จนท.มะกันแย้ม 'ไบเดน' อาจจัดประชุมสุดยอดไตรภาคีระหว่างสหรัฐ-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

จนท.มะกันแย้ม 'ไบเดน' อาจจัดประชุมสุดยอดไตรภาคีระหว่างสหรัฐ-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 55 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 25%
  • Publisher: 68%

จนท.มะกันแย้ม 'ไบเดน' อาจจัดประชุมสุดยอดไตรภาคีระหว่างสหรัฐ-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ญี่ปุ่น ประชุมสุดยอดG7 สหรัฐ เกาหลีใต้ อินโฟเควสท์

นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐกล่าวเมื่อวันพุธ ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะพยายามจัดการประชุมสุดยอดไตรภาคีร่วมกับผู้นำเกาหลีใต้และผู้นำญี่ปุ่นในระหว่างการประชุมสุดยอด G7 ณ ประเทศญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม นายซัลลิแวนระบุด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเตรียมการเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว เนื่องจากปธน.ไบเดนมีตารางงานที่แน่นมาก ทั้งนี้ เมื่อถูกถามว่า ปธน.ไบเดนคาดว่าจะจัดการประชุมไตรภาคีกับประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้และนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่นหรือไม่ นายซัลลิแวนตอบว่า “เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับตารางงาน โดยทั้งสหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นล้วนปรารถนาที่จะมีส่วนร่วมในการประชุมสุดยอดไตรภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อเป็นการตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ”

“ความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น หมายถึงความสัมพันธ์ไตรภาคีที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ดังนั้นหากเราพอที่จะหาเวลาว่างได้ เราก็จะจัดการประชุมไตรภาคี” นายซัลลิแวนกล่าวเสริมขณะพูดคุยกับนักข่าวบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ระหว่างทางไปเมืองฮิโรชิมา ซึ่งเป็นเมืองที่ปธน.ไบเดนจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G7

รายงานระบุว่า แม้ว่าเกาหลีใต้จะไม่ได้เป็นสมาชิก G7 แต่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมในฐานะแขก และก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้กล่าวว่า ผู้นำทั้งสามน่าจะจัดการประชุมไตรภาคีนอกรอบการประชุมสุดยอด G7 ในเมืองฮิโรชิมา

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

'ไบเดน-แมคคาร์ธี' คืบหน้าเจรจาเพิ่มเพดานหนี้รอบ 2 คาดบรรลุดีลสัปดาห์นี้ : อินโฟเควสท์'ไบเดน-แมคคาร์ธี' คืบหน้าเจรจาเพิ่มเพดานหนี้รอบ 2 คาดบรรลุดีลสัปดาห์นี้ : อินโฟเควสท์ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐได้จัดการประชุมร่วมกับ นายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมทั้งแกนนำในสภาคองเกรสในวันอังคาร (16 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ ซึ่งเป็นการเจรจาครั้งที่ 2 หลังจากที่การเจรจาครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วไม่มีความคืบหน้า สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การเจรจาระหว่างปธน.ไบเดนและผู้นำสภาคองเกรสมีความคืบหน้า และทั้ง 2 ฝ่ายใกล้จะบรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากการเจรจาซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเสร็จสิ้นลง นายแมคคาร์ธีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แม้ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในการประชุมครั้งนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงภายในปลายสัปดาห์นี้ และไม่ใช่เรื่องยากที่ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะสามารถทำข้อตกลงร่วมกัน ทั้งนี้ แม้ว่าพรรคเดโมแครตมีมุมมองค่อนข้างเป็นลบต่อกรอบเวลาในการบรรลุข้อตกลง แต่ทำเนียบขาวมองว่าการประชุมในครั้งนี้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และตรงไปตรงมา ขณะที่ปธน.ไบเดนกล่าวว่า ผู้นำที่เข้าร่วมเจรจาในครั้งนี้สามารถบรรลุฉันทามติร่วมกันว่าจะต้องไม่เกิดการผิดนัดชำระหนี้ และเศรษฐกิจสหรัฐจะต้องไม่เผชิญกับภาวะถดถอย “เรายังมีงานอีกมากที่จะต้องทำ ทั้ง 2 พรรคยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าชาวอเมริกันจะไม่เผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์” ปธน.ไบเดนกล่าว อย่างไรก็ดี ปธน.ไบเดนกล่าวว่าเขารู้สึกผิดหวังที่พรรครีพับลิกันจะไม่พิจารณาแนวทางเรื่องการปรับเพิ่มรายได้ของรัฐบาล โดยการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจากบุคคลที่ร่ำรวยและบริษัทเอกชนนั้น จะช่วยสนับสนุนการใช้จ่ายในโครงการต่าง ๆ ที่เป็นส่วนสำคัญของงบประมาณประจำปี 2567 ของทำเนียบขาว ที่ผ่านมานั้น สมาชิกพรรครีพับลิกันปฏิเสธที่จะโหวตสนับสนุนการปรับเพิ่มเพดานหนี้ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ นอกเสียจากว่าคณะบริหารของปธน.ไบเดนและพรรครีพับลิกันตกลงที่จะปรับลดการใช้จ่ายในงบประมาณของรัฐบาลกลาง แต่แม้ว่าพรรครีพับลิกันจะกำหนดเงื่อนไขดังกล่าว นายแมคคาร์ธีกล่าวภายหลังการประชุมว่า “เรามั่นใจว่าเราจะไม่ผิดนัดชำระหนี้” […]
อ่านเพิ่มเติม »

'ไบเดน' ระงับเยือนเอเชียแปซิฟิก เหตุต้องเร่งถกวิกฤตเพดานหนี้กับคองเกรส : อินโฟเควสท์'ไบเดน' ระงับเยือนเอเชียแปซิฟิก เหตุต้องเร่งถกวิกฤตเพดานหนี้กับคองเกรส : อินโฟเควสท์ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสรัฐ จะไม่เดินทางเยือนปาปัวนิวกินีและออสเตรเลียตามกำหนดการณ์ในเดือนนี้ เนื่องจากอยู่ในระหว่างเจราจากับบรรดาผู้นำสภาคองเกรสเพื่อจัดการแก้ไขวิกฤตเพดานหนี้ อย่างไรก็ดี ปธน.ไบเดนจะยังเดินทางไปยังเมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศ G7 เป็นเวลา 3 วัน ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ที่ 19 พ.ค. นางแครีน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่า หลังจากการประชุมสุดยอดเสร็จสิ้นลงแล้ว ปธน.ไบเดนจะเดินทางกลับมายังสหรัฐเพื่อประชุมกับบรรดาผู้นำสภาคองเกรส เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสภาคองเกรสจะดำเนินการตามกำหนดเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ปธน.ไบเดนหารือเรื่องปัญหาเพดานหนี้กับผู้นำสภาคองเกรสทั้งจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ ด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ เน้นย้ำว่า สหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ในวันที่ 1 มิ.ย. หากแต่ละฝ่ายยังคงถกเถียงกันต่อไปเช่นนี้โดยไม่มีข้อสรุป ทั้งนี้ ตามกำหนดการณ์ของทำเนียบขาวที่ประกาศก่อนหน้านี้ ปธน.ไบเดนจะออกเดินทางจากกรุงวอชิงตันในวันนี้ (17 พ.ค.) โดยจะแวะที่เมืองแองเคอเรจ ของรัฐอลาสกา ก่อนจะเดินทางถึงญี่ปุ่นในวันพฤหัสบดี (18 พ.ค.) โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

'ไบเดน' จะไม่ออกคำขอโทษประเด็นทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มฮิโรชิมา สมัยสงครามโลก : อินโฟเควสท์'ไบเดน' จะไม่ออกคำขอโทษประเด็นทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มฮิโรชิมา สมัยสงครามโลก : อินโฟเควสท์นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ไม่มีแผนที่จะออกคำขอโทษในนามของสหรัฐสำหรับประเด็นการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ในเมืองฮิโรชิมาเมื่อปี 2488 ระหว่างการเดินทางเยือนเมืองฮิโรชิมา ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G7 นายซัลลิแวนกล่าวต่อสื่อมวลชนบนเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน ก่อนเดินทางถึงญี่ปุ่นว่า ปธน.ไบเดน ในฐานะหนึ่งในผู้นำกลุ่ม G7 จะแสดงความเคารพทั้งต่อประวัติศาสตร์ และเคารพต่อนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวแทนของเมืองฮิโรชิมาในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติ ปธน.ไบเดนจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดระยะเวลา 3 วันของกลุ่ม G7 โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ (19 พ.ค.) ตามกำหนดการ แต่ได้ยกเลิกแผนการแวะเดินทางเยือนประเทศอื่น ๆ 1 สัปดาห์อย่างกะทันหัน เพื่อเดินทางกลับสหรัฐไปเจรจาปมเพดานหนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปธน.ไบเดนมีกำหนดจะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมาร่วมกับผู้นำกลุ่ม G7 คนอื่น ๆ ในวันศุกร์นี้ ก่อนเริ่มการหารือที่จะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญระดับโลก ตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครน ห่วงโซ่อุปทาน และพลังงานสะอาด ไปจนถึงปัญญาประดิษฐ์และการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนจะกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ของสหรัฐ ต่อจากอดีตปธน.บารัค โอบามา ที่เดินทางเยือนเมืองฮิโรชิมาที่ถูกทำลายล้างจากการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูลูกแรกของโลก […]
อ่านเพิ่มเติม »

ออสเตรเลียยกเลิกการประชุมกลุ่ม Quad ในสัปดาห์หน้า เหตุ 'ไบเดน' ถอนตัว : อินโฟเควสท์ออสเตรเลียยกเลิกการประชุมกลุ่ม Quad ในสัปดาห์หน้า เหตุ 'ไบเดน' ถอนตัว : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศยกเลิกการประชุมผู้นำกลุ่ม Quad ซึ่งเดิมจะมีขึ้น ณ นครซิดนีย์ในวันที่ 24 พ.ค. หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เลื่อนการเดินทางเยือนออสเตรเลีย ตามรายงานของทำเนียบขาว ปธน.ไบเดนเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทาง เนื่องจากต้องการเจรจากับกลุ่มผู้นำในรัฐสภาอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดการกับวิกฤตเพดานหนี้ในสหรัฐ นายอัลบาเนซีกล่าวว่า บรรดาผู้นำสามารถพบปะกันนอกรอบการประชุม G7 ที่จะจัดขึ้นในญี่ปุ่นสุดสัปดาห์นี้แทน หลังจากนั้นปธน.ไบเดนจะเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน นายอัลบาเนซีแถลงต่อสื่อมวลชนว่า “เนื่องจากวิกฤตเพดานหนี้ต้องได้รับการแก้ไขก่อนวันที่ 1 มิ.ย. มิฉะนั้น จะส่งผลกระทบค่อนข้างรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะลุกลามต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจโลก ปธน.ไบเดนจึงจำเป็นต้องตัดสินใจเช่นนั้น” ขณะเดียวกัน นายอัลบาเนซีกล่าวว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย และนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะเดินทางเยือนออสเตรเลียเพื่อร่วมหารือ ทั้งนี้ นายริชาร์ด มอด เจ้าหน้าที่อาวุโสสถาบันนโยบายสังคมแห่งเอเชีย กล่าวว่า การยกเลิกการเดินทางเยือนปาปัวนิวกินีของปธน.ไบเดนอาจเป็นอุปสรรคต่อความพยายามของสหรัฐในการแย่งชิงอิทธิพลกับจีนในภูมิภาคนี้ เนื่องจากหากไม่ยกเลิก ก็จะถือเป็นการเดินทางเยือนครั้งแรกของประธานาธิบดีสหรัฐในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกที่เป็นอิสระ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 พ.ค. 66) Facebook […]
อ่านเพิ่มเติม »

เตือนภัย! มิจฉาชีพอ้างเป็น จนท.ขนส่งหลอกตรวจสอบทะเบียนรถ : อินโฟเควสท์เตือนภัย! มิจฉาชีพอ้างเป็น จนท.ขนส่งหลอกตรวจสอบทะเบียนรถ : อินโฟเควสท์น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าของรัฐโทรศัพท์สอบถามข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงข้อมูลสำคัญอื่นๆ โดยยืนยันว่า หน่วยราชการไม่มีนโยบายโทรศัพท์สอบถามข้อมูลจากประชาชน เพราะถึงแม้จะมีการประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนจากส่วนราชการให้ระมัดระวังมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อกลโกงมิจฉาชีพ “ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อและอย่าสนทนาหากมีผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกหรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่งจังหวัด โทรสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล ทะเบียนรถ เพื่อเป็นการตรวจสถานะความเป็นเจ้าของทะเบียนรถ แล้วให้โหลดแอปพลิเคชันหรือให้เข้าไปกดลิงค์ยืนยัน หากไม่เข้าไปยืนยันข้อมูลจะทำให้ข้อมูลของเจ้าของรถถูกลบและไม่สามารถเรียกคืนได้” น.ส.รัชดา กล่าว ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกยืนยันไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่โทรตรวจสอบความเป็นเจ้าของทะเบียนรถและให้โหลดแอปพลิเคชันหรือให้เข้าลิงค์เพื่อเข้าไปยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใด ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด โดยวิธีการแอบอ้างของมิจฉาชีพที่นำข้อมูลส่วนบุคคลไปทำให้เกิดความเสียหายและสูญเสียทรัพย์สิน ดังนี้ 1.การแจ้งชื่อ นามสกุล ทะเบียนรถ 2.การแจ้งให้โหลดแอปพลิเคชันเพื่อตรวจสอบข้อมูลทะเบียนรถของตัวเอง 3.การให้เข้าลิงก์ที่ทางผู้แอบอ้างส่งมาให้ เพื่อยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความดูแลของกรมการขนส่งทางบก เช่น เจ้าของรถมีรถกี่คัน, เลขทะเบียน 4.การข่มขู่ว่าหากไม่เข้าไปยืนยันข้อมูลดังกล่าวจะทำให้ข้อมูลของเจ้าของรถถูกลบและไม่สามารถเรียกคืนได้ สำหรับมิจฉาชีพหรือผู้ที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกเพื่อหลอกลวงประชาชน เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น มีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-140,000 บาท โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-26 13:56:41