ดุสิตโพล เผยคนกังวลปัญหาตั้งรัฐบาลใหม่-โหวตนายกฯ ไม่เชื่อมั่นจะราบรื่น จัดตั้งรัฐบาล ผลสำรวจ สวนดุสิตโพล อินโฟเควสท์
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี “คนไทยกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่” โดยเมื่อถามว่า จากการเลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนสนใจติดตามข่าวการเมืองมากขึ้นหรือไม่ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 72.63% ตอบว่า ติดตามการเมืองมากขึ้น รองลงมา 21.30% ระบุว่า ติดตามเท่าเดิม โดยมีเพียง 6.07% ระบุว่า ติดตามน้อยลง
เมื่อมีความรู้สึกเครียดมากขึ้น ประชาชนแก้ปัญหาอย่างไร พบว่า อันดับ 1 คุยกับเพื่อน/คนรัก/คนที่ไว้ใจได้ 46.38% อันดับ 2 พักผ่อนให้มากขึ้น 42.88% อันดับ 3 คุยกับคนในครอบครัว 34.04% อันดับ 4 ดูหนัง/ซีรีส์/ฟังเพลง 32.22% อันดับ 5 ออกกำลังกาย 28.87% ส่วนความเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะเป็นไปด้วยความราบรื่นหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่ 58.33% ตอบว่า ไม่เชื่อมั่น ในขณะที่อีก 41.67% ตอบว่าเชื่อมั่น
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เลือกตั้ง2566 : ดุสิตโพล เผย ประชาชนกังวลตั้งรัฐบาล โหวตนายกฯ'สวนดุสิตโพล' เผยผลการสำรวจ ระบุ ประชาชนสนใจข่าวการเมืองมากขึ้น และร้อยละ 67.83 มีความกังวลกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ กลัวว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ วันนี้ (28 พ.ค.2566) 'สวนดุสิตโพล' มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ กรณี คนไทยกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ พบว่า จากการเลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนสนใจติดตามข่าวการเมืองมากขึ้น ร้อยละ 72.63ณ วันนี้ ประชาชนรู้สึกเครียดกับเรื่องปากท้อง ค่าใช้จ่ายมากที่สุด ร้อยละ 52.14 รองลงมาคือ การจัดตั้งรัฐบาล ร้อยละ 51.90ทั้งนี้เมื่อมีความรู้สึกเครียดจะแก้ปัญหาด้วยการคุยกับเพื่อน คนรัก คนที่ไว้ใจได้ ร้อยละ 46.38เมื่อสอบถามว่าประชาชนมีความกังวลกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หรือไม่ พบว่า กังวล ร้อยละ 67.83 เนื่องจากกลัวว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน พรรคที่ได้เสียงข้างมากอาจไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน มีการเล่นเกมการเมืองมากเกินไป และกังวลการโหวตของ ส.ส. และ ส.ว.ส่วนความเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะเป็นไปด้วยความราบรื่น พบว่า ไม่เชื่อมั่น ร้อยละ 58.33 และเชื่อมั่น ร้อยละ 41.67จากผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมาทำให้คนไทยติดตามข่าวการเมืองมากขึ้น แต่ก็ยังมีความกังวลกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง รวมไปถึงกังวลกับการเลือกนายกรัฐมนตรีว่าอาจจะไม่ได้ตาม ที่ต้องการ เพราะกลไกของการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นมีเงื่อนไขของการโหวตจาก ส.ว. ร่วมด้วย กอปรกับภาพความขัดแย้งของพรรคฝั่งประชาธิปไตยที่มีข่าวให้เห็นรายวัน จึงทำให้ประชาชนยังไม่แน่ใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความราบรื่น 'สวนดุสิตโพล' สำรวจความคิดเห็น กรณี คนไทยกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เลือกตั้ง2566 : เปิดรายชื่อ ว่าที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 100 คนเลือกตั้ง2566 : 'พิธา' เบรกปมร้อนตำแหน่ง 'ปธ.สภา' ขอพรรคร่วมพูดคุยในวงเจรจาผลการเลือกตั้ง2566 : กกต. เตรียมประกาศผลเลือกตั้งทางการ ส.ส.ก้าวไกล เหลือ 151 คน
อ่านเพิ่มเติม »
'สมชาย' ข้องใจกลวิธีหาเสียงสว.โหวตนายกฯ อย่าขู่ไป เคลียร์ไป เคลมไป ลั่นทำหน้าที่ไม่มีกลัว'สมชาย' ข้องใจกลวิธีหาเสียง ส.ว. โหวตนายกฯ ขู่ไป เคลียร์ไป เคลมไป ลั่นทำหน้าที่ไม่มีกลัว เผย ส.ว.แบ่ง 4 กลุ่ม ขอพรรคการเมือง เดินตามครรลองประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อย่าทำแค่ลมปาก
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผสมผสาน หลังหุ้นเทคโนฯสหรัฐปิดบวก : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (25 พ.ค.) โดยหุ้นบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) นำหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐปรับตัวขึ้น และเจ้าหน้าที่สหรัฐขยับเข้าใกล้การบรรลุข้อตกลงเรื่องขยายเพดานหนี้ไปอีกขั้น ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐเหลือเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ในการยับยั้งการผิดนัดชำระหนี้ ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,196.89 จุด ลดลง 4.37 จุด หรือ -0.14% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 31,101.60 จุด เพิ่มขึ้น 300.47 จุด หรือ +0.98% ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (26 พ.ค.) เนื่องในวันวิสาขบูชา เงินเฟ้อทั่วไปของกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นมาตรวัดตัวเลขเงินเฟ้อทั่วประเทศญี่ปุ่น ปรับตัวขึ้นที่อัตราชะลอตัวที่ 3.2% ในเดือนพ.ค. จาก 3.5% ในเดือนเม.ย. เงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและเชื้อเพลิง ปรับตัวขึ้น 3.9% ซึ่งเป็นระดับเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2525 ทางด้านออสเตรเลียรายงานว่า ยอดค้าปลีกไม่มีการขยายตัวในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 0.4% และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่ายอดค้าปลีกเดือนเม.ย.อาจเพิ่มขึ้น 0.2% เนื่องจากต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในการซื้ออาหารและการรับประทานอาหารนอกบ้าน ดัชนีหลักทั้งสามของตลาดหุ้นสหรัฐปิดตัวไร้ทิศทางเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี Nasdaq Composite […]
อ่านเพิ่มเติม »
เกาหลีเหนือส่งพนักงาน IT ไปทั่วโลก โจมตีไซเบอร์-ขโมยคริปโท หาเงินหนุนโครงการนิวเคลียร์ : อินโฟเควสท์สหรัฐและเกาหลีใต้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า เกาหลีเหนือกำลังเพิ่มความพยายามในการส่งพนักงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ไปทำงานในต่างประเทศ ขณะเดียวกันเกาหลีเหนือได้กระทำการโจมตีทางไซเบอร์และก่ออาชญากรรมออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อหาเงินทุนสนับสนุนโครงการอาวุธ พร้อมกับคาดการณ์ว่าเกาหลีเหนือเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์โควิด-19 อันเข้มงวด “นี่คืออุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต ด้วยเหตุนี้เกาหลีเหนือจึงมีแนวโน้มที่จะเปิดพรมแดน และส่งแรงงานเพิ่มเติมไปยังทุกส่วนของโลกเพื่อสร้างรายได้ และเราคิดว่าสถานการณ์กำลังเลวร้ายลงเรื่อย ๆ” นางจอง พัค พัค รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทวงต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการพหภาคีและรองผู้แทนพิเศษประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี กล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในสัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังสหรัฐได้คว่ำบาตรหน่วยงาน 4 แห่งที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพและหน่วยข่าวกรองของเกาหลีเหนือ และชาวเกาหลีเหนือ 1 คนในเมืองวลาดิวอสต็อกของรัสเซียซึ่งได้รับการจ่ายเงินด้วยสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี จากเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีของเกาหลีเหนือ สหรัฐและเกาหลีใต้กล่าวว่า เกาหลีเหนือส่งโปรแกรมเมอร์หลายพันคนไปต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนและรัสเซีย ในช่วงก่อนที่เกาหลีเหนือจะปิดพรมแดนในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พนักงานเกาหลีเหนือที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหล่านี้ สามารถทำเงินในต่างประเทศได้มากถึงปีละ 300,000 ดอลลาร์ และช่วยเปิดช่องทางการโจมตีทางไซเบอร์และจารกรรมสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งสร้างเม็ดเงินให้เกาหลีเหนือประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 ทั้งนี้ ความพยายามของสหรัฐและองค์การสหประชาชาติในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ แทบจะไม่สามารถหยุดยั้งโครงการอาวุธของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสูดของเกาหลีเหนือได้ โดยเมื่อปีที่แล้ว เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธไปแล้วมากกว่า 70 ลูก โดย […]
อ่านเพิ่มเติม »
นักเศรษฐศาสตร์คาดแบงก์ชาติจีนหั่น RRR อีกใน Q3/66 หลังเศรษฐกิจอ่อนแรง : อินโฟเควสท์นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนมีแนวโน้มปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอ่อนแรงลงอย่างมาก นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลด RRR สำหรับธนาคารรายใหญ่ลง 0.25% ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีการปรับลด RRR ในไตรมาส 4 ทั้งนี้ หากเป็นไปตามคาด ก็จะส่งผลให้ RRR ถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 10.50% จากระดับ 10.75% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าธนาคารกลางจะคงอัตรา RRR ไว้ที่ระดับ 10.50% จนถึงสิ้นปี 2567 หากมีการปรับลดในปีนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อไม่นานมานี้บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอ่อนแอลงอย่างมาก โดยยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ล้วนแล้วแต่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. ขณะที่อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงใกล้ระดับ 0% และผู้บริโภคของจีนหลีกเลี่ยงการกู้ยืมเงิน นักเศรษฐศาสตร์ในโพลบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2566 จะขยายตัว 5.5% ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 5.6% ขณะที่รัฐบาลจีนกำหนดเป้าหมายการเติบโตของ GDP ในปี 2566 ไว้ที่ 5% […]
อ่านเพิ่มเติม »