ดีมานด์เชื้อเพลิงจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากการเดินทางที่เริ่มฟื้นตัวหลังคลายคุมเข้มโควิด ZeroCOVIDpolicy จีน ดีมานด์ ราคาน้ำมันดิบ โควิดเป็นศูนย์ อินโฟเควสท์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลังจากที่จีนดำเนินมาตรการคุมเข้มโควิดตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ มานานเกือบ 3 ปี จีนได้ยกเลิกมาตรการควบคุมที่สำคัญหลายประการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงยกเลิกการตรวจเชื้อบ่อยครั้ง ผ่อนคลายกฎการกักตัว และยกเลิกการติดตามการเดินทาง
ข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมจีน บริษัทวิเคราะห์การเดินทาง และบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน บ่งชี้ว่า การผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวได้กระตุ้นให้การเดินทางทั้งทางบกและทางอากาศฟื้นตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือน ทั้งนี้ ตลาดพลังงานโลกเฝ้าจับตาการฟื้นตัวของจีนในด้านการเดินทาง ซึ่งอุปสงค์ของจีน ในฐานะผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่ของโลก คาดว่าจะหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษในปีนี้เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ
นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ ระบุในรายงานวันนี้ ว่า “จากโอกาสที่จีนจะสามารถเปิดประเทศได้เร็วขึ้น ตอนนี้เราคาดว่า การเดินทางจะกลับมาเป็นปกติหรือแตะระดับเดือนมิ.ย.-ก.ค. 2565 ได้ภายในสิ้นเดือนมี.ค. 2566 เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ที่เราคาดว่าน่าจะเป็นเดือนพ.ค./มิ.ย.”
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'เคธี วูด' ชี้ศก.สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว คาดหุ้นพลังงานจ่อทรุดตัว : อินโฟเควสท์นางเคธี วูด ซีอีโอของบริษัท Ark Investment Management คาดการณ์ว่า หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มคุณค่า (Value Stocks) จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อ และในทางกลับกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มเติบโต (Growth Stocks) ขณะที่อุปสงค์ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเป็นวงกว้างกำลังกลายเป็นปัจจัยที่สร้างความวิตกกังวล “ดิฉันเชื่อว่าประวัติศาสตร์จะแสดงให้เราเห็นว่าเศรษฐกิจได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วตลอดปีนี้” นางวูดกล่าว การแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนมุมมองของนางวูด หลังจากที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หลังจากเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ซึ่งการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในกลุ่มเติบโต เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา นางวูดได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยระบุว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงหลายครั้งเพื่อควบคุมเงินเฟ้อนั้น อาจจะเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาด ราคาหุ้น ARK Innovation Fund ร่วงลงเกือบ 63% ตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในบรรดาหุ้นกลุ่มเติบโตที่มีทุนจดทะเบียนปานกลางในสหรัฐ ตามข้อมูลของมอร์นิ่งสตาร์ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานในตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นเกือบ 56% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ในช่วงกลางปี 2565 นางวูดได้ออกมายอมรับว่า เธอประเมินความรุนแรงและความยืดเยื้อของวิกฤตเงินเฟ้อต่ำเกินไป และเธอมองว่าขณะนี้ เศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว “ดิฉันคิดว่าขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว โดยคาดว่าปัญหาใหญ่ก็คือสต็อกสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นอย่างที่ดิฉันไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดชีวิตการทำงานหรือประมาณ 45 ปี ส่วนเงินเฟ้อพุ่งขึ้นรุนแรงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์” …
อ่านเพิ่มเติม »
จีนหยุดรายงานยอดติดโควิดไม่มีอาการ เหตุปชช.จำนวนมากเลิกตรวจเชื้อ : อินโฟเควสท์คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) จะหยุดรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ไม่แสดงอาการตั้งแต่วันพุธนี้ (14 ธ.ค.) เนื่องจากประชาชนจำนวนมากไม่เข้ารับการตรวจหาเชื้ออีกต่อไป ทำให้การตรวจนับจำนวนผู้ติดเชื้อที่แม่นยำเป็นไปได้ยาก สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการจีนรายงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่แสดงอาการรวม 2,291 รายในวันอังคาร (13 ธ.ค.) จีนพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 7,679 รายเมื่อวันจันทร์ (12 ธ.ค.) โดย 2,315 รายเป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ ส่วนอีก 5,364 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ซึ่งจีนนับผู้ติดเชื้อเหล่านี้แยกกัน หากไม่นับรวมผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศจำนวน 7,451 รายเมื่อวันจันทร์ ซึ่งในจำนวนนี้นับรวมผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการแล้ว ส่วนผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการอยู่ที่ 2,249 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเมื่อเทียบกับครั้งก่อน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 5,235 ราย ทั้งนี้ ณ วันที่ 13 ธ.ค. ยอดผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการทั่วจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ที่ 369,918 ราย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ลูกหนี้เฮ! กยศ.ขยายเวลาลดหนี้เป็นของขวัญปีใหม่ ถึงสิ้น มิ.ย.66 : อินโฟเควสท์น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้หนี้ภาคครัว โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการว่าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่ง กยศ.ได้กำหนดมาตรการในการช่วยเหลือ อาทิ การลดเบี้ยปรับ การลดเงินต้น รวมถึงได้ดำเนินการอื่นๆ เช่น ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกัน ชะลอการฟ้องร้องคดี งดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงินและหรือผู้ค้ำประกัน โดยล่าสุด กยศ. ได้ขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้อีก 6 เดือน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 65 ออกไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 66 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2566 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุน รวมถึงช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจได้มีทางเลือกในการผ่อนชำระมากขึ้น สำหรับมาตรการลดหย่อนหนี้ มีดังนี้ 1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ 2. ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และต้องการปิดบัญชีในคราวเดียว …
อ่านเพิ่มเติม »
ผุด 'ครูวัคซีนไซเบอร์' ให้ความรู้เท่าทันกลโกงสร้างเกราะป้องกันโจรออนไลน์ : อินโฟเควสท์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดอบรมโครงการสร้างภาคีเครือข่ายป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นการฝึกอบรมในระดับที่ 1 ในการสร้างครูวัคซีนไซเบอร์ (ครูแม่ไก่) เพื่อไปถ่ายทอดความรู้ต่อให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่, เจ้าหน้าที่ภาครัฐ, เจ้าหน้าที่ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ให้เกิดความตระหนักรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงและเกิดความปลอดภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจาก บช.น., ภ.1-9 หน่วยละ 11 นาย, บช.สอท. 6 นาย รวมจำนวนทั้งสิ้นรวม 116 นาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า การอบรมโครงการสร้างภาคีเครือข่ายป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเป็นนโยบายเร่งด่วนของ ตร. ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ที่ยังขึ้นสูงเฉลี่ยวันละ 600-700 ราย สร้างความเสียหายแก่ประชาชน และระบบเศรษฐกิจของประเทศ แม้เจ้าหน้าที่จะทำการปราบปรามจับกุม แต่ปัญหายังไม่หมดไป คนร้ายมักจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้พ้นจากการตรวจตราจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยตำรวจเพียงหน่วยเดียวจึงไม่สามารถแก้ปัญหา จึงจำเป็นต้องอาศัยภาคีเครือข่ายในการร่วมกันป้องกัน รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงและเกิดความปลอดภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงเกิดการอบรมโครงการนี้ขึ้น เพื่อให้ครูวัคซีนไซเบอร์ (ครูแม่ไก่) จำนวน 116 นาย ไปจัดฝึกอบรมให้กับผู้รับการอบรมในระดับที่ …
อ่านเพิ่มเติม »
สื่อนอกเผยทหารจีน-อินเดียปะทะกันบริเวณพรมแดนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 63 : อินโฟเควสท์สื่อท้องถิ่นของอินเดียรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อินเดียเมื่อวันจันทร์ (12 ธ.ค.) ว่า เกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารจีนและอินเดียในรัฐอรุณาจัลประเทศ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย โดยนับเป็นการปะทะกันครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 เจ้าหน้าที่อินเดียระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 ธ.ค. และเป็นเหตุให้ทั้ง 2 ฝ่ายมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ต่อมาทั้งสองฝ่ายได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ขณะที่ กลุ่มผู้บัญชาการทหารได้จัดประชุม เพื่อหารือในเรื่องดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการสู้รบหรือจำนวนทหารที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนระหว่างจีนและอินเดียคุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุปะทะกันในเดือนมิ.ย. 2563 ซึ่งเป็นเหตุปะทะที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี ส่งผลให้ทหารอินเดียเสียชีวิตอย่างน้อย 20 นายและทหารจีนเสียชีวิตอย่างน้อย 4 นาย โดยการสู้รบดังกล่าวเกิดขึ้นที่ลาดักห์ บริเวณเทือกเขาหิมาลัย ตามแนวพรมแดนพิพาทที่กินระยะทางยาว 3,488 กิโลเมตร (2,170 ไมล์) ซึ่งรู้จักกันในชื่อ แนวเส้นแบ่งเขตควบคุมตามความเป็นจริง (Line of Actual Control) โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ฮ่องกงผ่อนปรนคุมโควิดเพิ่ม ยกเลิกห้ามนักเดินทางเข้าบาร์-ร้านอาหาร : อินโฟเควสท์ฮ่องกงยกเลิกการบังคับใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเติม หลังจากที่จีนเริ่มผ่อนปรนนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างรวดเร็วฉับไวตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้นและเกิดสถานการณ์ความไม่สงบทางสังคมครั้งใหญ่ ทั้งนี้ นายจอห์น ลี ผู้บริหารเกาะฮ่องกงระบุในวันนี้ (13 ธ.ค.) ว่า รัฐบาลฮ่องกงจะยกเลิกคำสั่งห้ามนักเดินทางต่างชาติจากการเข้าใช้บริการในบาร์ หรือรับประทานอาหารในร้านอาหารตั้งแต่วันพุธที่ 14 ธ.ค.เป็นต้นไป ตลอดจนยกเลิกหลักเกณฑ์ที่กำหนดให้ประชาชนใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่สแกนคิวอาร์โคด ก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังจำเป็นต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนในบางสถานที่ เช่น การเข้ารับประทานอาหารในร้านอาหาร แต่นายลีไม่ได้เอ่ยถึงแผนยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัย “ทุกคนต้องการให้มีการใช้มาตรการจำกัดน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อก่อให้เกิดกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจสูงสุด” นายลีกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มาตรการสกัดโควิด-19 ได้บั่นทอนเศรษฐกิจฮ่องกงและส่งผลกระทบต่อสถานะศูนย์กลางการเงินของฮ่องกง โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฮ่องกงมีแนวโน้มหดตัวในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการหดตัวครั้งที่ 3 ใน 4 ปี ขณะที่ ประชากรฮ่องกงลดลงมากที่สุดในรอบอย่างน้อย 6 ทศวรรษในช่วง 12 เดือนถึงเดือนมิ.ย. เนื่องจากประชาชนแห่หนีมาตรการจำกัดและการปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมือง นักวิเคราะห์ระบุว่า การผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 ครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวขาเข้า แม้การผ่อนปรนมาตรการควบคุมพรมแดนระหว่างฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่จะส่งผลกระทบได้มากกว่า โดยมีกระแสข่าวว่า จีนและฮ่องกงจะเริ่มอนุญาตให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามพรมแดนไปมาหาสู่กันได้โดยไม่ต้องเข้ารับการกักตัวอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 9 ม.ค.ปีหน้า “การปรับเปลี่ยนมาตรการสกัดโควิด-19 ครั้งนี้ถือเป็นปัจจัยเชิงบวกอย่างยิ่งสำหรับความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ” …
อ่านเพิ่มเติม »