ไวซ์ไซท์ ประเทศไทย รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ซีเซียม137 ระหว่างวันที่ 14-21 มีนาคม 2566 SanookHitech Sanook
ซึ่งมีการประกาศตามหาและให้รางวัลสำหรับผู้พบเบาะแสเป็นเงินทั้งสิ้น 1 แสนบาท ข่าวนี้ทำให้โซเชียลตื่นตระหนกพร้อมความกังวลใจเพราะสารกัมมันตรังสีดังกล่าวเป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว หากสารกัมมันตรังสีภายในออกมาจากท่อเหล็กที่ห่อหุ้มเอาไว้จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลผ่านเครื่องมือ ZOCIAL EYE ระหว่างวันที่ 14-21 มีนาคม 2566 พบว่า ข้อความที่เกิดขึ้นทั้งหมดมากกว่า 12,000 ข้อความ และมีเอ็นเกจเมนต์มากกว่า 7,000,000 เอ็นเกจเมนต์ จากผู้ใช้งานทั้งสิ้น 2,700 แอคเคาต์...
ข้อความส่วนมากเกิดขึ้นบน Facebook เป็นหลักคิดเป็น 61.56% ตามมาด้วย Twitter , YouTube และช่องทางอื่นๆ มีการนำเสนอข่าวผ่าน Bugaboo.tv เป็นที่แรกในช่วง 0.
หลังจากนั้น ข่าวค่อนข้างเงียบหายไปจากโซเชียลมีเดีย คอมเมนต์จากชาวโซเชียลบ้างก็เกิดความสงสัยว่าทำไมข่าวนี้ยังไม่เป็นวาระแห่งชาติเนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก หรือสื่อที่นำเสนอข่าวนี้น้อยกว่าข่าวดาราเลิกกันด้วยซ้ำ จนกระทั้งวันที่ 19 มีนาคม ข่าวนี้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง เนื่องจากค้นพบ #ซีเซียม-137 แล้วที่โรงหลอมเหล็กของบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด ในสภาพถูกบีบอัดเป็นก้อนสี่หลี่ยม เจ้าหน้าใช้เครื่องมือตรวจจับรังสีได้ทันเวลาก่อนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่...
แล้วบอกลูกว่าเจอแล้ว แต่ไม่กล้าบอกเต็มปากว่า เจอแบบไหน? ปลอดภัยรึเปล่า? หรือข้อความจากผู้ใช้งานทาง Twitter ใจความว่า ‘เรื่องสารกัมมันตรังสีที่หายไปและถูกเอาไปหลอมในโรงงานหลอมเหล็กเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก และจะส่งผลกระทบถึงสุขภาพและร่างกายของคนแถบนั้นอาจจะทั้งอำเภอหรือทั้งจังหวัดว่าฝุ่นรังสีกระจายไปถึงไหน แต่รัฐบาลคือเฉยมากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น’ หรือแม้กระทั่งเพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าวเอง ก็ออกมาโพสต์รูปถามถึงการเก็บฝุ่นแดงปนเปื้อนซีเซียม-137 ว่า ‘อยู่ในระบบปิดแน่นะวิ’ เรียกได้ว่า...
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ ความชัดเจนและความรวดเร็วในการสื่อสารของภาครัฐ อีกทั้งยังมีการสื่อสารเรื่องการบริหารจัดการหลังเกิดเหตุที่จำเป็นอย่างมาก เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กลับมา เนื่องจากในตอนนี้ชาวโซเชียลหลายกลุ่มยังได้ข้อมูลแบบกระจัดกระจาย และบางข้อมูลอาจเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งชาวโซเชียลก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีประกาศอะไรเพิ่มเติมจากผลกระทบของวิกฤตในครั้งนี้...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ถอดบทเรียนหายนะ 'ซีเซียม-137' แพร่กระจาย เสียชีวิต-เจ็บป่วยจำนวนมากถอดบทเรียนหายนะ สารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137 แพร่กระจาย เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้วในบราซิล พบคนเสียชีวิตและเจ็บป่วยจำนวนมากบทเรียนการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสี ซีเซียม-137บีบีซี สื่อข
อ่านเพิ่มเติม »
วิศวฯ จุฬาฯ รับตรวจ 'ซีเซียม-137' ให้ประชาชนที่กังวลได้รับรังสีวิศวฯ จุฬาฯ รับตรวจ 'ซีเซียม-137' ประชาชนในพื้นที่มีความกังวลหรือคาดว่ามีโอกาสประสบกับการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีซีเซียม-137 เผยการแพร่กระจายสู่ร่างกายมี 2 วิธี คือ ฟุ้งมาเกาะตามเสื้อผ้าหรือผิวหนัง และการสูดดมหรือกินอาหารปนเปื้อน
อ่านเพิ่มเติม »
ตร.เตรียมเอาผิดโรงงานไฟฟ้า ฐานทำ 'ซีเซียม-137' หาย แต่ไม่รีบแจ้งความตร.ปราจีนบุรี เตรียมเอาผิดโรงงานไฟฟ้า ฐานทำ 'ซีเซียม-137' หายแต่ไม่รีบแจ้งความ ขณะที่ชาวบ้าน เตรียมบุกยื่นหนังสือถึงนายกฯ -รักษาการณ์นายกฯ ให้ยกปัญหาเป็นระดับชาติ
อ่านเพิ่มเติม »
อว.สั่งคณะแพทย์ทั่วประเทศติดตามสถานการณ์ซีเซียม-137รมว.อว. ประชุมคณบดีคณะแพทยศาสตร์ทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์กรณีวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม137 สูญหาย สั่งค้นหาและรายงานผู้มีอาการหรือมีประวัติได้รับสารดังกล่าว พร้อมให้ข้อมูลความรู้ทางวิชาการที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ และเข้าใจง่ายต่อสาธารณชน
อ่านเพิ่มเติม »
ผลตรวจพบการปนเปื้อนซีเซียม-137 โรงงานหลอมโลหะ 2 จุดหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เผยผลตรวจพบการปนเปื้อนวัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม137 จำนวน 2 จุด ในโรงงานหลอมโลหะ จ.ปราจีนบุรี ส่วนผลตรวจเลือดคนงาน 70 คน ไม่พบสารกัมมันตรังสี
อ่านเพิ่มเติม »
'ดร.เอ้' ถอดบทเรียน ซีเซียม-137 หายอันตรายถึงตาย จี้โรงงานยึดหลักสากลอย่างเคร่งครัด'ดร.เอ้' ถอดบทเรียน ซีเซียม-137 หายไป อันตรายถึงตาย สะท้อนปัญหาคุณภาพชีวิตคนไทยที่ขาดการดูแล แนะทุกโรงงานที่มีการครอบครองวัสดุกัมมันตรังสีต้องมีมาตรฐานตรวจสอบรัดกุมเข้มงวด ยึดหลักสากลอย่างเคร่งครัด หน่วยงานรัฐต้องรายงานผลอย่างซื่อตรงชัดเจนไม่หมกเม็ด
อ่านเพิ่มเติม »