ตั้งแต่รัสเซียถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติหลังการรุกรานยูเครน สกุลเงินหยวนของจีนกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่รัสเซียใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างประเทศแทนดอลลาร์และยูโร แต่สถานการณ์ล่าสุดชี้ว่าเส้นทางนี้อาจกำลังถึงจุดวิกฤต
สัญญาณเตือนภัยเริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว เมื่อธนาคารกลาง รัสเซีย ลดการให้กู้ยืมสวอป เงินหยวน ลงมากกว่าครึ่ง จาก 35,200 ล้านหยวน เหลือเพียง 15,400 ล้านหยวน ขณะที่หน่วยงานใน รัสเซีย ของธนาคาร Raiffeisen Bank ของออสเตรียเริ่มปฏิเสธการชำระเงินให้กับ จีน เมื่อต้นเดือนนี้ แต้่ธนาคารกลางของ รัสเซีย กล่าวว่า สวอปนั้นมีไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดสกุลเงินในประเทศในระยะสั้นเท่านั้น และไม่ใช่แหล่งเงินทุนในระยะยาว
ผลกระทบของวิกฤตนี้อาจลุกลามไปทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจรัสเซีย ธุรกิจที่พึ่งพาการค้ากับจีนอาจประสบปัญหาในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดแคลนสินค้านำเข้าและการลดลงของการแข่งขันในตลาด ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แม้ว่าการใช้จ่ายด้านการทหารและการส่งออกน้ำมันไปยังจีนและอินเดียจะช่วยพยุงเศรษฐกิจรัสเซียโดยรวม แต่ปัญหาอื่นกำลังทวีความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น การขาดแคลนแรงงาน เนื่องมาจากการระดมกำลังทางทหาร และวิกฤตประชากรที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล เตือนว่าข้อมูล GDP ที่เหมือนแข็งแกร่งนั้นอาจปิดบังปัญหาที่ซับซ้อนกว่าในเศรษฐกิจรัสเซีย โดยชี้ให้เห็นว่าในขณะที่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศขยายตัว ผู้บริโภคชาวรัสเซียกลับมีหนี้เพิ่มมากขึ้น อาจนำไปสู่วิกฤตที่กำลังใกล้เข้ามาได้ ขณะที่การใช้จ่ายด้านการทหารมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการเติบโตของประเทศในระยะยาวและนวัตกรรมในภาคส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้รัสเซียสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้
จีน เงินหยวน รัสเซีย สีจิ้นผิง วันชาติจีน วลาดิเมียร์ ปูติน สงครามรัสเซีย-ยูเครน เศรษฐกิจรัสเซีย