จับตาสินทรัพย์สกุลหยวนเนื้อหอม จีนโวต่างชาติสนใจลงทุนมากขึ้น : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

จับตาสินทรัพย์สกุลหยวนเนื้อหอม จีนโวต่างชาติสนใจลงทุนมากขึ้น : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 46 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 22%
  • Publisher: 68%

จับตาสินทรัพย์สกุลหยวนเนื้อหอม จีนโวต่างชาติสนใจลงทุนมากขึ้น เงินหยวน สกุลสกุลเงินหยวน อินโฟเควสท์

ธนาคารกลางจีน เปิดเผยรายงานล่าสุดระบุว่า การเปิดตลาดการเงินของจีนทำให้สินทรัพย์สกุลเงินหยวนมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ และได้ส่งเสริมการใช้สกุลเงินหยวนทั่วโลก

รายงานระบุว่า ภายในสิ้นปี 2564 นักลงทุนต่างชาติถือครองสินทรัพย์สกุลหยวนมูลค่า 10.83 ล้านล้านหยวน ซึ่งประกอบด้วยหุ้น พันธบัตร เงินกู้ และเงินฝาก โดยเพิ่มขึ้น 20.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี การชำระเงินระหว่างประเทศในรูปสกุลเงินหยวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมูลค่าเงินหยวนที่ถูกใช้สำหรับบัญชีเดินสะพัดและการลงทุนโดยตรงอยู่ที่ระดับรวม 6 ล้านล้านหยวนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 23% จากปีที่แล้ว ขณะที่การชำระเงินระหว่างประเทศในรูปสกุลเงินหยวนในการค้าแบบอีคอมเมิร์ซนั้น เพิ่มขึ้น 20.7% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเป็น 4.317 แสนล้านหยวน

นอกจากนี้ ธนาคารกลางหรือหน่วยงานด้านสกุลเงินของต่างประเทศกว่า 80 แห่งต่างมีเงินหยวนรวมอยู่ในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รายงานของ PBOC ยังระบุด้วยว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ เงินหยวนคิดเป็นสัดส่วน 2.88% ของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้น 1.8% จากปี 2559 ซึ่งเป็นปีที่หยวนถูกรวมเข้าในตะกร้าสิทธิพิเศษถอนเงิน ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

โตโยต้าหั่นเป้าผลิตรถเดือนต.ค.สู่ระดับ 8 แสนคันทั่วโลก จากปัญหาชิปขาดแคลน : อินโฟเควสท์โตโยต้าหั่นเป้าผลิตรถเดือนต.ค.สู่ระดับ 8 แสนคันทั่วโลก จากปัญหาชิปขาดแคลน : อินโฟเควสท์โตโยต้า มอเตอร์ส คอร์ป บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ (22 ก.ย.) ว่า ทางบริษัทกำลังวางแผนผลิตรถยนต์ราว 800,000 คันทั่วโลกในเดือนต.ค. ซึ่งน้อยกว่าแผนการผลิตเฉลี่ยรายเดือนที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ประมาณ 100,000 คัน เนื่องจากชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า แผนการผลิตเฉลี่ยรายเดือนของโตโยต้าในช่วงเดือนก.ย.-พ.ย.ที่เปิดเผยออกมาเมื่อเดือนก่อนอยู่ที่ราว 900,000 คัน อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทยังคงยึดมั่นในเป้าหมายการผลิตรถยนต์ทั่วโลกให้ได้ 9.7 ล้านคันภายในปีงบประมาณนี้ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2566 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

สร้างอนาคตไทย พร้อมลงสนามเลือกตั้ง มั่นใจคว้า ส.ส. 30 ที่นั่ง : อินโฟเควสท์สร้างอนาคตไทย พร้อมลงสนามเลือกตั้ง มั่นใจคว้า ส.ส. 30 ที่นั่ง : อินโฟเควสท์นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ยืนยันความพร้อมในการเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากเปิดตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ถือว่าได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งพรรคจะทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ ซึ่งเป็น ส.ส.ระดับบิ๊กเนม และมีกลุ่มก๊วนจากพรรคอื่นๆ สนใจจะมาทำงานร่วมกับพรรค ส่วนเป้าหมาย ส.ส.จำนวน 30 ที่นั่งนั้น เป็นสิ่งที่พรรคพยายามทำงานเต็มที่ โดยพยายามคัดสรรหาว่าที่ผู้สมัครฯ ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เชื่อว่าจะไปสู่เป้าหมายที่กำหนดได้ โดยพรรควางแผนเดินหน้าจัดสัมนาใหญ่ในทุกพื้นที่ โดยเดือนต.ค.เตรียมไปจัดสัมมนาในพื้นที่ภาคอีสาน สำหรับสนามเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ นายอุตตม กล่าวว่า ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่พรรคให้ความสำคัญมาก ซึ่งเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาได้ลงไปจัดสัมนาใหญ่ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสัมมนาครั้งแรกของพรรค ซึ่งการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง แต่พรรคทำงานมาพอสมควรและเชื่อว่า จะมีโอกาสได้ ส.ส.ในภาคใต้ นายอุตตม กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมออกประกาศหลักเกณฑ์เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองปฏิบัติตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ภายในกรอบเวลา 180 วัน ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.66 ว่า ได้แจ้งให้กับว่าที่ผู้สมัครฯ ของพรรค และทีมงานทั่วประเทศให้ปฏิบัติตามระเบียบของ กกต.และเป็นไปตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 65) …
อ่านเพิ่มเติม »

TACC มั่นใจทั้งปีเข้าเป้าแม้ H1/65 โตแค่ 6.51% คาด H2/65 นทท.ฟื้น-โควิดคลี่คลายหนุน : อินโฟเควสท์TACC มั่นใจทั้งปีเข้าเป้าแม้ H1/65 โตแค่ 6.51% คาด H2/65 นทท.ฟื้น-โควิดคลี่คลายหนุน : อินโฟเควสท์นางจิรพรรณ คชฤทธิ์ชูแสง รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ทั้งปีจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมารายได้จะเติขโตได้เพียง 6.51% หรือ มีรายได้รวม 728.46 ล้านบาท โดยคาดว่าผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจะได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ภาครัฐบาลยังคงผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และ เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยหนุนให้การท่องเที่ยวและกำลังซื้อปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทได้ออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องในทุกพันธมิตร ซึ่งผลตอบรับออกมาดีตามที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 66 จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่โควิด-19 ถูกประกาศเป็นโรคประจำถิ่น ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนฟื้นตัวกลับมาได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสัดส่วนสินค้าที่จำหน่ายในรูปแบบ B2B มีสัดส่วนรายได้มากถึง 93% ที่มีการเติบโตตามร้านเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการกลับมาใกล้เคียงกับช่วงระยะเวลาก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว นอกจากนี้ยังเน้นการขยายตลาดที่นอกเหนือจาก 7-Eleven คือ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย Bon Cafe และ โลตัส รวมไปถึงสินค้าแบรนด์ของบริษัทยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องด้วย โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »

อุตตม แนะรัฐบาลตั้งคณะทำงานร่วมคลัง-ธปท.-สภาพัฒน์ ถกแก้ปัญหาค่าเงินบาท : อินโฟเควสท์อุตตม แนะรัฐบาลตั้งคณะทำงานร่วมคลัง-ธปท.-สภาพัฒน์ ถกแก้ปัญหาค่าเงินบาท : อินโฟเควสท์นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ในฐานะอดีต รมว.คลัง กล่าวถึงการดูแลค่าเงินบาทว่า ระดับค่าเงินบาทที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของไทยว่ามีความเข้มแข็งมากน้อยเพียงใด เพราะอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นอยู่กับนักลงทุน ธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ และความต้องการเงินบาทมีมากน้อยเพียงใด ซึ่งรัฐบาลและกระทรวงคลังไม่มีหน้าที่มาบริหารเรื่องค่าเงินบาท อาจจะแสดงความเห็นในส่วนบุคคลได้แต่ไม่ใช่การชี้นำ การดูแลอัตราแลกเปลี่ยนมีการกำหนดแนวทางดูแลที่ชัดเจน กระทรวงคลังเป็นผู้รับผิดชอบนโยบายด้านการคลัง ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณ การกระตุ้นเศรษฐกิจ การเยียวยา ส่วนเรื่องนโยบายการเงินนั้นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เป็นผู้ดูแล เพราะฉะนั้นการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนและเรื่องเงินเฟ้อเป็นเรื่องของ ธปท.ที่ต้องรับผิดชอบโดยตรง นายอุตตม กล่าวว่า จำเป็นต้องมีการทำงานร่วมกันและมีกลไกที่ใกล้ชิดกัน และควรจะมีการหารืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในภาวะวิกฤต แต่ไม่ใช่ไปก้าวก่ายกัน สามารถแชร์มุมมอง หรือวิเคราะห์แนวโน้มจะเป็นอย่างไรสามารถทำได้ ซึ่งสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรมว.คลัง เตรียมเสนอให้มีคณะ เพื่อเป็นเวทีหารือในเชิงนโยบาย มุมมอง ยุทธศาสตร์ ระหว่างกระทรวงคลัง, ธปท., ก.ล.ต. และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ซึ่งในประเทศอื่นมีคณะทำงานแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐฯ อังกฤษ หรือญี่ปุ่น แต่ตนไม่ทันได้เสนอร่างให้ดำเนินการเรื่องนี้ และในสถานการณ์ขณะนี้ยังถือว่าทัน หากจะดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาได้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-02 23:48:05