ชาวเยอรมันที่อาศัยอยู่ในจีนได้รับวัคซีนต่างชาติเป็นครั้งแรก อินโฟเควสท์
ชาวเยอรมันที่อาศัยอยู่ในจีนเริ่มได้รับวัคซีนโควิด-19 จากไบออนเทค ในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากต่างประเทศในจีนเป็นครั้งแรก เนื่องจากจีนไม่อนุญาตให้ใช้วัคซีนต่างประเทศ แม้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ข้อตกลงระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่งของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ชาวเยอรมันที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปสามารถรับวัคซีนไบออนเทคเข็มแรกหรือเข็มกระตุ้นได้ที่โรงพยาบาลนานาชาติที่มีการกำหนดเอาไว้ในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหยาง กวางโจว หรือเฉิงตู กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีระบุเมื่อวันอังคาร ว่า วัคซีนไบออนเทค ซึ่งพัฒนาร่วมกับไฟเซอร์ มากกว่า 8,000 โดส ได้ถูกส่งไปยังจีนแล้ว และมีผู้ลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากกว่า 1,500 ราย
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
เปิดรายชื่อบริษัทเทคโนโลยีที่ปลดพนักงานท่ามกลางภาวะไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ : อินโฟเควสท์ข้อมูลจากแชลเลนเจอร์, เกรย์ แอนด์ คริสต์มาส (Challenger, Gray & Christmas) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านแรงงานของสหรัฐระบุว่า อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเดินหน้าปลดพนักงานในระดับใกล้เคียงกับช่วงแรก ๆ ที่โควิด-19 ระบาด โดยในเดือนพ.ย. 2565 อุตสาหกรรมดังกล่าวประกาศปลดพนักงาน 52,771 ตำแหน่ง ส่งผลให้จำนวนพนักงานที่ถูกปลดทั้งหมดในปี 2565 อยู่ที่ 80,978 ตำแหน่ง ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทเริ่มเก็บข้อมูลในปี 2543 หลังประสบปัญหาในช่วงเริ่มต้นของโรคระบาดในปี 2563 บรรดาบริษัทเทคโนโลยีต่างได้ประโยชน์จากการที่ผู้บริโภคแห่จับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซและกระแสการทำงานจากที่บ้านที่เฟื่องฟูจนนำไปสู่การเร่งจ้างงาน แต่สถานการณ์ในปัจจุบันได้แปรเปลี่ยนไปแล้ว โดยผลประกอบการล่าสุดของบริษัทต่าง ๆ เช่น อัลฟาเบท, แอมะซอนดอทคอม, เมตา แพลตฟอร์มส์ และไมโครซอฟท์ ต่างก็ต่ำกว่าคาดการณ์ และฉุดราคาหุ้นดิ่งลง สภาพการณ์ที่เริ่มย่ำแย่ลง ส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ปลดพนักงานและระงับการจ้างงานเพิ่ม เพื่อประหยัดต้นทุน – แอมะซอน (Amazon) นายแอนดี แจสซี ซีอีโอของแอมะซอนซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ ยืนยันว่า แอมะซอนจะปรับลดพนักงานมากกว่า 18,000 คน […]
อ่านเพิ่มเติม »
ป.ป.ช.ปัดตกสอบปม กกพ.ผ่านคุณสมบัติโรงไฟฟ้าชุมชนเอกชนที่มีบอร์ดชุดเดียวกันเหตุไร้ข้อห้าม : อินโฟเควสท์คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่รับพิจารณาข้อกล่าวหาคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติและคำเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) ว่าพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าโดยมิชอบกรณีหลายบริษัทมีกรรมการเป็นบุคคลเดียวกันอาจมีผลประโยชน์ร่วมกันและอาจจะทำให้เกิดการได้เปรียบและเสียเปรียบกัน เนื่องจากระเบียบไม่ได้ห้ามไว้ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า หลังจาก ป.ป.ช.ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วฟังได้ว่าคณะรัฐมนตรีมีนโยบายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาเพิ่มมูลค่า และเปิดโอกาสให้ชุมชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตและบริหารจัดการพลังงานในพื้นที่ โดยให้ กกพ.กำหนดหลักการและเงื่อนไขการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการดังกล่าว ซึ่งมีผู้ยื่นข้อเสนอเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 246 ราย ในชั้นการพิจารณาคุณสมบัติและคำเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิคพบว่ามีบริษัทผู้ยื่นคำขอเสนอขายไฟฟ้าหลายบริษัทมีกรรมการเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกันทั้งหมดจริง แต่ระเบียบไม่ห้ามว้ คณะอนุกรรมการฯ จึงทำความเห็นเสนอคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติฯ ว่าบริษัทดังกล่าวมีคุณสมบัติครบถ้วน จากนั้นคณะกรรมการพิจารณาคุณสมบัติฯ ได้ให้ความเห็นชอบรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมากที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติและคำเสนอขอขายไฟฟ้าด้านเทคนิค 95 โครงการ และมีผู้ไม่ผ่าน 151 โครงการ จากโครงการทั้งหมด 246 โครงการ จากนั้นผู้ที่ไม่ผ่านการพิจารณาด้านคุณสมบัติและเทคนิคฯ 118 ราย ได้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาต่อ กกพ.และมีผู้สมัครที่ผ่านการพิจารณาอุทธรณ์ดังกล่าวจำนวน 74 ราย ทำให้ท้ายที่สุดแล้วมีผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติและความพร้อมด้านเทคนิค 169 ราย สำหรับการพิจารณาด้านราคา มีผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ 169 ราย โดยมีคำเสนอขอขายไฟฟ้าด้านราคาไม่ถูกต้อง 10 ราย […]
อ่านเพิ่มเติม »
พร้อมเต็มสูบ! รับนทท.จีน ย้ำไม่เลือกปฏิบัติ-ตั้งศูนย์ฯติดตามสถานการณ์ : อินโฟเควสท์นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมกำหนดมาตรการรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทย เพื่อป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้าร่วมประชุม นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เป็นการหารือของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการรับผู้เดินทางจากต่างประเทศสำหรับปี 2566 รวมถึงการเตรียมความพร้อมกรณีที่ประเทศจีนทยอยเปิดประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าทางการได้มีมาตรการรองรับที่รอบด้าน เพื่อจะให้ภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างก้าวกระโดดในระยะต่อไปสามารถชดเชยความเสียหายที่เกิดต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้ ทั้งนี้ ในภาพรวมการหารือมีความมั่นใจว่าประเทศไทยมีความพร้อมในทุกด้าน เนื่องจากการได้เตรียมการมาระยะหนึ่งและมีมาตรการที่ครอบคุม ทั้งการคัดกรอง ป้องกัน และดูแลรักษานักท่องเที่ยว และในครั้งนี้ก็มีการเสนอมาตรการเสริมจากหน่วยงานต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมโรค ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข จะนำแต่ละข้อเสนอไปกำหนดเป็นรายละเอียดต่อไป “ยืนยันในหลักดำเนินการที่จะไม่เลือกปฏิบัติต่อประเทศใดประเทศหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้การยังคงมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทุกประเทศ และเป็นการระบาดในมีสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกัน จึงไม่ควรให้โควิด-19 มาเป็นประเด็นการกีดกันประเทศใดประเทศหนึ่ง” นายอนุทิน […]
อ่านเพิ่มเติม »
แอมะซอนบรรลุข้อตกลงกู้เงิน 8 พันล้านดอลล์เพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไปขององค์กร : อินโฟเควสท์แอมะซอนดอตคอม อิงค์ เปิดเผยในวันอังคาร (3 ม.ค.) ว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับผู้ปล่อยเงินกู้บางราย เพื่อขอกู้ยืมเงินที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ แอมะซอนระบุว่า วงเงินกู้ดังกล่าวมีกำหนดชำระคืนใน 364 วัน โดยมีเงื่อนไขที่จะสามารถขยายเวลาออกไปได้อีก 364 วัน และเงินกู้ดังกล่าวจะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทั่วไปขององค์กรเท่านั้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงถ้อยแถลงของแอมะซอนที่ระบุว่า ณ สิ้นไตรมาส 3/2565 ที่สิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. ทางบริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีหนี้สินระยะยาวประมาณ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
IMF เตือนปัญหาเงินเฟ้อสหรัฐยังไม่จบ วอนเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย : อินโฟเควสท์นางกีตา โกปินาธ รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สในวันนี้ (5 ม.ค.) ว่า ปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐนั้นยังมาไม่ถึงจุดจบ โดยยังเร็วเกินไปที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศชัยชนะในการต่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ นางโกปินาธเรียกร้องให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ “หากคุณเห็นเครื่องบ่งชี้ในตลาดแรงงานสหรัฐ และหากคุณพิจารณาองค์ประกอบเงินเฟ้อต่าง ๆ ที่อยู่ในระดับสูงอย่างมาก เช่น เงินเฟ้อภาคบริการ ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐนั้นยังมาไม่ถึงจุดจบ” นางโกปินาธกล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
เศรษฐกิจฮ่องกงเสียหาย 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์ เซ่นพิษมาตรการคุมเข้มโควิด : อินโฟเควสท์เนทิซิส เอสเอ (Natixis SA) บริษัทด้านวาณิชธนกิจของฝรั่งเศสบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงสูญเสียศักยภาพในการเติบโตไปประมาณ 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด เนทิซิสได้ทำการคำนวณความเสียหายดังกล่าวบนสมมติฐานที่ว่าเศรษฐกิจของฮ่องกงจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 2.8% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาในกรณีที่ไม่มีโรคโควิด-19 และความเสียหายดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของปี 2561 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ฮ่องกงเป็นหนึ่งในชาติที่แยกตัวโดดเดี่ยวมากที่สุดในโลก เนื่องจากรัฐบาลปิดพรมแดนเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี อย่างไรก็ตาม ศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้จะเปิดพรมแดนไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ในเร็ว ๆ นี้ หลังจากยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 เกือบทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงการห้ามเดินทางทางอากาศและการกักตัวในโรงแรมที่บังคับใช้มาตลอดปี 2565 นั่นหมายความว่า เศรษฐกิจของฮ่องกงมีแนวโน้มจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2566 นายแกรี่ อึ้ง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเนทิซิสให้ความเห็นว่า ตอนนี้จีนแผ่นดินใหญ่ได้ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์แล้วและการเปิดประเทศใหม่จะเป็นแรงผลักดันการเติบโตของฮ่องกงด้วยกิจกรรมข้ามพรมแดนที่จะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง นายอึ้งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฮ่องกงอาจเติบโตราว 4% ในปีนี้ แม้ว่าการที่ประเทศต่าง ๆ ตั้งข้อกำหนดการเดินทางเข้าเมืองกับผู้เดินทางจากจีนนั้น อาจทำให้การกลับสู่ภาวะปกติล่าช้าก็ตาม ผลสำรวจของบลูมเบิร์กคาดว่า GDP ของฮ่องกงอาจหดตัว 3% ในปี […]
อ่านเพิ่มเติม »