ตำรวจจับกุมนายประมวล อายุ 42 ปี ที่บ้านในจังหวัดขอนแก่น ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับมา 20 ปี และคิดว่าโทษหมดอายุความแล้ว
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพล จังหวัดขอนแก่น นำ หมายจับ ศาลอาญา ที่ 1124/48 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2548 เข้า จับกุม นายประมวล อายุ 42 ปี ที่บ้าน ม.2 บ้านหัวนา ตำบลโนนข่า อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น ในข้อหา ร่วมกัน ฆ่าผู้อื่น \ พนักงานสอบสวนตำรวจได้อ่าน หมายจับ ให้กับนายประมวลทราบ ซึ่งนายประมวลได้โต้แย้งเจ้าหน้าที่ว่า มันใช่อยู่หรือ เพราะนับตั้งแต่เกิดเหตุเขามั่นใจว่าขาด อายุความ ไปแล้ว \ พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก.สภ.
พล กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นการจับกุมผู้ต้องหาตามคดีค้างเก่า สภ.พล ได้รับการประสานงานจาก สน.โชคชัย ว่ามีผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุฆ่าคนตายในพื้นที่สน.โชคชัย หลบหนีหมายจับมา ซึ่งคนร่วมก่อเหตุมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.พล จ.ขอนแก่น จึงมอบหมายให้ชุดสืบสวนสภ.พล ทำการตรวจสอบชื่อที่อยู่ของผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งมีชื่อของผู้ต้องหารายนี้รวมอยู่ด้วย จึงได้ทำการตรวจสอบตามที่อยู่ดังกล่าวทราบว่า ผู้ต้องหาเดินทางออกไปทำงานที่อื่น จึงได้ดักรอที่บ้าน กระทั่งผู้ต้องหาตามหมายจับกลับเข้ามาที่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงหมายจับเข้าจับกุมตัว ทั้งนี้จากการสอบสวนในเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า ช่วงเกิดเหตุอายุประมาณ 22 ปี เดินทางเข้าไปทำงานในกรุงเทพฯ ได้พักในแฟลตแห่งหนึ่ง วันเกิดเหตุ มีลมพัดแรง ผ้าเช็ดตัวที่ตากไว้ที่ระเบียงห้อง เกี่ยวขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ตกลงไปกระแทกรถยนต์ที่ลานจอดชั้นล่าง เจ้าของรถไม่พอใจ ขึ้นมาเตะเสยปลายคาง และต่อว่าต่างๆนานา เพื่อนๆไม่พอใจ จึงรุมทำร้ายเจ้าของรถและเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังเกิดเหตุทุกคนต่างแยกย้ายหลบหนีกระทั่งถูกศาลออกหมายจับ เพื่อนบางคนถูกจับติดคุกไปแล้ว บางคนก็ยังหลบหนี ส่วนผู้ต้องหาหลบหนีมาทำงานที่ขอนแก่น จนคิดว่าโทษที่ถูกออกหมายจับนั้น หมดอายุความแล้วเพราะนับมาตลอด จึงกลับมาอยู่กับแม่ที่บ้าน โดย ผกก.สภ.พล กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหารายนี้นั้น ออกหมายจับ ที่ 1124/48 ลงวันที่ 21 มี.ค. 2548 จึงยังไม่หมดอายุความ เพราะยังเหลือเวลาอีก 1 เดือนกับ 10 วัน เพราะจะหมดอายุความในวันที่ 5 มี.ค. 2568 ที่จะถึงนี้ โดยก่อนจะถูกจับกุมนั้น ผู้ต้องหาต้องเดินทางไปเร่ขายว่าวที่ต่างจังหวัดกับนายจ้าง แต่นายจ้างเกิดปวดหัวและจะเดินทางในวันถัดไป จึงไม่ได้ออกเดินทาง เมื่อตำรวจนำหมายจับไปถึงที่บ้าน ก็พบตัวผู้ต้องหาจึงเข้าจับกุมตัว ส่ง สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมา
จับกุม ฆ่าผู้อื่น หมายจับ คดียุคโบราณ หลบหนี อายุความ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ชายเมาสุบนกัญชา พังบ้าน ปีนหลังคาบ้านข้างๆนายน้ำฟ้า อายุ 42 ปี เข้าอาละวาดโวยวายพังข้าวของภายในบ้าน และทำลายหลังคาบ้านตัวเอง หลังจากสูบกัญชาเพียวๆ ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านข้างๆ และทำลายหลังคาบ้านอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม »
ภรรยาหลวงเจ็บป่วย โดนสามีมีเมียน้อย 5 คนนางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดสิงห์บุรี มาร้องขอความเป็นธรรมหลังสามีที่คบหามานานกว่า 12 ปี แอบมีเมียน้อยประมาณ 5 คน ส่วนภรรยาหลวงต้องทำงาน หาเงินเลี้ยงดูตัวเอง เพื่อรักษาโรคมะเร็ง
อ่านเพิ่มเติม »
ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ่าเอ็มกองเรือพนักงานสอบสวนสน.ชนะสงครามออกหมายจับนายลี หรือชื่อไทย นายสมหวัง อายุ 42 ปี ชาวกัมพูชา ในข้อหาจ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ในคดีที่นายเอกลักษณ์ หรือเอ็ม กองเรือ ได้รับการจ้างวานให้ยิง นายลิม อดีตนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชา
อ่านเพิ่มเติม »
พระสงฆ์คลุ้มคลั่งใช้มีดขวานไล่ทำร้ายชาวบ้านที่สำนักสงฆ์บ้านสะแร อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ พระคณัสศักดิ์ อายุ 42 ปี คลุ้มคลั่งใช้มีดและขวานไล่ทำร้ายชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องเข้าควบคุมตัวที่โรงพยาบาลบัวเชด แต่พระคณัสศักดิ์มีฤทธิ์ใช้ความแรง พยาบาลต้องหนีกระเจิง
อ่านเพิ่มเติม »
จับคนร้ายแอบซุกบัตรเติมน้ำมันตำรวจจับกุม “กาญ” อายุ 42 ปี ในข้อหา ร่วมกันยักยอกทรัพย์สินหาย, ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ พบเห็นบัตรเติมน้ำมันตกหล่นในปั้มน้ำมัน แต่ 'หัวหมอ แอบซุกเงียบ' นำไปเติมขายแลกเงินสดกว่า 30,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม »
เตือนภัย! รักออนไลน์ อ้างเป็นทหารหญิงอเมริกัน หลอกให้รัก บอกว่าจะส่งเงินมาให้ สุดท้ายคือมิจฉาชีพตำรวจจับกุมนายณัฐพล อายุ 18 ปี ในข้อหา “ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น หรือเปิดหรือยิมยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนโดยมิได้มีเจตนาใช้ เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่น่าจะรู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด”
อ่านเพิ่มเติม »