ชัยวุฒิ ขู่! เตรียมร้องศาลปิด Facebook ในไทย เพราะไม่จัดการปัญหาเพจหลอกลวง

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ชัยวุฒิ ขู่! เตรียมร้องศาลปิด Facebook ในไทย เพราะไม่จัดการปัญหาเพจหลอกลวง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 SPRiNGNEWS_TH
  • ⏱ Reading Time:
  • 62 sec. here
  • 3 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 28%
  • Publisher: 53%

รมต.ชัยวุฒิ ประกาศกร้าว พร้อมยื่นศาล ปิด Facebook สิ้นเดือนนี้ หวังสกัดมิจฉาชีพหลอกลงทุน คนร้ายอ้างชื่อตลาดหลักทรัพย์-ก.ล.ต. ระบาดบนสื่อออนไลน์ หวั่นเป็นภัยต่อความมั่นคง และเศรษฐกิจของประเทศ

เนื่องจากเฟสบุ๊ค ได้รับการโฆษณาจากผู้กระทำความผิดมิจฉาชีพในการลงโฆษณา และหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อในการลงทุนและซื้อสินค้าผ่านเฟสบุ๊ค เมื่อลูกค้าหลงเชื่อและชำระค่าสินค้าแล้วได้สินค้าไม่ตรงปก ที่ผ่านมามีผู้เสียหายจำนวนมากกว่า 200,000 รายหรือประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์จาก 300,000 ราย มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 10,000 ล้านบาท

"ถ้าเฟสบุ๊คไม่ช่วยเหลือประเทศไทย ถ้าเขาอยากทำธุรกิจในประเทศไทย เขาต้องแสดงความรับผิดชอบกับสังคมไทย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงได้คุยกับเฟสบุ๊คตลอดเวลา แต่กลับไม่สกรีนผู้มาลงโฆษณาทำให้ประชาชนชาวไทยได้รับความเสียหายมากกว่า 100,000 ล้านบาท" ชัยวุฒิ กล่าวกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า ก.ล.ต.หรือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่มีเสนอการลงทุนดังกล่าว หากพบเป็นข้อมูลปลอมที่มีการแอบอ้างชื่อ และตราสัญลักษณ์ของ ก.ล.ต.

พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ที่มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค.66 เพื่อช่วยดูแลคุ้มครองผู้ถูกหลอกลวง ช่วยระงับยับยั้งการโอนเงินและติดตามเงินคืนได้ทันมากขึ้นโดยเจ้าของบัญชีม้าหรือเบอร์ม้า จะมีโทษทางอาญาหนัก จำคุก 3 ปี หรือ ปรับ 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่ได้เป็นธุระจัดหา โฆษณา ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หมายเลขโทรศัพท์ก็มีโทษอาญาหนักเช่นกัน คือ จำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เฉลี่ย 790 เรื่องต่อวัน ขณะที่สถิติการอายัดบัญชี ก่อนมี พ.ร.ก. มีการขออายัด1,346 ล้านบาท อายัดทัน 87 ล้านบาท คิดเป็น 6.5 %

หลังมี พ.ร.ก. เกิดรวม 80,405 คดี เฉลี่ย 591 คดีต่อวัน สถิติการเกิดคดีลดลงเฉลี่ย 199 คดี/วัน และมีการขออายัด 2,792 ล้านบาท อายัดทัน 297 ล้านบาท คิดเป็น 10.6 %

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

SPRiNGNEWS_TH /  🏆 41. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ดุดัน! DES เตรียมร้องศาลปิดเฟซบุ๊กในไทย หลังเมินปล่อยมิจฉาชีพยิงแอดโฆษณาหลอกประชาชนดุดัน! DES เตรียมร้องศาลปิดเฟซบุ๊กในไทย หลังเมินปล่อยมิจฉาชีพยิงแอดโฆษณาหลอกประชาชนรมต.ชัยวุฒิ กร้าว พร้อมยื่นศาลปิด Facebook สิ้นเดือนนี้ เร่งสกัดมิจฉาชีพหลอกลงทุน อ้างตลาดหลักทรัพย์-ก.ล.ต.
อ่านเพิ่มเติม »

ดีอีเอสเดือด! เตรียมร้องศาลปิดกั้น Facebook ในไทย หลังเมินปล่อยมิจฉาชีพยิงโฆษณา หลอกประชาชนดีอีเอสเดือด! เตรียมร้องศาลปิดกั้น Facebook ในไทย หลังเมินปล่อยมิจฉาชีพยิงโฆษณา หลอกประชาชนเรื่องเล่าเช้านี้
อ่านเพิ่มเติม »

พบผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุไฟไหม้ตลาดอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรีพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุไฟไหม้ตลาดอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรีพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุไฟไหม้ 'ตลาดเก่าอินทร์บุรี' คาดเป็นเจ้าของบ้านที่สูญหาย ด้าน 'ชัยวุฒิ' รัฐมนตรีดิจิทัลฯ ช่วยซับน้ำตาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
อ่านเพิ่มเติม »

'ชัยวุฒิ-โชติวุฒิ' ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ตลาดอินทร์บุรี'ชัยวุฒิ-โชติวุฒิ' ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุไฟไหม้ ตลาดอินทร์บุรี'ชัยวุฒิ' ควง 'สส.โชติวุฒิ' ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุไฟไหม้ตลาด 100 ปี อินทร์บุรี สิงห์บุรี พร้อมประสานหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ
อ่านเพิ่มเติม »

DES เตรียมขอศาลบล็อก Facebook เหตุเพราะรับเงินโฆษณาจากเพจหลอกลวงให้ ปชช.ลงทุนDES เตรียมขอศาลบล็อก Facebook เหตุเพราะรับเงินโฆษณาจากเพจหลอกลวงให้ ปชช.ลงทุนชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ประกาศเตรียมฟ้องศาลเพื่อขอคำสั่งให้ปิดกั้นเฟซบุ๊กไม่ให้สามา
อ่านเพิ่มเติม »

ดุดันไม่เกรงใจใคร! 'ดีอีเอส' ขีดเส้น 1 เดือนจ่อปิด Facebookดุดันไม่เกรงใจใคร! 'ดีอีเอส' ขีดเส้น 1 เดือนจ่อปิด Facebook'ชัยวุฒิ' สับแหลกรับเงินเพจปลอมเป็นสปอนเซอร์ยิงแอดโฆษณาหลอกลวงประชาชน ซึ่งถือเป็นรายได้เข้าบริษัทแต่กลับไม่มีการตรวจสอบและสกรีน แม้ที่ผ่านมา ดีอีเอส จะรวมรวมเสนอศาลขอคำสั่งปิดแต่เพจเหล่านี้ก็จะไปเปิดใหม่ เหมือนแมวไล่จับหนู ไม่จบสิ้น”
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-31 17:42:52