ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผสมผสาน นลท.จับตาสหรัฐเจรจาเพดานหนี้ ตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเอเชีย อินโฟเควสท์
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาเพดานหนี้ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งรวมถึงดุลการค้าของอินโดนีเซียและอินเดียในวันนี้
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาคาดว่าจะประชุมร่วมกับผู้นำสภาคองเกรส ซึ่งรวมถึงนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในวันอังคารที่ 16 พ.ค.นี้ เพื่อเจรจาต่อรองเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบ นลท.จับตาทำเนียบขาว-คองเกรสเจรจาเพดานหนี้ : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาเพดานหนี้ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งรวมถึงดุลการค้าของอินโดนีเซียและอินเดียในวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,525.06 จุด ลดลง 102.18 จุด หรือ -0.52% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 29,547.04 จุด เพิ่มขึ้น 158.74 จุด หรือ +0.54% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ 3,269.88 จุด ลดลง 2.48 จุด หรือ -0.07% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดลบเล็กน้อย และดัชนี KOSPI เปิดลบราว 0.24% ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาคาดว่าจะประชุมร่วมกับผู้นำสภาคองเกรส ซึ่งรวมถึงนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในวันอังคารที่ 16 พ.ค.นี้ เพื่อเจรจาต่อรองเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์ ด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเตือนว่า สหรัฐอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ภายในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ ซึ่งเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ […]
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นรับผลเลือกตั้ง จับตาก้าวไกล-เพื่อไทยตั้งรบ.ลุ้นแตะ 1,600 จุด : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น ตอบรับผลการเลือกตั้ง ทำให้ตลาดคาดหวังเชิงบวกกับนโยบาย ที่จะส่งผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลง ขณะที่ยังต้องติดตามการจับมือกันระหว่างพรรคก้าวไกล และเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งรัฐบาล จะหนุน SET ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,600 จุดได้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,550-1,555 จุด และแนวต้าน 1,575-1,580 จุด หากการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน มีโอกาสขึ้นไปถึง 1,600 จุด นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดปรับตัวขึ้น ตอบรับผลการเลือกตั้ง โดยตลาดคาดหวังเชิงบวกกับนโยบายของพรรคอันดับ 1 และ 2 ที่จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและเกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาดูข่าวการจัดตั้งรัฐบาล หากมีการจับมือกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย มอง SET มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,600 จุดในวันนี้ สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ยังต้องติดตามการหารือเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้สหรัฐอีกครั้งในสัปดาห์นี้ และการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ให้แนวรับไว้ที่ 1,550-1,555 จุด และแนวต้าน 1,575-1,580 จุด หากการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจน มีโอกาสขึ้น […]
อ่านเพิ่มเติม »
แบงก์ชาติจีนฉีดเงินเข้าระบบ 2.5 หมื่นล้านหยวน คงดอกเบี้ย MLF ที่ 2.75% : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเงินจำนวน 2.5 หมื่นล้านหยวนเข้าสู่ระบบธนาคารในวันนี้ โดยดำเนินการผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ที่อัตราดอกเบี้ย 2.75% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่แล้ว และเป็นการคงอัตราดอกเบี้ย MLF ติดต่อกันเดือนที่ 9 สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังได้อัดฉีดเงิน 2 พันล้านหยวนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านข้อตกลง reverse repo ประเภทอายุ 7 วันที่อัตราดอกเบี้ย 2.00% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมเช่นกัน การคงอัตราดอกเบี้ย MLF ในวันนี้ มีขึ้นก่อนที่ธนาคารกลางจีนจะประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีและ 5 ปี ในวันจันทร์ที่ 22 พ.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางจีนจะตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.65% และตรึงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีที่ 4.30% จีนซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2566 ไว้ที่ประมาณ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ทรีนีตี้ ฟันธง SET ขยับขึ้นต่อเนื่องรับเลือกตั้ง ชูหุ้นสื่อ-อสังหา-แบงก์-พลังงาน-รพ.เด่น : อินโฟเควสท์นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ทรินีตี้ จำกัด ระบุว่า สัปดาห์แรกหลังเลือกตั้งดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้น 3.2% และมีโอกาสขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง อ้างอิงจากสถิติการเลือกตั้งไทยในอดีต ซึ่งกลุ่มที่โดดเด่นได้แก่ กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มพลังงาน กลุ่มธุรกิจการแพทย์ และกลุ่มธนาคาร สถิติย้อนกลับไปในปีที่พรรคการเลือกชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงเกินครึ่ง หรือชนะแลนด์สไลด์ ดัชนีตลาดหุ้นไทยหลังเลือกตั้ง 1 สัปดาห์ปรับขึ้น 4.7% การตอบรับของตลาดมีโอกาสขยับขึ้นต่อเนื่องนาน 2 สัปดาห์-1 เดือน โดยดัชนีบวกสูงสุดที่ 8% ขณะที่แนวโน้มของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ในอดีตช่วงก่อนเลือกตั้งส่วนใหญ่นักลงทุนต่างชาติมีทิศทางขายสุทธิ สวนทางนักลงทุนสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิอย่างรุนแรง ส่วนเมื่อจบการเลือกตั้ง นักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาซื้อสุทธิและกลายเป็นฝั่งกองทุนในประเทศที่มีอัตราการขายสุทธิ แต่ไม่รุนแรงเท่าช่วงก่อนเลือกตั้ง โดยหากผลเลือกตั้งออกมาสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ หรือสามารถจัดตั้งรัฐบาลร่วมได้อย่างแข็งแกร่ง จากสถิติการเลือกตั้งไทยในอดีต นักลงทุนต่างชาติซื้อในอัตราที่สูงถึง 10,000-20,000 ล้านบาท ในทางกลับกันหากการเลือกตั้งมีความวุ่นวาย หรือมีความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล นักลงทุนต่างชาติมีอัตราขายสูงถึง 10,000-20,000 ล้านบาท นายณัฐชาต ระบุว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยหลังการเลือกตั้งครั้งนี้มีทิศทางในเชิงบวกหากผลคะแนนออกมาใน 3 กรณี คือ 1.กรณีที่พรรคฝ่ายเสรีนิยมอันดับ 1 พรรคเดียว ได้เสียงข้างมากจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร […]
อ่านเพิ่มเติม »
น้ำมัน WTI ร่วงหลุดระดับ 70 ดอลล์ กังวลดีมานด์น้ำมันจีน-สหรัฐชะลอตัว : อินโฟเควสท์ราคาน้ำมัน WTI ร่วงหลุดจากระดับ 70 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงในสหรัฐและจีน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรม ณ เวลา 10.32 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 57 เซนต์ หรือ -0.81% แตะที่ 69.47 ดอลลาร์/บาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมัน WTI ปรับตัวลง 1.8% ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงในเดือนพ.ค. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและวิกฤตในภาคธนาคาร ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคร่วงลงสู่ระดับ 57.7 ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 63.0 จากระดับ 63.5 ในเดือนเม.ย. นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนในวันพรุ่งนี้ ซึ่งได้แก่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., อัตราว่างงานเดือนเม.ย. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนเม.ย. โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 พ.ค. 66) Facebook […]
อ่านเพิ่มเติม »