จีนจวกสหรัฐกลับไปแก้ปัญหาหนี้ตัวเอง หลังโดนวิจารณ์ก่อหนี้ให้ปท.กำลังพัฒนา จีน ประเทศกำลังพัฒนา สหรัฐ หนี้สิน อินโฟเควสท์
เมื่อวันจันทร์ สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลูซากา ประเทศแซมเบียได้ตำหนิสหรัฐเรื่องปัญหาหนี้สินที่รุนแรง และกล่าวหาสหรัฐว่าบ่อนทำลายความพยายามของประเทศอื่น ๆ ในการแก้ปัญหาหนี้สิน
สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลูซาการะบุว่า กระทรวงการคลังสหรัฐได้เริ่มใช้มาตรการพิเศษเพื่อชำระหนี้หลังจากเพดานการกู้ยืมของรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นถึงเพดานจำกัดแล้ว และระบุว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่สหรัฐจะสามารถจัดการกับปัญหาหนี้นอกประเทศได้คือ การดำเนินนโยบายการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ, รับมือกับปัญหาหนี้ของตนเอง และยุติการบ่อนทำลายความพยายามของประเทศอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาหนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรงดังกล่าวนับว่าขัดแย้งกับการผ่อนคลายความตึงเครียดครั้งล่าสุดระหว่างจีนกับสหรัฐซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนพ.ย. 2565 หลังจากผู้นำของทั้งสองประเทศได้พบปะกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี รวมไปถึงการหารือเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระหว่างนางเยลเลนกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างระบุว่า การเจรจาเป็นไปในเชิงบวกและสร้างสรรค์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐพบเอกสารลับในบ้าน 'ไบเดน' เพิ่มอีก 6 ฉบับ : อินโฟเควสท์ทนายความของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ แถลงเมื่อวันเสาร์ (21 ม.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ทำการค้นบ้านของนายไบเดนในเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ครั้งล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (20 ม.ค.) และค้นพบเอกสารลับเพิ่มอีก 6 ฉบับ นายบ็อบ บาวเออร์ ทนายของปธน.ไบเดน เปิดเผยว่า เอกสารลับบางส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานตั้งแต่สมัยที่นายไบเดนเป็นสมาชิกวุฒิสภารัฐเดลาแวร์ในช่วงปี 2516-2552 และเอกสารบางส่วนมาจากสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในยุคอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ระหว่างปี 2552-2560 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมยังเก็บบันทึกที่นายไบเดนเขียนด้วยลายมือสมัยที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีไปด้วย นายไบเดนเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (19 ม.ค.) ว่า เขาไม่เสียใจเรื่องเอกสารลับที่พบในสถานที่ส่วนตัวของเขา และเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะคลี่คลายในที่สุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ฐานะการเงิน-การคลังไทยแข็งแกร่งจัดเก็บรายได้สูงกว่าคาด เล็งปรับเป้า GDP ปี 66 : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยฐานะการเงิน-การคลังของไทยมีความแข็งแกร่ง โดยกระทรวงการคลังเผยการจัดเก็บรายได้สุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม – ธันวาคม 2565) จำนวน 633,139 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 73,586 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.2 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.3 โดยได้รับแรงหนุนตามการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการบริโภค และการค้าระหว่างประเทศ และยังมีรายได้พิเศษจากการนำส่งทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียน รายได้จากสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ และใบอนุญาตคลื่นวิทยุ รวมทั้งอากรขาเข้าย้อนหลังตามคำพิพากษาคดี คาดว่า รายได้รัฐบาลในช่วงที่เหลือขอปีงบประมาณ 2566 จะยังคงขยายตัวได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตต่ำกว่าประมาณการ จากการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนเป็นการชั่วคราวจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ หากไม่รวมรายได้พิเศษของส่วนราชการอื่นและกรมศุลกากร ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิสูงกว่าประมาณการ 40,175 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.2 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.3 โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะมีรายได้นำส่งคลัง 2.6 ล้านล้านบาท ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น 3.1 ล้านล้านบาท และมีการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณจำนวน 6.95 แสนล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง […]
อ่านเพิ่มเติม »
ผบ.ทบ.บราซิลถูกปลด เซ่นเหตุจลาจลบุกทำเนียบประธานาธิบดี : อินโฟเควสท์ประธานาธิบดีลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำบราซิล สั่งปลดนายพลฮูลิโอ ซีซาร์ เด อาร์รูดา จากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกเมื่อวันเสาร์ (21 ม.ค.) หรือสองสัปดาห์หลังเกิดเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกาในกรุงบราซิเลีย เมืองหลวงของบราซิล นายโฮเซ มูซิโอ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับผู้บัญชาการทหารบก “มีรอยร้าวในเรื่องความไว้วางใจ” หลังเกิดเหตุจลาจล และผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่คือ โทมัส มิเกล ริเบโร ไปวา ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บัญชาการทหารประจำภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ การตัดสินใจปลดผู้บัญชาการทหารบกเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ปธน.บราซิลได้พบกับผู้บัญชาการทหารบกและผู้บังคับบัญชาคนอื่น ๆ ของกองทัพที่กรุงบราซิเลีย โดยปธน.บราซิลต้องการลงโทษคนที่เขาเชื่อว่าปฏิบัติหน้าที่ล้มเหลวในการระงับเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ทั้งนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนนายฌาอีร์ โบลโซนารู อดีตผู้นำบราซิล จำนวนราว 5 พันคน ได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี และศาลฎีกาของประเทศ เพื่อคัดค้านชัยชนะของนายลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำฝ่ายซ้าย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลเมื่อเดือนต.ค. 2565 […]
อ่านเพิ่มเติม »
ระวัง!! ถูกหลอกให้กู้เงินออนไลน์ มิจฉาชีพปลอมโลโก้แบงก์ระบาดหนัก : อินโฟเควสท์กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) สรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประจำวันที่ 13 – 19 มกราคม 2566 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 3,513,218 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 199 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 184 ข้อความ และข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน 15 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 117 เรื่อง ทั้งนี้ ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศจำนวน 72 เรื่อง กลุ่มที่ 2 ข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน […]
อ่านเพิ่มเติม »
นักวิจัยเชื่อเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวแข็งแกร่งปีนี้, GDP อาจโตกว่า 5% : อินโฟเควสท์นายติง เค่อ นักวิจัยอาวุโสจากสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจแห่งองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ให้สัมภาษณ์เป็นลายลักษณ์อักษรกับสำนักข่าวซินหัวว่า เขามีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจจีนในปี 2566 นี้ โดยเขาคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนมีโอกาสเติบโตมากกว่า 5% สำหรับอุตสาหกรรมของจีนที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงนั้น นายติงยกให้เศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของ GDP จีน และสัดส่วนดังกล่าวกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นายติงเชื่อว่าจีนยังมีข้อได้เปรียบอย่างมากในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น พลังงานใหม่และยานยนต์ไฟฟ้า โดยจีนเป็นฐานการผลิตโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังแซงหน้าเยอรมนีขึ้นแท่นผู้ส่งออกยานยนต์รายใหญ่อันดับสองของโลก โดยได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า นายติงสรุปว่า ตราบใดที่จีนยังคงสามารถบ่มเพาะอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเปิดเส้นทางใหม่ ๆ และทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพเติบโตอย่างรวดเร็ว การพัฒนาเศรษฐกิจจีนก็จะมีพลวัตอยู่เสมอ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลมั่นใจ e-Visa รับดีมานด์ต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศหลังสถานการณ์โควิด19 คลี่คลาย โดยใช้นโยบายปฏิบัติต่อผู้เดินทางจากทุกประเทศอย่างเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติ ได้สนับสนุนให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่านักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจะเพิ่มขึ้นอีกมากหลังจากรัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 66 และจะอนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นหมู่คณะหรือกรุ๊ปทัวร์ได้ตั้งแต่ 6 ก.พ. 66 เป็นต้นไป โดยเริ่มต้นใน 20 ประเทศรวมถึงประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อรองรับความต้องการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้พัฒนาระบบขอรับตรวจลงตรา(วีซ่า) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวต่างชาติ ที่ปัจจุบันสามารถขออนุญาตผ่านระบบออนไลน์ หรือ e-Visa ได้โดยไม่ต้องยื่นหรือส่งหนังสือเดินทางและเอกสารหลักฐานตัวจริงไปยังที่สถานเอกอัครราชทูตไทย หรือสถานกงสุลไทยในแต่ละประเทศ/เมือง ซึ่งรัฐบาลมั่นใจว่าระบบการให้วีซ่าที่สะดวกสบายจะรองรับความต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยที่กำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้และระยะต่อไปได้เป็นอย่างดี น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการรองรับการเดินทางเข้าประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานว่า การขออนุญาตเข้าประเทศไทยสำหรับชาวจีนปัจจุบันสามารถทำได้ทั้งการขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival: VOA) ซึ่งอยู่ในอำนาจของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) และ การยื่นขอวีซ่าในต่างประเทศผ่านระบบ e-Visa ซึ่งอยู่ในอำนาจของกระทรวงการต่างประเทศ สำหรับการใช้บริการเพื่อยื่น e-Visa สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.thaievisa.go.th โดยไม่ต้องยื่นหรือส่งหนังสือเดินทางและเอกสารหลักฐานตัวจริงไปที่สถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุล ซึ่งในเว็บไซต์จะรวมช่องทางการยื่นขอวีซ่าทุกประเภท มีการอธิบายขั้นตอนและมีวิดีทัศน์สาธิตการสมัครขอวีซ่าโดยละเอียด (https://thaievisa.go.th/video-user-manuals) หลังจากได้รับการอนุมัติ […]
อ่านเพิ่มเติม »