ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ บิตคอยน์ทะลุ 3 หมื่นดอลลาร์ : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ บิตคอยน์ทะลุ 3 หมื่นดอลลาร์ : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 29 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 15%
  • Publisher: 68%

ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ บิตคอยน์ทะลุ 3 หมื่นดอลลาร์ Bitcoin ตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเอเชีย บิตคอยน์ อินโฟเควสท์

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยเคลื่อนไหวตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกในวันจันทร์ และหลังจากที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 3.5% ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้และเป็นการตรึงดอกเบี้ยติดต่อกันครั้งที่สองในขณะที่เงินเฟ้ออยู่ที่ 4.2%

ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,344.92 จุด เพิ่มขึ้น 13.72 จุด หรือ +0.07% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,303.81 จุด ลดลง 11.55 จุด หรือ -0.35% และดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 28,013.86 จุด พุ่งขึ้น 380.20 จุด หรือ +1.38% การที่ BOK ตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 นั้น ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า BOK อาจใกล้ยุติวงจรการคุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุก ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของเกาหลีใต้เริ่มอ่อนแรงลง ในขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลง และเกิดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับภาคธนาคารทั่วโลก

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ราคา Bitcoin พุ่งทะยานทะลุ 1,000,000 บาท สูงสุดในรอบ 10 เดือนราคา Bitcoin พุ่งทะยานทะลุ 1,000,000 บาท สูงสุดในรอบ 10 เดือนราคา Bitcoin พุ่งทะยานทะลุ 1,000,000 บาท สูงสุดในรอบ 10 เดือน ขณะที่ราคาตลาดโลกขยับเข้าใกล้บริเวณ 3 หมื่นดอลลาร์ Bitcoin
อ่านเพิ่มเติม »

นักวิเคราะห์คาดบริษัทมะกันกำไรทรุดหนักสุดนับตั้งแต่ล็อกดาวน์โควิด : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์คาดบริษัทมะกันกำไรทรุดหนักสุดนับตั้งแต่ล็อกดาวน์โควิด : อินโฟเควสท์สำนักข่าววอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า บริษัทสหรัฐทำกำไรลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่โรคโควิด-19 ระบาด เนื่องจากเงินเฟ้อสูงฉุดกำไรและความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยบั่นทอนอุปสงค์ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยแฟ็กต์เซ็ต (FactSet) ว่า กลุ่มบริษัทบนดัชนี S&P500 ของตลาดหุ้นสหรัฐจะรายงานกำไรลดลง 6.8% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยจะถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปรับลดลงกว่า 30% ในไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องล็อกดาวน์ เพื่อสกัดการระบาดของโรคโควิด-19 สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ก่อนที่จะถึงฤดูรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2566 ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยธนาคารรายใหญ่ 3 แห่งในวันศุกร์ที่ 14 เม.ย.นี้ ธุรกิจบางภาคส่วน เช่น พลังงานและสินค้าฟุ่มเฟือย มีแนวโน้มจะรายงานผลกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่อุปสงค์ที่ซบเซา แนวโน้มสินเชื่อที่ตึงตัวขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง ได้บั่นทอนคาดการณ์ผลกำไรของธุรกิจในภาพรวม “เมื่อคุณพิจารณาต้นทุนด้านค่าจ้างและต้นทุนด้านเงินทุน ผมคิดว่าบริษัทตกอยู่ภายใต้แรงกดดันในการทำกำไรพอสมควร” นายแจ็ก แอบลิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนบริษัทเครสเซ็ต แคปิตอล (Cresset Capital) ระบุ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE […]
อ่านเพิ่มเติม »

IMF เผย 44 ประเทศสนใจกู้เงินจากโครงการแก้ปัญหาโลกร้อนมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลล์ : อินโฟเควสท์IMF เผย 44 ประเทศสนใจกู้เงินจากโครงการแก้ปัญหาโลกร้อนมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลล์ : อินโฟเควสท์นางคริสตาลินา กอร์เกียวา กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า ขณะนี้มี 44 ประเทศทั่วโลกที่ให้ความสนใจที่จะกู้ยืมเงินจากโครงการ “Resilience and Sustainability Trust” มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในช่วงแรกที่มีเพียง 5 ประเทศเท่านั้นที่สนใจกู้ยืมเงินจากโครงการดังกล่าว IMF ได้จัดตั้งโครงการ Resilience and Sustainability Trust ในปี 2565 เพื่อเป็นช่องทางการเข้าถึงสิทธิพิเศษถอนเงิน (SDR) ของ IMF จากเดิมที่ประเทศกลุ่มร่ำรวยสามารถเข้าถึง SDR ได้ง่าย ไปเป็นการเปิดทางให้ประเทศยากจนและประเทศที่มีรายได้ปานกลางสามารถเข้าถึง SDR ได้ด้วย นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังมีเป้าหมายที่จะจัดหาเงินกู้ระยะยาวสำหรับภารกิจที่จำเป็น เช่น การแก้ปัญหาโลกร้อน และการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้แหล่งพลังงานสะอาด ทั้งนี้ นางกอร์เกียวาได้กล่าวในที่ประชุม “IMF and World Bank Spring Meeting” ซึ่งเริ่มขึ้นในวันจันทร์ (10 เม.ย.) ว่า การที่มีประเทศจำนวนมากกว่า 40 […]
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: ปชป.ยันไม่จับขั้วการเมืองก่อนเลือกตั้ง รอลุ้นพลังเงียบ : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: ปชป.ยันไม่จับขั้วการเมืองก่อนเลือกตั้ง รอลุ้นพลังเงียบ : อินโฟเควสท์นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาระบุว่าจะไม่จับมือกับพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลนั้นว่า ไม่ก้าวก่ายแต่ละพรรค พรรคมีจุดยืนที่ชัดเจนและไม่เคยวอกแวก พร้อมย้ำว่าต้องให้ประชาชนตัดสินใจก่อน พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าต้องเคารพเสียงประชาชนก่อน ยืนยันหลักคิดไม่เคยเปลี่ยน มีนโยบายจุดยืนอุดมการณ์ที่ชัดเจน จึงขอให้ประชาชนไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์ได้ ที่สำคัญจะไม่พาประเทศหลงทาง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการเงินเศรษฐกิจสังคม ส่วนพรรคใดที่จับมือกันก่อนก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค สำหรับการจับขั้วหลังเลือกตั้งที่อาจไม่ใช่ขั้วเดิมนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกตั้ง ซึ่งตนเองยืนยันมาโดยตลอดและจะยึดหลักการนี้ จับขั้วไหนหรือจับมือกับใครจะต้องอยู่หลังการเลือกตั้งทั้งหมด ใครที่จับมือกันก่อนก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นไปตามนั้น ถ้าจับขั้วแล้วจัดตั้งรัฐบาลได้เลยก็ไม่จำเป็นจะต้องมีการเลือกตั้ง ดังนั้นจะเกิดประชาธิปไตยได้อย่างไร ซึ่งตามระบอบประชาธิปไตยจะต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกตั้งก่อน และประชาชนจะเป็นคนแรกที่จะให้คำตอบว่า พรรคไหนจะได้เป็นรัฐบาล และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลได้ ประชาชนจะเป็นคำตอบคนแรก นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ไม่ขอวิจารณ์นโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย แต่มองว่า นโยบายของพรรคการเมืองจะต้องไม่พาประเทศไปตายเอาดาบหน้า ทุกอย่างต้องมีความชัดเจน มีที่มาที่ไปของรายได้ รวมถึงไม่เป็นนโยบายรายวัน ซึ่งจะทำให้ในอนาคตประเทศเกิดความสุ่มเสี่ยง หรือพาประเทศไปตายเอาดาบหน้าหรือไม่ ดังนั้นจึงคิดว่าไม่ควรจะให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายขึ้นมาอีกครั้ง เพราะจะถือเป็นการทำลายประเทศ ทำลายประชาธิปไตยในประเทศไทย ซึ่งจะต้องเป็นสิ่งที่ต้องตระหนัก ต้องรู้เท่าทันรวมถึงเอาประวัติศาสตร์มาเป็นบทเรียน นอกจากนี้ พรรคมีพลังเงียบจำนวนมากที่จะกลับมาช่วยเหลือในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ล่าสุดที่จังหวัดนครสวรรค์ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้มาร่วมฟังปราศรัยและสนับสนุนพรรคหลายหมื่นคน ทำให้เห็นว่าพลังเหล่านี้คือเสียงตอบรับที่ดีขึ้น […]
อ่านเพิ่มเติม »

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคมี.ค.สูงสุดรอบ 37 เดือน รับท่องเที่ยวฟื้นชัดหนุนศก.ดีขึ้น : อินโฟเควสท์ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคมี.ค.สูงสุดรอบ 37 เดือน รับท่องเที่ยวฟื้นชัดหนุนศก.ดีขึ้น : อินโฟเควสท์ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนมี.ค.66 อยู่ที่ระดับ 53.8 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 37 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.63 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 48.0 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 50.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 62.5 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมี.ค. ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งการท่องเที่ยวของคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น และกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ทำให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายเรื่องค่าครองชีพลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทุกรายการปรับตัวดีขึ้นทุกรายการอย่างมีนัยสำคัญ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

ไทยประสานเพื่อนบ้านเร่งแก้ PM2.5 ต่อเนื่องหลังกลับมารุนแรง : อินโฟเควสท์ไทยประสานเพื่อนบ้านเร่งแก้ PM2.5 ต่อเนื่องหลังกลับมารุนแรง : อินโฟเควสท์นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ จะมีการรายงานเรื่องปัญหาฝุ่นควัน เพื่อจะนำไปหารือในการประชุมอาเซียนที่จะถึงนี้ ซึ่งรัฐบาลได้ประสานเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 กับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว โดยให้ความสนใจและต้องรีบดำเนินการแก้ปัญหาเช่นกัน อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุม 3 ฝ่ายกับนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว และนายกรัฐมนตรีเมียนมา เรื่องการจัดการปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน ผ่านระบบ Video Conference ส่วนที่มีประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือเรียกร้องให้กระทรวงต่างประเทศประสานกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ให้มีการเผานั้น ในที่ประชุมผู้นำ 3 ฝ่าย ซึ่งไทยเป็นผู้จัดได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ และจะมีการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส เพื่อหารือในรายละเอียด นายดอน กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในวันนี้ แต่เกิดมา 20 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งในอาเซียนก็มีปัญหากันอยู่และพยายามแก้กันทั้งอาเซียน การดำเนินการแก้ปัญหากำลังทำอย่างต่อเนื่อง ช่วงเกิดวิฤตโควิด-19 ก็เบาบางไป เพิ่งจะกลับมารุนแรงในช่วงนี้ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะประเทศเพื่อนบ้านจะแก้ไข แต่เราเองก็ต้องแก้ไขด้วย ซึ่งรัฐบาลได้จัดเตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะยาว และมาตรการเร่งด่วน โดยมีการประชุมและพูดคุยกันมาพอสมควรแล้ว สำหรับมาตรการขั้นเด็ดขาดที่จะไม่รับซื้อสินค้าที่มาจากการเผานั้น นายดอน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่บางประเทศเคยทำในอดีต แต่ตอนนี้พยายามหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก่อน การที่จะไปถึงมาตรการที่ไม่รับซื้อสินค้านั้นเป็นขั้นตอนต่อไป […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-17 03:47:53