ซีอีโอบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่สหรัฐจ่อพบ 'โมดี' ที่ทำเนียบขาว ทำเนียบขาว สหรัฐ อินเดีย อินโฟเควสท์
ในขณะที่เศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นตัว บรรดาผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐกำลังให้ความสำคัญกับการเตรียมตัวพบปะกับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดียซึ่งอยู่ในระหว่างการเยือนทำเนียบขาว รวมถึงการเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำในคืนวันพฤหัสบดี นี้ด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ซีอีโอของบริษัทขนาดใหญ่อื่น ๆ ที่มีสาขาในอินเดียที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงดังกล่าว รวมถึง นายโทนี คาปูอาโอ ซีอีโอของบริษัทแมริออท และนางเจนนิเฟอร์ รัมซีย์ ซีอีโอของบริษัทคัมมินส์ “การกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมและด้านความมั่นคงระหว่างสหรัฐและอินเดีย คาดว่าจะเป็นผลพลอยได้ครั้งสำคัญสำหรับการเดินทางเยือนของนายโมดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการแบ่งปันเทคโนโลยีที่สำคัญและอุปกรณ์การป้องกันไอพี” นางซาฟียา โกรี-ฮาห์หมัด เจ้าหน้าที่คณะมนตรีแอตแลนติกเหนือ ผู้เคยดำรงตำแหน่งคณะกรรมมาธิการฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐ กล่าว
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
'ยัสปาล' ยิ่นไฟลิ่งขาย IPO 156 ล้านหุ้น-เข้า SET ยังไม่ระบุวัตถุประสงค์ใช้เงินระดมทุน : อินโฟเควสท์บมจ.ยัสปาล (JPC) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนเวอร์ชั่นแรกต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 156,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยมี บล.กสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ณ วันที่ 31 ธ.ค.65 กลุ่มบริษัทฯ มีวงเงินกู้ยืมระยะสั้นและระยะยาวกับธนาคารกสิกรไทย 1,330.00 ล้านบาท โดยมียอดคงค้างจำนวน 746.54 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้ระบุวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้ JPC ประกอบธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ ได้แก่ (1) ธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น และสินค้าไลฟ์สไตล์อื่นๆ และ (2) ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายที่นอน เครื่องนอน ของตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ สำหรับธุรกิจสินค้าแฟชั่น กลุ่มบริษัท ผลิต และ/หรือจัดหา และจัดจำหน่ายสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสม มีความทันสมัย และหลากหลายกว่า 113,000 SKUs […]
อ่านเพิ่มเติม »
นักวิเคราะห์ชี้อาเซียนหวังแสดงความสามัคคีผ่านการซ้อมรบในทะเลจีนใต้เดือนก.ย. : อินโฟเควสท์ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) วางแผนจัดการซ้อมรบร่วมครั้งแรกในทะเลจีนใต้ในเดือนก.ย. ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแผ่ขยายอิทธิพลในพื้นที่ดังกล่าวของจีน โดยกลุ่มผู้เชี่ยวชาญมองว่า การซ้อมรบดังกล่าวถือเป็นวิธีแสดงความสามัคคีในช่วงที่อาเซียนกำลังเผชิญกับความท้าทาย รวมถึงการรับมือวิกฤตในเมียนมา ซึ่งได้เผยให้เห็นถึงความแตกแยกกันในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน “อาเซียนต้องยกระดับความร่วมมือกันด้วยความกระตือรือร้น เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและเสถียรภาพให้กับอาเซียนและภูมิภาค” พลเรือเอกยูโด มาร์กาโน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอินโดนีเซียระบุหลังเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำกลาโหมอาเซียนที่เกาะบาหลีเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. พลเรือเอกมาร์กาโนระบุว่า ภารกิจซ้อมรบร่วมครั้งนี้จะจัดขึ้นที่ทะเลนาทูนาเหนือ นอกชายฝั่งประเทศอินโดนีเซีย โดยทั้ง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนจะเข้าร่วมด้วย ขณะที่ประเทศติมอร์-เลสเต ซึ่งอยู่ในสถานะผู้สังเกตการณ์ของอาเซียน ก็ได้รับเชิญเข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมรบร่วมครั้งนี้เช่นกัน นอกจากนี้ พลเรือเอกมาร์กาโนระบุด้วยว่า การซ้อมรบร่วมครั้งนี้จะประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า เดิมทีประเทศสมาชิกอาเซียนจะออกปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับพันธมิตรนอกอาเซียน เช่น สหรัฐ ดังนั้นการซ้อมรบดังกล่าวจะเป็นการซ้อมรบในกลุ่มอาเซียนครั้งแรก “การซ้อมรบร่วมในกลุ่มอาเซียนจะเป็นการฝึกความพร้อมด้านการทำงานร่วมกันของอาเซียนในด้านความปลอดภัยและการกู้ภัยทางทะเล แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ” นางชารอน ซีอาห์ นักวิจัยระดับอาวุโสของสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak Institute ในสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวนิกเกอิเอเชีย นางซีอาห์กล่าวว่า แม้อินโดนีเซียจะไม่ได้อ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้ แต่ต้องรับมือกับการรุกล้ำเขตเศรษฐกิจจำเพาะตลอดหลายปีที่ผ่านมา “ขณะที่ประเทศอื่น ๆ เช่น สิงคโปร์ สนใจที่จะรับประกันเรื่องการยึดมั่นต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยสิงคโปร์ไม่ได้อ้างกรรมสิทธิ์เหนือทะเลจีนใต้เช่นกัน” “การซ้อมรบร่วมของอาเซียนถือเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองต่อประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน เพื่อแสดงให้เห็นว่าอาเซียนมีความสามัคคี” […]
อ่านเพิ่มเติม »
ลุ้น! กกต.รับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.- เตือนแกล้งผู้สมัคร ระวังโทษอ่วม : อินโฟเควสท์รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประชุมเพื่อพิจารณารับรองให้ผู้ชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยเป็นการพิจารณาต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสำนักงาน กกต.เป็นผู้เสนอเรื่อง แต่ยังไม่มีความเห็นของผู้ตรวจการเลือกตั้ง กกต.จึงให้สำนักงาน กกต.กลับไปรวบรวมข้อมูลให้พร้อม แล้วเสนอกลับมาอีกครั้งในสัปดาห์นี้ และหากยังไม่ได้ข้อสรุป ก็จะมีการประชุมต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ โดยที่ประชุม กกต.จะมีการพิจารณาเรื่องรับรอง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมกับ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยคาดว่าจะประกาศรับรอง ส.ส.ได้ภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะให้ ส.ส.ทยอยไปรับเอกสารรับรอง ก่อนหน้านี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ระบุว่าจะประกาศรับรองผลให้ได้อย่างน้อย 95% แต่ถ้าข้อมูลครบถ้วน ก็จะสามารถประกาศได้ครบ 100% พร้อมยืนยันว่า กกต.จะประกาศผลให้เร็วกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ขณะเดียวกัน สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่อินโฟกราฟฟิกให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ย้ำเตือนกรณีการแกล้งผู้สมัคร ส.ส.ไม่ให้มีการประกาศผลการเลือกตั้งจะมีผลอย่างไร โดยระบุรายละเอียดว่า ผู้ใดกระทำการอันเป็นเท็จ เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 เพื่อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั้น ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพื่อไม่ให้มีการประกาศผลการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
STARK ติดฟลอร์รับเปิดงบพบกลโกงหมื่นล้าน-เข้าข่ายเพิกถอน ฉุด TOA ร่วงตาม Sentiment : อินโฟเควสท์ราคาหุ้น STARK ร่วงติดฟลอร์ 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,739.08 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.00 น.จากราคาเปิด 0.05 บาท ราคาต่ำสุด 0.05 บาท หลังจากเปิดงบการเงินปี 65 พร้อมปรับงบปี 64 ขาดทุนหนักต่อเนื่อง ผู้สอบบัญชีพบการทุจริตหลายจุดที่ดำเนินการผ่านบริษัทย่อยทั้งการรับ-จ่ายเงิน ขณะที่หุ้น STARK ก็ใกล้จะกลับไปแวน SP ยาวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.66 นี้ STARK เปิดงบปี 65 ขาดทุนกว่า 6.6 พันล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.5393 บาท พร้อมทั้งแก้งบปี 64 เปลี่ยนเป็นขาดทุน 5,965 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.501 บาท จากเดิมที่เคยแจ้งว่ากำไร 2.8 พันล้านบาท ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 4,403 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) […]
อ่านเพิ่มเติม »
จนท.ระดับสูง EU เรียกร้องประเทศสมาชิกแบนหัวเว่ย-แซดทีอี จากเครือข่าย 5G : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป () เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกแบนบริษัทโทรคมนาคมของจีน เช่น หัวเว่ย และ แซดทีอี จากเครือข่าย 5G ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดกับจีน นายเธียร์รี เบรตัน หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวว่า เขาต้องการให้ประเทศสมาชิก EU ถอดซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หัวเว่ย และแซดทีอี ออกจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ โดยอ้างถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติ รายงานระบุว่า เมื่อเดือนม.ค. 2563 EU ได้นำ “เครื่องมือความปลอดภัยทางไซเบอร์ 5G” มาใช้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุความเสี่ยงในการยอมรับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน 5G บางราย ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่หลายประเทศรวมถึงอังกฤษกำลังจะตัดสินใจแบนหัวเว่ย เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย นายเบรตันระบุว่า “เราจะเดินหน้าทำงานต่อไปด้วยความมุ่งมั่นร่วมกับประเทศสมาชิกที่ยังตามหลังในประเด็นนี้ และผู้ให้บริการโทรคมนาคม ขณะนี้ผมทำได้เพียงเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งการตัดสินใจเพื่อแบนซัพพลายเออร์ที่มีความเสี่ยงสูงจากเครือข่าย 5G ของพวกเขา ผมได้เตือนผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เกี่ยวข้องว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการกับปัญหานี้” นายเบรตันเสริมว่า จนถึงปัจจุบัน มีเพียง 10 ประเทศใน EU เท่านั้นที่จำกัดหรือแบนหัวเว่ยจากเครือข่าย 5G ของตน “ในส่วนของเรา EC […]
อ่านเพิ่มเติม »
ก.ต่างประเทศ ชี้แจงไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมไม่เป็นทางการแก้ปัญหาขัดแย้งในเมียนมาวันนี้ : อินโฟเควสท์กระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า ในวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ไทยจะจัดการประชุมพบปะแบบสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งในประเทศเมียนมา ซึ่งไม่ได้เป็นการประชุมในกรอบอาเซียน แต่จะช่วยส่งเสริมสนับสนุนความพยายามของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาเมียนมา ทั้งนี้ ไทยได้แจ้งอย่างเป็นทางการต่อที่ประชุม ASEAN Regional Forum (ARF) ของอาเซียนที่กรุงพนมเปญเมื่อปี 2565 ว่า ไทยจะดำเนินการให้มีการพูดคุยเพื่อหาวิธีซึ่งจะได้มาเพื่อการแก้ปัญหาในเมียนมาอย่างสันติในทุกกรอบ รวมทั้งในกรอบ 1.5 ซึ่งครอบคลุมการประชุมทั้งภาคราชการและวิชาการ ซึ่งสมาชิกอาเซียนรับทราบและไม่มีผู้คัดค้าน สำหรับการประชุมครั้งนี้จะมีผู้แทนระดับสูงจาก ลาว กัมพูชา เมียนมา อินเดีย จีน บรูไน เวียดนาม เข้าร่วม ไทยเคยจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับเมียนมาแล้วหลายครั้ง ในหลากหลายรูปแบบและหลายระดับ ซึ่งได้จัดการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งทุกครั้ง นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศได้แจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศอาเซียนทราบและเชิญเข้าร่วมการประชุมด้วย รวมทั้งเคยจัดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเมียนมาได้พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซีย รวมทั้งพบกับผู้แทนของสหประชาชาติในโอกาสต่อมา ตลอดจนจัดให้นักธุรกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภายในของเมียนมาได้มีโอกาสพูดคุยกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของเมียนมาโดยตรง ทำให้ปัญหาหลายประการคลี่คลายไปได้ นอกจากนั้น ไทยเคยจัดให้ภาคส่วนที่สนใจในการหาทางแก้ไขปัญหาเมียนมาโดยวิธีสันติ ตลอดจนนักวิชาการ มาร่วมการสัมมนาในหัวข้อที่สำคัญ อาทิ ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การดำเนินการทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและสามารถต่อยอดซึ่งกันและกันได้ โดยเน้นว่าจะไม่มีการนำเอาเรื่องที่พูดคุยกันออกมาเปิดเผยเพื่อให้การสนทนาเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา […]
อ่านเพิ่มเติม »