ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวก นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเอเชีย อินโฟเควสท์
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 27,512.81 จุด เพิ่มขึ้น 40.18 จุด หรือ +0.15%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,324.40 จุด เพิ่มขึ้น 11.77 จุด หรือ +0.36% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,489.73 จุด เพิ่มขึ้น 30.50 จุด หรือ +1.24%นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 238,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียค่อนข้างซบเซา เนื่องจากตลาดหลายแห่งปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 27,554.37 จุด เพิ่มขึ้น 81.74 จุด หรือ +0.30% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 1% แต่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,312.48 จุด ลดลง 0.15 จุด หรือ -0.01% ส่วนตลาดหุ้นออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และอินเดีย ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 238,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนมี.ค. ส่วนข้อมูลแรงงานของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 […]
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค ศก.สหรัฐชะลอกดดัน-กลุ่มโรงไฟฟ้าหนุน : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค โดยมีปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว หลังตัวเลขภาคแรงงานออกมาอ่อนแอกว่าคาดต่อเนื่อง ประกอบกับไทยยังอยู่ในช่วงของวันหยุดยาว ทำให้อาจเห็นการซื้อขายที่เบาบาง แต่ยังได้ปัจจัยหนุนจากกลุ่มโรงไฟฟ้า หลังกกพ.ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนฯ ให้แนวรับไว้ที่ 1,576-1,563 จุด และแนวต้าน 1,586-1,579 จุด นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้แกว่งไซด์เวย์ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยยังมีปัจจัยกดดันจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว หลังตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ (ADP Employment) เดือน มี.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 1.45 แสนราย แบ่งเป็น ภาคบริการ 7.5 หมื่นราย และภาคการผลิต 7 หมื่นราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.1 แสนราย และชะลอจากเดือน ก.พ. 2.61 แสนราย ซึ่งออกมาอ่อนแอเหมือนกับตัวเลขตำแหน่งงานว่าง JOLTs Job opening ที่ออกมาเมื่อวานที่ 9.93 ล้านรายทำระดับต่ำสุดในรอบสองปี อย่างไรก็ตามมองการชะลอตัวลงของตัวเลขภาคแรงงาน น่าจะส่งผลให้เงินเฟ้อชะลอลงได้ และเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) […]
อ่านเพิ่มเติม »
เงินบาทเปิด 34.14 อ่อนค่าตามภูมิภาค กังวลศก.โลกถดถอย-จับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.14 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดเมื่อเย็นวันพุธที่ระดับ 33.86 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนี ISM ภาคการผลิต และ ยอดผู้ขอรับสวัสดืการว่างงานประจำสัปดาห์ ออกมาไม่ค่อยดี ทำให้ตลาดกังวลว่าจะเป็นสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยตลาดรอดู ตัวเลขสำคัญคืนนี้คือ การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร ขณะที่การเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างประเทศช่วงนี้ เป็นทิศทางการไหลออก หลังยอดส่งออกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง “บาทอ่อนค่าจากเมื่อเย็นวันพุธ เนื่องจากช่วงที่หยุดไปมีตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ออกมาไม่ค่อยดี ทำให้ตลาดกังวลว่าจะ ส่งสัญญาณถึงเศรษฐกิจโลกถดถอย” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.00 – 34.30 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (5 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.70089% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.87815% ปัจจัยสำคัญ – […]
อ่านเพิ่มเติม »
'มาครง'-'ฟ็อน แดร์ ไลเอิน' วอนจีนช่วยเจรจารัสเซียให้ยุติสงครามกับยูเครน : อินโฟเควสท์ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส และนางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ร่วมเจรจาหารือกับปธน.สี จิ้นผิง ผู้นำจีนเมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหภาพยุโรป (EU) และจีน หลังจากการหารือในระดับทวิภาคีและไตรภาคี ปธน.มาครงได้เรียกร้องให้ปธน.สีช่วยให้รัสเซียกลับมาใช้เหตุผล โดยผู้นำฝรั่งเศสระบุว่า จีนซึ่งมีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับรัสเซีย อาจสามารถช่วยดึงรัสเซียกลับมาสู่โต๊ะเจรจาได้ หลังจากที่เปิดฉากทำสงครามเต็มรูปแบบกับยูเครนมานานกว่า 1 ปี สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปธน.สีระบุว่า แต่ละประเทศควรเคารพความตั้งใจของกันและกันและไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ และงดเว้นซึ่งการกระทำใด ๆ ก็ตามที่อาจทำให้วิกฤตการณ์ในครั้งนี้เลวร้ายลงหรือเกินกว่าจะควบคุมได้ ขณะที่นางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอินระบุในการแถลงข่าวว่า “ในฐานะหนึ่งในสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงของ UN นั้น จีนมีความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง เราหวังว่า จีนจะเข้ามามีบทบาทสำคัญและช่วยส่งเสริมสันติภาพที่เคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน ซึ่งเป็นหนึ่งในรากฐานที่สำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติ” เธอกล่าวเสริมว่า EU เชื่อมั่นว่า จีนจะไม่สนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารแก่รัสเซีย ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม ซึ่งอาจนำไปสู่ “การทำลายความสัมพันธ์ระหว่าง EU และจีนอย่างร้ายแรง” รวมถึงเป็นการ “ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ” “ดิฉันขอสนับสนุนให้ปธน.สี ติดต่อไปยังปธน.เซเลนสกี ซึ่งปธน.สีได้ยืนยันความเต็มใจที่จะพูดคุยเมื่อเงื่อนไขและเวลาเหมาะสม” […]
อ่านเพิ่มเติม »
แบงก์ชาติมาเลย์เตือนปชช.อาจไม่เหลือเงินหลังเกษียณ หากรัฐยอมให้ถอนก่อนกำหนด : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) เปิดเผยว่า ชาวมาเลเซียอาจไม่เหลือเงินออมทรัพย์เมื่ออายุ 58 ปี ซึ่งเป็นผลจากค่าแรงที่ระดับต่ำ ภาระหนี้สินสูง และมีการถอนเงินเกษียณอายุออกมาใช้ก่อนกำหนดในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด และสถานการณ์ดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะย่ำแย่ลง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ว่า มีการถอนเงินประมาณ 1.45 แสนล้านริงกิต (3.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ออกจากบัญชีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเป็นไปได้ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลในสมัยนั้น การถอนเงินเป็นกรณีพิเศษทำให้ทรัพย์สินของกองทุนบำเหน็จบำนาญภายใต้การบริหารจัดการของธนาคารกลางมาเลเซียลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว โดยธนาคารกลางมาเลเซียระบุว่า มีความเสี่ยงเป็นทุนเดิมอยู่แล้วที่ว่าเงินกองทุนบำเหน็จบำนาญของชาติอาจไม่เพียงพอ และการถอนเงินออกไปอีกยิ่งทำให้ความเสี่ยงนั้นทวีความรุนแรงขึ้น นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย เผชิญแรงกดดันอย่างหนักเพื่ออนุญาตให้ประชาชนถอนเงินจากกองทุนบำเหน็จบำนาญอีกครั้ง โดยฝ่ายค้านเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอนุมัติให้มี “การถอนเงินตามวัตถุประสงค์เฉพาะ” อีกรอบเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวมาเลเซียที่กำลังเดือดร้อน “ประชาชนต้องการความช่วยเหลือในตอนนี้ ไม่ใช่ในอีก 15 ปี ข้างหน้า” นายอิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในสภา ท่ามกลางการทุบโต๊ะสนับสนุนของพวกพ้อง “บ้านของพวกเขากำลังถูกขายทอดตลาดในตอนนี้ ลูกหลานของพวกเขาต้องการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในตอนนี้ และตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาวะล้มละลาย” นายอันวาร์ได้ปฏิเสธการเรียกร้องดังกล่าว ทำให้ฝ่ายค้านเดินออกจากรัฐสภาเพื่อเป็นการประท้วงเมื่อวันจันทร์ (3 เม.ย.) ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ในวันเดียวกันนั้น คนขับแท็กซี่รายหนึ่งเดินเท้าเป็นระยะทาง 312 กิโลเมตรไปยังพระราชวังในกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อยื่นคำร้องในการขอถอนเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก่อนกำหนด ซึ่งเรื่องราวของเขากลายเป็นไวรัลบนติ๊กต๊อก […]
อ่านเพิ่มเติม »
ETC เฮ สอบผ่านขายไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม 10 โครงการรวม 80 MW : อินโฟเควสท์บมจ.เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) เปิดเผยว่า บริษัท เก็ท กรีน พาวเวอร์ จำกัด (GGP) ซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของ ETC ได้ผ่านการคัดเลือกการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม จำนวน 10 บริษัท ปริมาณพลังไฟฟ้าเสนอขายรวม 80 เมกะวัตต์ (1 บริษัทย่อย :1 โครงการ : 8เมกะวัตต์) ดังนี้ 1. บริษัท พราวขวัญ พาวเวอร์ จำกัด 2. บริษัท ทอแสง เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด 3. บริษัท เดอะ พราว พาวเวอร์ จำกัด 4. บริษัท พรรณแสงดาว จำกัด 5. บริษัท มีขวัญ พาวเวอร์ […]
อ่านเพิ่มเติม »