ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด ตลาดหุ้น ตลาดหุ้นเอเชีย อินโฟเควสท์
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังธนาคารกลางสหรัฐ มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 22 ปี ขณะที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติมในอนาคต
ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,502.09 จุด เพิ่มขึ้น 136.95 จุด หรือ +0.71% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,225.48 จุด เพิ่มขึ้น 2.45 จุด หรือ +0.08% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 32,523.69 จุด ลดลง 144.65 จุด หรือ -0.44% คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ มีมติเป็นเอกฉันท์ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันนี้
การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 11 นับตั้งแต่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25% ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวไร้ทิศทางในวันพุธ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2530 ขณะที่ ดัชนี S&P500 และ Nasdaq Composite ปรับตัวลง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
แบงก์ชาติอินโดนีเซียตรึงดอกเบี้ยที่ 5.75% ตามคาดการณ์ : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการตรึงดอกเบี้ยติดต่อกันเดือนที่ 6 โดยระบุว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับปัจจุบันนั้นเพียงพอแล้วที่จะรับประกันว่าเงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวในกรอบเป้าหมายในปีนี้ รายงานระบุว่า เงินเฟ้อในอินโดนีเซียนั้นกลับสู่กรอบเป้าหมายของ BI ในเดือนพ.ค. และมีแนวโน้มที่จะลดลงแบบต่อเนื่อง หลังจากพุ่งขึ้นในปีที่ผ่านมาท่ามกลางราคาอาหารและพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น กรณีดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่า BI จะเริ่มพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอินโดนีเซีย ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวลง เนื่องจากการส่งออกที่ตกต่ำ การตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BI มีขึ้นในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์นี้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เยอรมนีจ่อทุ่มเงิน 2 หมื่นล้านยูโร ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ : อินโฟเควสท์กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยในวันนี้ (25 ก.ค.) ว่า เยอรมนีวางแผนที่จะลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านยูโร (2.215 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ท่ามกลางกระแสความกังวลเกี่ยวกับความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้นและการพึ่งพาชิปจากเกาหลีใต้และไต้หวัน กระทรวงฯ ระบุว่า เม็ดเงินดังกล่าวจะถูกดึงมาจากกองทุนสภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป พร้อมเสริมว่าจะสามารถให้เงินทุนกับแต่ละโครงการได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) แล้วเท่านั้น กระทรวงฯ เสริมว่า ทีเอสเอ็มซี (TSMC) บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของไต้หวันแสดงความสนใจที่จะลงทุนในโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในเยอรมนี และกระทรวงฯ ก็ได้ติดต่อกับ TSMC อย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลเยอรมนีตกลงที่จะให้เงินอุดหนุนมูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านยูโร แก่อินเทล (Intel) บริษัทผู้ผลิตชิปของสหรัฐ เพื่อสร้างโรงงาน 2 แห่งในเมืองมัคเดอบวร์ค ทางตะวันออกของประเทศ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ครม.ไฟเขียวเก็บเพิ่มค่าเข้าชมโบราณสถาน-พิพิธภัณฑ์ เฉพาะต่างชาติ : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าเข้าชมและค่าบริการอื่น สำหรับโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ซึ่งมีสาระสำคัญ เป็นการปรับปรุงอัตราค่าเข้าชมและค่าบริการอื่น สำหรับโบราณสถาน และพิพิธภัณฑ์ 72 แห่ง รวมถึงปรับปรุงบัญชีรายชื่อโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่เรียกเก็บค่าเข้าชมได้ การปรับปรุงดังกล่าวนี้ เนื่องจากอัตราค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์และโบราณสถานได้ใช้มาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2551 โดยอัตราค่าเข้าชมที่กำหนดใหม่ จะคงค่าเข้าชมและค่าบริการสำหรับคนสัญชาติไทยไว้ที่อัตราเดิม และปรับเพิ่มขึ้นเฉพาะกรณีของคนสัญชาติอื่น มีดังนี้ 1. โบราณสถานประเภทอุทยานประวัติศาสตร์ สำหรับคนสัญชาติไทย คนละ 20 บาท บุคคลสัญชาติอื่น คนละ 120-200 บาท (เดิม 100 บาท) 2. โบราณสถานประเภทแหล่งโบราณคดีหรือสถานที่สำคัญ สำหรับบุคคลสัญชาติไทย คนละ 10-20 บาท บุคคลสัญชาติอื่น คนละ 80-120 บาท (เดิม 50-100 บาท) กำหนดอัตราค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ศาลปกครองกลางยกฟ้องคดี BTSC ฟ้องคกก.คัดเลือก-รฟม.ปมเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มรอบ 2 : อินโฟเควสท์ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องในคดีที่ บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ในกลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กรณีออกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนครั้งที่ 2 และออกเอกสารคัดเลือกเอกชน (TOR) โดยเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ให้แตกต่างจากฉบับเดิมดือน ก.ค.63 ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นเหตุให้ BTSC เสียหาย ศาลฯ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มในครั้งที่ 2 ได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนก่อน ซึ่งถูกต้องตามรูปแบบ ขั้นตอน และวิธีการที่ พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ และประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้แล้ว และไม่มีเหตุผลที่จะรับฟังว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายในลักษณะใด อีกทั้ง มติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ และ รฟม.เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 ที่เห็นชอบให้ยกเลิกการประมูลครั้งแรก และยกเลิกคัดเลือกเอกชน รวมถึงเพิกถอนประกาศของ รฟม.หรือมติของคณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ รฟม. ในการประชุมแต่ละครั้ง เพื่อพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ ในการคัดเลือกเอกชน เห็นชอบร่างประกาศเชิญชวน และร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน เป็นเพียงขั้นตอนการเตรียมการและดำเนินการภายในของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครองทั่วไป คือ […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ศักดิ์สยาม' สั่งฝ่ายกม.แจงคดีซุกหุ้นพรุ่งนี้หลังก้าวไกลเปิดหลักฐานเพิ่ม : อินโฟเควสท์นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีสส.พรรคก้าวไกลออกมาเปิดหลักฐานเพิ่มเติมคดีซุกหุ้นว่า จะให้ทีมกฎหมายรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจงในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) พร้อมทั้งยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน เมื่อถามถึงกรณีที่บริษัทที่ถือหุ้นไปรับงานของรัฐนั้น นายศักดิ์สยาม ชี้แจงว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นการดำเนินการตามระเบียบพัสดุอยู่แล้ว เมื่อมีการประกวดราคาบริษัทที่มีคุณสมบัติก็มีหน้าที่ไปซื้อแบบแล้วเข้าประมูลโดยวิธี e-Bidding ไม่ใช่วิธีพิเศษ ดังนั้น บริษัทที่ได้งานในประเทศไทยมีไม่รู้เท่าไหร่ ถ้ามีคุณสมบัติและยื่นตามกระบวนการที่ถูกต้องแล้วชนะก็เป็นความชอบธรรมในการดำเนินการ อย่ามาบอกว่าเป็นของใคร “ขอยืนยันว่าผมไม่มีข้อเกี่ยวข้องกับห้างหุ้นส่วนบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ตั้งแต่ปี 2562 และไม่กังวล เพราะการตรวจสอบบุคคลสาธารณะเป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมาเมื่อศาลสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ เรามีหน้าที่รวบรวมข้อมูลไปชี้แจง ส่วนที่เรื่องช้าเพราะเข้าใจว่าเอกสารของผู้ยื่นร้องมีมากกว่า 600 หน้า แต่ละข้อก็ต้องไปรวบรวมเอกสารมาชี้แจงเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ซึ่งก็มีเป็นหลักพันหน้า แต่ยืนยันว่ามีความพร้อมในการชี้แจงทั้งหมด” ส่วนกระแสข่าวถ้าพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็เป็นหน้าที่ของพรรคอันดับ 3 อย่างภูมิใจไทยนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้ชี้แจงแล้วว่าพรรคยึดมั่นในหลักการ สิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลต้องเป็นของพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 ก่อน ถ้าไม่ได้ก็อันดับ 2 และถ้าไม่ได้อีกก็อันดับ 3 และถ้าไปตรวจสอบการจัดตั้งรัฐบาลในอดีต พรรคการเมืองที่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินเสียงในระบบทั้งหมดก็ได้เป็นรัฐบาล ซึ่งปี […]
อ่านเพิ่มเติม »
ครม.หนุนผลิตบุคลากรแพทย์เพิ่ม-ปรับปรุงสวัสดิการ/ค่าตอบแทน : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ สืบเนื่องมาจากที่ปัจจุบันได้ปรากฎกรณีการลาออกของบุคลากรทางการแพทย์โดยต่อเนื่อง น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทั้ง 2 หน่วยงาน เห็นพ้องกันว่า การบริหารบุคลากรภายใต้บริบทที่เปลี่ยนแปลงไป มีความท้ายทายในหลายประเด็น จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพ เหมาะสม และเป็นธรรม โดยตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65 เป็นต้นมา สธ. และสำนักงาน ก.พ. ได้หารือร่วมกันมา 3 ครั้ง มีประเด็นสำคัญที่เห็นร่วมกันว่า ต้องได้รับการพัฒนาสำคัญ ได้แก่ การขาดแคลนอัตรากำลัง การพัฒนาความก้าวหน้าในสายงาน การเพิ่มอัตราการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่ขาดแคลน การปรับปรุงการจ่ายค่าตอบแทน และการปรับปรุงสวัสดิการให้แก่บุคลากร การปรับปรุงการบริหารทรัพยากรบุคคลของสาธารณสุขจำเป็นต้องดำเนินการในภาพรวม ทั้งประเด็นหลัก และประเด็นย่อย ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขมีความหลากหลายในสายงาน มีบุคลากรจำนวนมาก และกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศ ปัญหาจึงอาจเกิดขึ้นในหลายมิติ ทั้งในมิติบริหารจัดการ มิติของผู้รับบริการ และมิติของบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน จึงเห็นควรตั้งคณะทำงานร่วมของทั้ง 2 […]
อ่านเพิ่มเติม »