติดเชื้อของสายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบัน และลดความรุนแรงของโรคได้ดี นพ.ธเรศ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีที่มีการกล่าวอ้างผลวิจัยว่า “วัคซีนเข็มกระตุ้นเกิน 3 เข็ม ไม่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อ” นั้น ขัดกับข้อเท็จจริงของผลการศึกษาประสิทธิผลการฉีดวัคซีนในประเทศไทย ที่พบว่าวัคซีนเข็มที่ 4 […]
อ่านเพิ่มเติม »
ชาวมะกันราว 200 ล้านคนเผชิญภัยหนาวจัด เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 ราย : อินโฟเควสท์ชาวอเมริกันราว 200 ล้านคนเผชิญกับความเย็นยะเยือกจากพายุฤดูหนาวลูกใหญ่ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 รายก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า พายุหิมะทำให้ประชาชนมากกว่า 1.5 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ และเที่ยวบินหลายพันเที่ยวได้ถูกยกเลิกในวันศุกร์ (23 ธ.ค.) โดยในมลรัฐเซาท์ดาโกตานั้น มีรายงานว่าชนพื้นเมืองอเมริกันที่เผชิญกับหิมะตกนั้นต้องทำการเผาเสื้อผ้าเพื่อให้ความอบอุ่น หลังจากที่ใช้เชื้อเพลิงให้ความร้อนจนหมด ในแคนาดานั้น ประชาชนในออนตาริโอและควิเบกก็กำลังเผชิญกับพายุหิมะด้วย ซึ่งทำให้ประชาชนหลายแสนคนไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่รัฐบาลแคนาดาประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับพายุฤดูหนาวและอากาศที่เย็นจัดในพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคนาดาตั้งแต่บริติชโคลัมเบียไปจนถึงนิวฟันด์แลนด์ นอกจากนี้ ยังเกิดปรากฏการณ์บอมบ์ ไซโคลน (bomb cyclone) เมื่อความกดอากาศลดลงอย่างรุนแรงนั้น ทำให้เกิดสภาวะที่เหมือนกับพายุหิมะที่ทะเลสาบเกรตเลกส์บริเวณชายแดนสหรัฐ-แคนาดา โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 65) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »