ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบ กังวลผลประกอบการบริษัทสหรัฐ ตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเอเชีย อินโฟเควสท์
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเน็ตฟลิกซ์, ไอบีเอ็ม และมอร์แกน สแตนลีย์ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 20,354.83 จุด ลดลง 12.93 จุด หรือ -0.06% และตลาดหุ้นโตเกียวเปิดในแดนลบ หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยยอดขาดดุลการค้ามูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21.7 ล้านล้านเยน ในปีงบการเงิน 2565 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อเดือนมี.ค.
ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยกำไรในไตรมาส 1/2566 ลดลง 19% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 2.98 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.70 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้ลดลง 2% สู่ระดับ 1.452 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาของธุรกิจวาณิชธนกิจ ส่วนเน็ตฟลิกซ์ ผู้ให้บริการสตรีมมิงภาพยนตร์รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยกำไรในไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 1.31 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.88 ดอลลาร์/หุ้น ลดลงจากไตรมาส 1/2565 ซึ่งอยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.53 ดอลลาร์/หุ้น
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบ จนท.เฟดเสียงแตกเรื่องขึ้นดอกเบี้ย : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ ขณะที่บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐทยอยรายงานผลประกอบการอย่างต่อเนื่อง และเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความคิดเห็นที่สวนทางกันเกี่ยวกับทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต ทั้งนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,619.84 จุด ลดลง 38.99 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,633.00 จุด ลดลง 17.51 จุด หรือ -0.08% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,391.35 จุด ลดลง 1.98 จุด หรือ -0.06% นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซี โดยคาดการณ์ว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ก่อนระงับการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อติดตามผลกระทบที่การขึ้นดอกเบี้ยครั้งดังกล่าวมีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยการขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% จะทำให้ดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่กรอบ 5% – 5.25% ทว่าในขณะเดียวกันนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า […]
อ่านเพิ่มเติม »
เงินบาทเปิด 34.28 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดรอปัจจัยใหม่ ให้กรอบวันนี้ 34.15-34.40 : อินโฟเควสท์นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.28 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากปิด ตลาดช่วงเย็นวานนี้ที่ 34.29 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดรอดูปัจจัยใหม่ โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อทิศทางการปรับ อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่วนปัจจัยในประเทศที่อาจส่งผลต่อค่าเงินบาทวันนี้คือ ทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ (Flow) จากผู้ค้าทองคำ เนื่อง จากราคาทองในตลาดโลกปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ “บาททรงตัวจากเย็นวานนี้ ตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ทิศทางบาทวันนี้น่าจะไซด์เวย์” นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.15 – 34.40 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (18 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.78214% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.91933% ปัจจัยสำคัญ – เงินเยนอยู่ที่ระดับ 134.10 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 134.08 […]
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ขาดปัจจัยใหม่ ชะลอลงทุนกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ ไร้ปัจจัยหนุนใหม่ และยังกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อ ส่งผลชะลอลงทุน และ Fund Flow ยังไม่ไหลกลับมามาก แต่อาจจะมีแรงหนุนเก็งงบฯไตรมาส 1/66 บริษัทจดทะเบียนหนุนตลาดได้บางช่วง พร้อมให้แนวต้าน 1,600-1,610 จุด แนวรับ 1,580-1,590 จุด นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่ายังเป็นทิศทางแกว่งตัวไซด์เวย์ เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ที่เข้ามาหนุนต่อการปรับขึ้น และนักลงทุนยังคงชะลอการลงทุน จากความกังวลในการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังมีอยู่ ทำให้ Fund Flow ในช่วงนี้ยังไม่เห็นกลับเข้ามามากนัก อย่างไรก็ตามบางช่วงอาจจะมีแรงหนุนจากการเก็งกำไรผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ซึ่งอยู่ในช่วงการทยอยประกาศผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนของไทย ซึ่งอาจจะสามารถหนุนดัชนีได้บางช่วง ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาส่วนใหญ่บวกและลบสลับกัน โดยให้แนวต้าน 1,600-1,610 จุด แนวรับ 1,580-1,590 จุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ฟิทช์คาดตลาดข้าวโลกจ่อหดตัวมากที่สุดในรอบสองทศวรรษในปีนี้ : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ตั้งแต่จีนไปจนถึงสหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) การผลิตข้าวเริ่มลดน้อยลง ส่งผลให้ราคาข้าวสำหรับประชาชนกว่า 3.5 พันล้านคนทั่วโลกพุ่งทะยานขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งการบริโภคข้าวคิดเป็นสัดส่วน 90% ของโลก ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของฟิทช์ โซลูชั่นส์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า ตลาดข้าวโลกมีแนวโน้มหดตัวลงมากที่สุดในรอบสองทศวรรษในปี 2566 และภาวะขาดแคลนข้าวครั้งใหญ่นี้จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้นำเข้ารายใหญ่ “ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดในระดับโลกจากปัญหาขาดแคลนข้าวทั่วโลกนั้น ยังคงเป็นเรื่องของราคาที่เคลื่อนไหวสูงสุดในรอบทศวรรษ” นายชาร์ลส์ ฮาร์ต นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของฟิทช์ โซลูชั่นส์ระบุ รายงานวิจัยความเสี่ยงและอุตสาหกรรมรายประเทศจากฟิทช์ โซลูชั่นส์ลงวันที่ 4 เม.ย. ระบุว่า ราคาข้าวมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวที่ระดับสูงเช่นปัจจุบันต่อไปจนกระทั่งปี 2567 ข้อมูลจากรายงานฉบับดังกล่าวระบุว่า ราคาข้าวเฉลี่ยอยู่ที่ 17.3 ดอลลาร์ต่อฮันเดรดเวท (CWT) ในปีนี้ และจะชะลอตัวลงแตะ 14.50 ดอลลาร์ต่อฮันเดรดเวท (CWT) ก็ต่อเมื่อเข้าสู่ปี 2567 โดยฮันเดรดเวท (CWT) เป็นหน่วยวัดสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภท เช่น ข้าว ฟิทช์ โซลูชั่นส์คาดการณ์ว่า ทั่วโลกจะเผชิญภาวะขาดแคลนข้าว 8.7 ล้านตันในปี 2565/66 ซึ่งจะเป็นภาวะขาดแคลนข้าวทั่วโลกครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546-2547 ซึ่งเวลานั้นทั่วโลกประสบปัญหาขาดแคลนข้าว […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ยูไนเต็ด แอร์ไลน์' คาดบริษัทจะมีกำไรใน Q2 เหตุดีมานด์เดินทางแข็งแกร่ง : อินโฟเควสท์สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ โฮลดิ้งเปิดเผยคาดการณ์เมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) ว่า บริษัทจะมีกำไรในไตรมาส 2 และยังคงไม่เปลี่ยนแปลงการคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการทั้งปี เนื่องจากความต้องการด้านการเดินทางอยู่ในระดับที่ “แข็งแกร่ง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ นายสก็อตต์ เคอร์บี ซีอีโอของสายการบินยูไนเต็ดระบุในแถลงการณ์ว่า ยอดจองเที่ยวบินสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของอัตราการเดินทางภายในประเทศ สายการบินยูไนเต็ดคาดว่า ผลกำไรของบริษัทจะอยู่ที่ 3.50-4.00 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาส 2 และมีรายได้เพิ่มขึ้น 14-16% ต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับที่บรรดานักวิเคราะห์คาดไว้ในผลสำรวจของรีฟินิทิฟ (Refinitiv) ที่ 3.65 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 1/2566 นั้น ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ขาดทุน 63 เซนต์ต่อหุ้น เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ระดับขาดทุนที่ 73 เซนต์ต่อหุ้น และรายได้รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 1.143 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ 1.142 หมื่นล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน สายการบินต่าง ๆ ได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์ของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง แม้มีความเสี่ยงมากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยอุปสงค์การเดินทางที่แข็งแกร่งนั้นได้ช่วยให้สายการบินต่าง ๆ สามารถบรรเทาปัญหาค่าแรงงานและราคาเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นด้วยราคาตั๋วโดยสารที่สูงขึ้น โดย […]
อ่านเพิ่มเติม »
KTC โชว์กำไร Q1/66 โต 7.1% รับ 'ช้อปดีมีคืน' ดันยอดใช้บัตรพุ่ง สินเชื่อดีดขึ้นทั้งพอร์ต-ตรึง NPL ต่ำ : อินโฟเควสท์นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกที่ดีขึ้น ส่งผลให้เกิดการจ้างงานสร้างรายได้ อีกทั้งมาตรการภาษี “ช้อปดีมีคืน” นำไปสู่การใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นผลให้ภาพรวมของตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลในช่วง 2 เดือนแรกของปี 66 เติบโตดีต่อเนื่อง ทั้งนี้ KTC มีสัดส่วนของลูกหนี้บัตรเครดิตและลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเทียบกับอุตสาหกรรมเท่ากับ 14.6% และ 3.7% ตามลำดับ ในขณะที่ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC ขยายตัว 24.3% สูงกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 18.6% ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตร KTC เท่ากับ 12.2% สำหรับไตรมาส 1/66 ผลการดำเนินงานของ KTC เป็นไปในทิศทางเดียวกับแผนและเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการและงบการเงินรวมเท่ากับ 1,843 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.2%) และ 1,872 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 7.1%) ตามลำดับ ผลจากพอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัวสร้างรายได้เติบโตดี และมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งสามารถรักษาคุณภาพพอร์ตได้อย่างเหมาะสมกับความเสี่ยงที่มีในแต่ละธุรกิจ โดยมีฐานสมาชิกรวม 3,333,227 บัญชี […]
อ่านเพิ่มเติม »