ญี่ปุ่นเผยจำนวนประชากรลดฮวบ แต่มีชาวต่างชาติอาศัยในประเทศมากเป็นประวัติการณ์ ชาวต่างชาติ ญี่ปุ่น ประชากร อินโฟเควสท์
กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ ระบุว่า จำนวนประชากรญี่ปุ่นลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูล ในขณะที่จำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์สู่ระดับเกือบ 3 ล้านคน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชาวต่างชาติมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในสังคมญี่ปุ่น เนื่องจากช่วยเต็มเติมช่องว่างที่เกิดจากจำนวนประชากรที่ลดลง
ส่วนจำนวนประชากรโดยรวมทั้งสัญชาติญี่ปุ่นและต่างชาตินั้น ลดลง 511,000 คน สู่ระดับ 125.41 ล้านคน โดยนับเป็นครั้งแรกที่จำนวนประชากรโดยรวมลดลงในทั้งหมด 47 จังหวัด
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
นักวิเคราะห์คาดจีนไม่ใช้ยาแรงกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมโปลิตบูโรเดือนนี้ : อินโฟเควสท์นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ผู้นำระดับสูงของจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ แต่คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งจะสร้างความผิดหวังให้กับตลาดการเงินที่ต้องการให้จีนออกมาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ คณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) จัดการประชุมในเดือนก.ค. ซึ่งประกอบไปด้วยผู้มีอำนาจสูงสุดในการตัดสินใจของจีน นำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยที่ผ่านมานั้นการประชุมโปลิตบูโรจะครอบคลุมถึงนโยบายเศรษฐกิจ แต่ในการประชุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่อาวุโสของโปลิตบูโรไม่ได้ประกาศมาตรการอย่างเฉพาะเจาะจงในการประชุม แม้ว่าภาพรวมของนโยบายต่าง ๆ และภาษาที่ใช้ในแถลงการณ์นั้น สามารถบ่งชี้ถึงแนวทางที่สำคัญว่าจีนจะรับมือกับภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนข้างหน้าได้อย่างไร นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า การประชุมโปลิตบูโรครั้งนี้อาจจะมีการส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนการเติบโตมากขึ้น ซึ่งอาจหมายถึงการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้น, การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเล็กน้อย และการผ่อนคลายข้อกำหนดเพิ่มเติมในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการสนับสนุนภาคเอกชนอาจเป็นวาระหลักในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ทางการจีนเคยให้คำมั่นสัญญาไว้แล้ว นายบรูซ ผาง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และหัวหน้าฝ่ายวิจัยของบริษัทโจนส์ แลง ลาซาลล์ กล่าวว่า “การประชุมโปลิตบูโรในครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะไม่ใช้ยาแรงในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะไม่มีการประกาศนโยบายกระตุ้นเชิงรุกมากมายอย่างที่ตลาดคาดหวังไว้” นักลงทุนได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่ารัฐบาลจีนอาจจะไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนอ่อนแรงลงเป็นเวลาหลายวัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนีตลาดหุ้นจีนทำผลงานย่ำแย่ที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
'วิกรม กรมดิษฐ์' ร่วมขับเคลื่อนปราบเพจหลอกประชาชน งัดกม.เอาผิดลากถึงต้นตอประเทศแหล่งกำเนิด : อินโฟเควสท์นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) หนึ่งในผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนที่ถูกนำรูปภาพและชื่อบริษัทไปใช้ในเพจปลอมเพื่อหลอกลวงให้ประชาชนมาลงทุน กล่าวภายหลังงานแถลงข่าวโครงการ “ร่วมมือ-จับปลอมหลอกลงทุน” พร้อมรับฟังเสวนา “รู้ทันหลอกลงทุน ด้วยภูมิคุ้มกันความลวง”ว่า คนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบเป็นแฟนคลับที่ติดตามผลงานผ่านหนังสือ และการออกสื่อ ทำให้เป็นช่องว่างของกลุ่มมิจฉาชีพนำไปสร้างเพจเพื่อหลอกลวง “ผมเปรียบเสมือนเป็นผู้ต้องหาที่ทำให้เกิดผลกระทบกับแฟนคลับและประชาชน ซึ่งกลุ่มอมตะ ไม่เคยนิ่งนอนใจ ดำเนินการหาคนกระทำผิดมาโดยตลอด แต่ดูเหมือนว่า ต้องอาศัยความร่วมมือทุกฝ่าย คงทำเพียงลำพังไม่ได้ ต้องเกิดการขับเคลื่อนโดยทุกฝ่าย โดยเฉพาะเอาจริงเอาจัง ด้านกฎหมาย และอาจต้องขยายผลความร่วมมือไปยัง ต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการปราบปราม อาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งถือเป็นประเทศต้นกำเนิดของการเกิดกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง ไม่ว่าจะเป็นจีน และ ไต้หวัน” ลักษณะของการลงทุนของมิจฉาชีพพยายามสร้างแรงดึงดูด จูงใจ ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 3-7% ต่อสัปดาห์ ยืนยันได้ว่าไม่มีรูปแบบการลงทุนใด ๆ ให้ผลตอบแทนได้สูงขนาดนั้น อย่างไรก็ตามการหลอกลวงให้เกิดการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่ายังไม่สามารถให้ความรู้ได้ในวงกว้าง โดยเฉพาะประชาชนทั่วไปที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการลงทุน หรือความรู้เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง เมื่อเห็นการเชิญชวนแบบน่าเชื่อถือ ก็อาจมีผลต่อการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนได้ ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญ ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ในวงกว้างมากขึ้น สำหรับความร่วมมือของหลายองค์กรที่ร่วมกันในการขับเคลื่อนการทำงาน เพื่อแจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์ที่หลอกลวงให้เกิดการลงทุน และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินจำนวนมาก ซึ่งปัญหาดังกล่าวกลุ่มอมตะได้ดำเนินการทางกฎหมายมากว่า 1 […]
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐมนตรียูเครนยอมรับก่อเหตุโจมตีกรุงมอสโก-คาบสมุทรไครเมีย : อินโฟเควสท์นายมิไคโล เฟโดรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลของยูเครนได้ระบุผ่านบัญชีเทเลแกรมในวันนี้ (24 ก.ค.) ว่า “โดรนของเราโจมตีกรุงมอสโกและไครเมียเมื่อคืนนี้ สงครามอิเล็กทรอนิกส์และการป้องกันทางอากาศที่กองกำลังรัสเซียใช้นั้น มีประสิทธิภาพน้อยลงในการรับมือการโจมตีจากโดรนของกองทัพยูเครน และอาจมีการโจมตีเช่นนี้อีกในอนาคต” ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลของยูเครนเป็นฝ่ายรับผิดชอบโครงการริเริ่ม “กองทัพโดรน” (Army of Drones) ของยูเครน ซึ่งเป็นแผนการจัดหาโดรนของรัฐบาล สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยูเครนแทบไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการโจมตีที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินของรัสเซียหรือในดินแดนที่รัสเซียยึดครองในช่วงสงคราม โดยเพิ่งออกมายอมรับว่ามีส่วนในการระเบิดสะพานไครเมียครั้งใหญ่เมื่อเดือนต.ค. 2565 กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ยูเครนได้ปล่อยโดรน 17 ลำไปยังแหลมไครเมียเมื่อคืนนี้ โดยอ้างว่าการโจมตีบนคาบสมุทรไครเมียเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย โดยรัสเซียผนวกแคว้นไครเมียในปี 2557 รายงานระบุว่า โดรนของยูเครนได้โจมตีคลังกระสุนของรัสเซียในไครเมียเมื่อวันเสาร์ (22 ก.ค.) นอกจากนี้ ทางการรัสเซียระบุว่า โดรนของยูเครนได้มุ่งโจมตีอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย 2 หลังในกรุงมอสโกเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ (24 ก.ค.) แต่ถูกสกัดกั้นไว้ด้วยระบบป้องกันตัวเองของรัสเซียที่ใช้เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยโดรน โดยอธิบายว่าเป็นการโจมตีของยูเครนครั้งนี้ “ไม่สำเร็จ” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
SCB EIC คาดศก.-ส่งออกไทย H2/66 ดีกว่า H1 แม้ยังมีปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัว : อินโฟเควสท์ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) มองเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี (H2/66) มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และขยายตัวได้ดีกว่าช่วงครึ่งแรกของปี (H1/66) จากแรงหนุนภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยฟื้นตัวใกล้เคียงประมาณการ ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวดี โดยเฉพาะหมวดบริการ ประกอบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และตลาดแรงงานที่มีแนวโน้มปรับดีขึ้น สำหรับการส่งออกจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง H2/66 จากที่หดตัวต่อเนื่องใน H1/66 ขณะที่เศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปี มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราชะลอลง จากการปล่อยสินเชื่อและภาวะการเงินที่จะตึงตัวต่อเนื่องตามผลสะสมของการขึ้นดอกเบี้ย ภาคการผลิตและอุปสงค์สินค้าที่จะยังซบเซา แรงหนุนจากภาคบริการที่เริ่มมีสัญญาณแผ่วลง แรงส่งจากเศรษฐกิจจีนที่ต่ำกว่าคาด รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อและมีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานตึงตัวและการเติบโตที่แข็งแกร่งของค่าจ้างในช่วงครึ่งแรกของปี จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการบริโภคในระยะต่อไป และช่วยพยุงไม่ให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ อย่างไรก็ดี มองไปข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำจากหลายปัจจัย อาทิ 1) การกลับมาของเอลนีโญที่เห็นสัญญาณชัดเจนขึ้นจะสร้างความเสียหายต่อภาคเกษตร โดยข้อมูลน้ำฝนในเดือน มิ.ย. สะท้อนว่าพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก อาจประสบภาวะฝนแล้งรุนแรงมากกว่าที่ SCB EIC คาดไว้ในเดือน พ.ค. 2) การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีความไม่แน่นอนสูง อาจเป็นไปได้ที่จะล่าช้าถึงปลายเดือน […]
อ่านเพิ่มเติม »
กางเงื่อนไข! ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ สมัครโครงการสวัสดิการแห่งรัฐปี 65 : อินโฟเควสท์นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การจัดสรรประชารัฐสวัสดิการวงเงินค่าเดินทาง ผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 จำนวนวงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะรวม 750 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่งสาธารณะ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ ได้แก่ (1) รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) (2) รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) (3) รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) (BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (4) รถไฟ (5) รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร (6) รถเอกชนร่วม บขส. […]
อ่านเพิ่มเติม »
'วันนอร์' รอฝ่ายกฎหมายหาข้อสรุปเลื่อนโหวตนายกฯ หรือไม่ : อินโฟเควสท์นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีที่ประชุมรัฐสภาลงมติข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 ก.ค.66 ไม่ให้เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชิงตำแหน่งนายกฯ ซ้ำ ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และขอให้เลื่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค. 66 ออกไปก่อนนั้น เรื่องนี้ได้ขอให้ฝ่ายกฎหมายประชุมกันวันที่ 24 ก.ค.66 เพื่อหาข้อสรุปแล้วมาแจ้งให้ตนทราบ จากนั้นจะนำเรื่องไปหารือกับคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย (วิปวุฒิสภา-วิป 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล-วิปพรรคร่วมรัฐบาลเดิม) ในวันที่ 26 ก.ค.ต่อไป รวมถึงต้องฟังผลการหารือของ 8 พรรคร่วมรัฐบาลมาประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งวันที่ 25 ก.ค.66 อาจจะชี้แจงในรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง รายงานข่าว แจ้งว่า การประชุมทีมกฎหมายของรัฐสภาที่ได้หารือถึงการเลื่อนโหวตนายกฯ ในวันที่ 27 ก.ค.หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปจะให้เลื่อนการประชุมออกไปหรือไม่ โดยทีมกฎหมายขอให้ไปฟังความเห็นในที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ในวันที่ 26 […]
อ่านเพิ่มเติม »