ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ถ่วงตลาดลง ตลาดหุ้น อินโฟเควสท์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลง หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีนได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,105.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด หรือ +0.021%,ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,237.83 จุด ลดลง 62.61 จุดหรือ -0.86%
ข้อมูลจากจีนบ่งชี้ว่า การส่งออกและการนำเข้าชะลอตัวลงเกินคาดในเดือนส.ค. ขณะที่เงินเฟ้อที่ระดับสูงได้สกัดกั้นอุปสงค์ในต่างประเทศ และการควบคุมครั้งใหม่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงคลื่นความร้อนนั้นได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิต หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้นรับข่าวดังกล่าว โดยหุ้นอีดีพี, หุ้นเอสเอสอี, หุ้นเอ็นจี, หุ้นอาร์ดับบลิวอี และหุ้นเวอร์บันด์ พุ่งขึ้น 3.4-13.3%
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
จีนล็อกดาวน์พื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองกุ้ยหยาง สกัดโควิดแพร่ระบาด : อินโฟเควสท์เมืองกุ้ยหยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลกุ้ยโจว ประกาศล็อกดาวน์พื้นที่ส่วนใหญ่เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ เทศบาลเมืองกุ้ยหยางสั่งล็อกดาวน์ชุมชนใน 6 เขตจากทั้งหมด 10 เขตเป็นเวลา 4 วันจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย. โดยประชาชนใน 6 เขตที่ถูกล็อกดาวน์นั้นจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านก็ต่อเมื่อไปรับการตรวจเชื้อโควิด-19 เท่านั้น และการบริการรถแท็กซี่ทั้งหมดจะหยุดให้บริการ เมืองกุ้ยหยางรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่จำนวน 132 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (5 ก.ย.) ซึ่งเพิ่มขึ้น 28 รายจากวันอาทิตย์ โดยกุ้ยหยางมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 6.1 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่งซึ่งรวมถึงบริษัทจีลี ออโตโมบิล โฮลดิ้งส์ การล็อกดาวน์เมืองกุ้ยหยางมีขึ้นในขณะที่เมืองเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประกาศขยายเวลาการล็อกดาวน์ออกไปจนถึงวันพุธที่ 7 ก.ย. เพื่อดำเนินการตรวจเชื้อโควิด-19 ครั้งใหญ่ให้กับประชาชน ทั้งนี้ จีนยังคงยึดมั่นในนโยบายโควิดเป็นศูนย์ตามแนวทางของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แม้ว่าการใช้มาตรการล็อกดาวน์จะส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจของจีนก็ตาม โดยล่าสุดผลสำรวจของไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 49.5 จากระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. โดยดัชนี PMI …
อ่านเพิ่มเติม »
ครัวเรือนญี่ปุ่นใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสองเดือนติด แต่เยนอ่อนส่งสัญญาณน่ากังวล : อินโฟเควสท์ทางการญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ภาคครัวเรือนญี่ปุ่นมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนมิ.ย. แม้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งคาดไว้ว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนญี่ปุ่นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนแล้ว การใช้จ่ายภาคครัวเรือนญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 1.4% ในเดือนก.ค. มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัวลง 0.6% การใช้จ่ายภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นส่งสัญญาณน่ากังวล เพราะมีปัจจัยกดดันจากทิศทางเงินเฟ้อ หลังเงินเยนอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 เดือน นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นเผชิญอยู่คือปัญหาสินค้าแพงขึ้น อันเป็นผลจากปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลกประกอบกับการอ่อนค่าของเงินเยนซึ่งทำให้ญี่ปุ่นมีต้นทุนการนำเข้าแพงขึ้น และคาดว่า หากเงินเยนทรงตัวที่แนว 140 เยนต่อดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าแล้ว ภาคครัวเรือนญี่ปุ่นจะต้องจ่ายค่าอาหาร พลังงาน และเครื่องใช้จำเป็นอื่น ๆ แพงขึ้น 1.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ดาราดัง 'ฌอน เพนน์-เบน สติลเลอร์' ถูกรัสเซียแบนห้ามเข้าประเทศถาวร : อินโฟเควสท์รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าตอบโต้สหรัฐที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรหลังจากรัสเซียส่งกองกำลังทหารบุกโจมตียูเครน โดยล่าสุดรัสเซียสั่งห้ามพลเมืองของสหรัฐจำนวน 25 คนเดินทางเข้ารัสเซียเป็นการถาวร ซึ่งรวมถึงดาราฮอลลีวูดชื่อดังอย่าง ฌอน เพนน์ และเบน สติลเลอร์ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า รัสเซียได้ออกมาตรการตอบโต้สหรัฐรอบใหม่ด้วยการห้ามพลเมืองสหรัฐจำนวน 25 คนเดินทางเข้ารัสเซียเป็นการถาวร โดยบุคคลเหล่านี้รวมถึงวุฒิสมาชิก และนักวิเคราะห์ เพื่อตอบโต้คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรบุคลากรของรัสเซีย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุชื่อบุคคลที่ถูกคว่ำบาตรทั้งหมด แต่ปรากฏชื่อของฌอน เพนน์ และเบน สติลเลอร์รวมอยู่ด้วย โดยดาราฮอลลีวูดชื่อดังทั้ง 2 คนนี้เคยเดินทางไปยูเครนและพบปะกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารเข้าทำสงครามในยูเครน โดยเบน สติลเลอร์กล่าวกับปธน.เซเลนสกีเมื่อครั้งที่เดินทางไปยูเครนในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาว่า “คุณคือวีรบุรุษของผม” มาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐและชาติพันธมิตรนำมาใช้กับรัสเซียนั้น ครอบคลุมถึงการคว่ำบาตรนักธุรกิจและเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย รวมถึงการ อายัดทรัพย์ของรัสเซียมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. กระทั่งในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศมาตรการรอบใหม่ที่พุ่งเป้าเล่นงาน “กลุ่มบุคคลมีชื่อเสียงที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาลรัสเซีย” ซึ่งรวมถึงแอนเดรย์ เกอร์เยฟ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทฟอสอะโกร พีเจเอสซี (Phosagro PJSC) และอาลีนา คาเบวา ประธานบริษัทสื่อที่สนับสนุนรัฐบาลรัสเซียและอดีตส.ส.ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 65) …
อ่านเพิ่มเติม »
เงินบาทเปิด 36.39 แข็งค่าจากวานนี้หลังดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดรอปัจจัยใหม่ : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.39 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.54 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้เงินบาทอ่อนค่าไปค่อนข้างเร็ว เนื่องจากตลาดในฝั่งสหรัฐฯ หยุดทำการ การซื้อขายจึงเบาบาง ประกอบกับอังกฤษได้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งในทีมนโยบายการเงินมีความเห็นที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่แรง จึงทำให้เงินปอนด์อังกฤษ แข็งค่าขึ้นไปค่อนข้างเร็ว กดดันให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ ส่วนวันนี้ ยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อเงินบาทมากนัก ตลาดรอดูดัชนีภาคบริการเดือนส.ค.ของสหรัฐ รวมทั้งจับตาสถานการณ์ ราคาพลังงานในยุโรป นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.30 – 36.55 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (5 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.84377% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.95361% ปัจจัยสำคัญ – เงินเยนอยู่ที่ระดับ 140.40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นที่ระดับ 140.38 เยน/ดอลลาร์ – …
อ่านเพิ่มเติม »
กูรูชี้นักลงทุนแห่ซบตลาดหุ้นไทย-อาเซียน ขณะตลาดทั่วโลกผันผวนหนัก : อินโฟเควสท์สถาบันการเงินชั้นนำมองว่า ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญกับความผันผวนอย่างหนักหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกนั้น นักลงทุนต่างชาติก็เริ่มหันมาให้ความสนใจตลาดหุ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นไทย เนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิภาคแห่งนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง สถาบันการเงินหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงบีเอ็นพี พาริบาส์, เครดิตสวิส และแมน กรุ๊ปมองว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียมีความยืดหยุ่นมากกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่น ๆ หลังจากการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของประธานเฟดในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ได้ทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยดัชนี MSCI Asean Index ปรับตัวได้ดีกว่าดัชนี MSCI Asia Pacific Index และมีแนวโน้มที่จะทำผลงานโดดเด่นกว่าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 เศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มสดใส เนื่องจากการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง และอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ นอกจากนี้ ด้วยปัจจัยหนุนจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทเอกชนในภูมิภาคก็มีความแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับตลาดส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการบริโภคและต้นทุนที่สูงขึ้น โจชัว แครบบ์ หัวหน้าฝ่ายตลาดเอเชียแปซิฟิกของบริษัทโรเบโค ฮ่องกงกล่าวว่า “อุปสงค์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศก็ยังคงปรับตัวสูงขึ้น และโครงสร้างระยะยาวของภูมิภาคแห่งนี้ยังคงแข็งแกร่งเช่นกัน เรามองว่าตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความยืดหยุ่นอย่างมากในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นทั่วโลกถูกเทขายอย่างหนัก ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นเอเชีย” นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะขยายตัวอย่างน้อย 5% ในปีนี้ โดยคาดว่ามาเลเซียจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนมากกว่าเป้าหมายรายปีถึง 2 เท่า และคาดว่าประเทศไทยจะกวาดรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ …
อ่านเพิ่มเติม »
ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1,062 ราย ตาย 22 ราย : อินโฟเควสท์ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รักษาตัวในโรงพยาบาล 1,062 ราย ประกอบด้วย – ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,062 ราย – จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 0 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 0 ราย – ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 0 ราย – เสียชีวิต 22 ราย สำหรับจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 4,660,964 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 1,963 ราย ยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 32,444 ราย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »