ชาติพัฒนากล้า เปิดนโยบายลดภาษีบุคคลธรรมดา เอาใจมนุษย์เงินเดือน พรรคชาติพัฒนากล้า อินโฟเควสท์
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แถลงนโยบายเศรษฐกิจชุดที่ 2 “ลดภาษีบุคคล เงินเดือนไม่ถึง 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี!” ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ทันที 4 ล้านคน โดย 2 ล้านคนที่รายได้เงินเดือนไม่ถึง 40,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษีทันที ส่วนที่รายได้สูงกว่านั้น จะได้รับการยกเว้นภาษีในเงิน 40,000 บาทแรกด้วยเช่นกัน
สำหรับนโยบายนี้พุ่งเป้าไปถึงกลุ่มคนที่ถูกมองข้ามทางการเมืองมาโดยตลอด เป็นกลุ่มคนที่แบกรับภาระภาษีเต็มๆ มายาวนาน นั่นก็คือกลุ่มมนุษย์เงินเดือนและฟรีแลนซ์ เกณฑ์เดิมเงินเดือนต่ำกว่า 26,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งอัตรานี้ไม่ได้เปลี่ยนมายาวนานหลายปี ในขณะที่ค่าครองชีพ ค่าผ่อนบ้าน ค่าเดินทางสูงขึ้น ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ได้รับการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เป็น 20% มายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว ประกอบกับการประมาณการรายได้ของรัฐบาลปี 2567 รายได้ภาษีของรัฐจะเพิ่มขึ้นเกือบ 3 แสนล้านบาท...
“รายได้ที่จะเข้ารัฐส่วนนี้ มีสัดส่วนไม่ถึง 5% ของรายได้รวมของรัฐ หรือ 6,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น ถ้าลดภาษีให้ส่วนนี้ได้ จะทำให้คนกลุ่มนี้มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น เชื่อว่าเงินส่วนนั้นจะกลับมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจแน่นอน และบางส่วนจะกลับมาเป็นรายได้ของรัฐในรูปแบบภาษีมูลค่าเพิ่ม และย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการหาเสียงเรื่องนี้กันตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 ย้อนไปดูว่ามีการพูดถึงเรื่องนี้กันหรือไม่ โดยใคร และตอนนี้ถึงเวลาที่ควรดำเนินการทันที...
โดยนโยบายชุดแรกเราได้นำเสนอนโยบายปฏิรูประบบสินเชื่อ ยกเลิกแบล็กลิสต์จนเป็นกระแสในขณะนี้ เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ตามระดับความน่าเชื่อถือทางเครดิตของประชาชนแต่ละคน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เรานำเสนอต่อสังคม ส่วนคำถามว่าจะเอารัฐจะเอาเงินรายได้มาจากไหน วันที่ 24 ม.ค.66 นี้ พรรคชาติพัฒนากล้าจะมีการแถลงนโยบายชุดใหญ่ โดยหัวหน้าพรรคจะมาอธิบายให้ฟังว่าทำอย่างไรจะทำให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านล้านบาท ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ กรุงเทพฯ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ชาติพัฒนากล้า ชูนโยบาย!สร้างความเป็นมนุษย์เงินเดือน 40,000 บาทแรกชาติพัฒนากล้า ออกนโยบายเอาใจมนุษย์เงินเดือน 40,000 บาทแรก ยกเว้นภาษี มอง เป็นการสร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ ย้อนถาม ปี 62 นโยบายโดนตีตก มองเสียเวลาไปแล้ว 4 ปี
อ่านเพิ่มเติม »
ธอส.ปักธงสินเชื่อใหม่ปี 66 โต 3% : อินโฟเควสท์นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2566 ธอส. ยังคงเดินหน้าสานต่อนโยบายรัฐบาล สร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับประชาชน ด้วยการทำให้คนไทยมีบ้านอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 233,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากเป้าหมายในปี 2565 ที่อยู่ที่ 226,423 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะมาจากความร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในการจัดทำ “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน” ภายใต้กรอบวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 สามารถใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัย จากสถาบันการเงินอื่นมาที่ ธอส. รวมถึงเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับ ธอส. อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-5 ปี เท่ากับ 1.99% ต่อปี วงเงินให้กู้สูงสุดตามจำนวนเงินต้นคงเหลือไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยหลังจากเปิดให้ผู้ประกันตนขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ล่าสุด ณ วันที่ 17 […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ริชิ ซูนัก' เซ็ง โดนตำรวจตาดีสั่งปรับฐานไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะถ่ายคลิปในรถ : อินโฟเควสท์ตำรวจอังกฤษสั่งปรับนายริชิ ซูนัก นายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อวันศุกร์ (20 ม.ค.) โทษฐานไม่คาดเข็มขัดนิรภัยขณะนั่งโดยสารรถยนต์ที่เบาะหลังและถ่ายคลิปลงโซเชียลมีเดีย สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายซูนักได้กล่าวขอโทษกับสิ่งที่เขาระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดชั่วครู่ หลังเขาถ่ายวิดีโอที่เบาะหลังของรถยนต์ขณะเดินทางไปยังภาคเหนือของอังกฤษ โดยที่เขาไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ทั้งนี้ นับเป็นการลงโทษครั้งที่สองแล้วที่นายซูนักได้รับจากตำรวจ หลังจากเมื่อปีที่แล้ว เขาได้ฝ่าฝืนกฎการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ร่วมกับนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษในขณะนั้น การถูกลงโทษปรับดังกล่าวนับเป็นความท้าทายครั้งใหม่สำหรับนายซูนัก ซึ่งพยายามจะพลิกฟื้นอนาคตของพรรคอนุรักษ์นิยมขณะที่พรรคมีคะแนนนิยมตามหลังพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในการสำรวจความคิดเห็น ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นอย่างช้าที่สุดในเดือนม.ค. 2568 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ญี่ปุ่นจ่อลดความรุนแรงโควิดเทียบเท่าไข้หวัด ฤดูใบไม้ผลินี้ : อินโฟเควสท์นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นระบุในวันนี้ (20 ม.ค.) ว่า เขาได้สั่งการให้คณะรัฐมนตรีปรับลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ให้เหลือเทียบเท่ากับโรคไข้หวัดตามฤดูกาล เนื่องจากรัฐบาลต้องการหันมาให้ความใส่ใจในเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งปกติแล้วตรงกับเดือนมี.ค. – พ.ค. สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียรายงานว่า ปัจจุบัน ญี่ปุ่นจัดให้โรคโควิด-19 เป็นโรคที่มีความรุนแรงสูงสุดอันดับสอง เช่นเดียวกับวัณโรคและโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์ส โดยจะปรับลดลงสู่ระดับ 5 ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลไม่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอีกต่อไป ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 หรือผู้ติดต่อใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไม่จำเป็นต้องกักตัวอีกต่อไป ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็จะยกเลิกการอุดหนุนค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ให้กับผู้ป่วยโรคโควิด-19 และเตรียมยกเลิกคำแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคาร โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยปิดเช้าลบ 12.65 จุด รับแรงกดดันงบแบงก์แย่เร่งตั้งสำรองเพิ่มกังวลเศรษฐกิจชะลอ : อินโฟเควสท์SET ปิดช่วงเช้านี้ที่ 1,675.83 จุด ลดลง 12.65 จุด (-0.75%) มูลค่าการซื้อขายราว 46,098 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นเช้านี้ ดัชนีร่วงลงช่วงเช้ารับแรงกดดันจากกลุ่มแบงก์และไฟแนนซ์ โดยทำระดับสูงสุด 1,688.59 จุด และระดับต่ำสุด 1,672.49 จุด นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากกลุ่มแบงก์ ที่งบไตรมาส 4/65 ออกมาไม่ดีนักและการตั้งสำรองที่สูงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คือ KBANK รวมไปถึง BBL ก็ตั้งสำรองสูงขึ้นเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงความกังวลภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งส่งผลต่อเนื่องมายังหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ที่อาจจะได้รับผลกระทบด้วย ขณะที่ช่วงบ่ายมองว่าตลาดจะยังเคลื่อนไหวในแดนลบอย่างต่อเนื่อง แนะนำเกาะติดผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่กำลังจะทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง และทิศทางเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมให้แนวรับที่ 1,668 จุด และ แนวต้าน 1,680 จุด ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ KBANK มูลค่าการซื้อขาย 8,578.37 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท […]
อ่านเพิ่มเติม »
แบงก์ชาติจีนอัดฉีดเงินสดสูงเป็นประวัติการณ์ หลังดีมานด์พุ่งรับตรุษจีน : อินโฟเควสท์ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินสดระยะสั้นเข้าสู่ระบบธนาคารมากเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากความต้องการเงินสดพุ่งสูงขึ้นหลังจากการยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 และก่อนวันหยุดเทศกาลตรุษจีน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานในวันนี้ (20 ม.ค.) ว่า ธนาคารกลางจีนได้เพิ่มเงินสดรวมสุทธิ 1.97 ล้านล้านหยวน (2.91 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในสัปดาห์นี้ในการดำเนินการผ่านตลาดการเงิน ซึ่งสูงกว่า 9 เท่าของจำนวนที่อัดฉีดเข้าระบบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ การอัดฉีดเงินสดจำนวนมากคาดว่าจะช่วยให้อัตราดอกเบี้ยประเภท 7 วันในตลาดเงินลดลง หลังจากเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการแห่ถอนเงินสดเพื่อให้เป็นของขวัญรับวันตรุษจีนและเพื่อการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ การจ่ายภาษีนิติบุคคลของบริษัทต่าง ๆ นั้นคาดว่าจะดึงเงินสดออกจากระบบรวมราว 1.48 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าความต้องการเงินสดตามฤดูกาลจะลดลงหลังสิ้นสุดเทศกาลวันหยุด แต่พวกเขาdHคาดว่า อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินจะยังคงปรับตัวขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นหลังจากจีนยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »