คำชี้แจง 'มีชัย ฤชุพันธุ์' วาระนายกฯ 8 ปีเริ่มนับ 6 เม.ย.60

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

คำชี้แจง 'มีชัย ฤชุพันธุ์' วาระนายกฯ 8 ปีเริ่มนับ 6 เม.ย.60
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 isranews_agency
  • ⏱ Reading Time:
  • 1 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 4%
  • Publisher: 53%

คำชี้แจง 'มีชัย ฤชุพันธุ์' วาระนายกฯ 8 ปีเริ่มนับ 6 เม.ย.60 isranews สำนักข่าวอิศรา นายก8ปี

หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา : เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2565 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่เอกสาร 3 หน้าที่อ้างว่าเป็นคำชี้แจงของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ต้องส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีวินิจฉัยวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.

หมายเหตุสำนักข่าวอิศรา : เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2565 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่เอกสาร 3 หน้าที่อ้างว่าเป็นคำชี้แจงของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่ต้องส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีวินิจฉัยวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โดยมีสาระสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้อ้างถึง หนังสือเรียกของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 40/2565 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2565

ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งตามหนังสือที่อ้างถึงข้างต้นสั่งให้ข้าพเจ้าในฐานะประธานกรรมการร่างรัฐธรมนูญ จัดทำความเห็นเป็นหนังสือตามประเด็นที่กำหนด ซึ่งมีความว่า"ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ใช้บังคับ ตามบทเฉพาะกาลมาตรา 264 สามารถนับรวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าวเข้ากับวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งรารอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 158 วรรคสี่หรือไม่ และนับแต่เมื่อใด" นั้น1.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ตามที่ปรากฏในพระบรมราชโองการในวรรคห้า และถูกต้องตรงตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2557 ผลบังคับจึงมีตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 เป็นต้นไป และไม่อาจมีผลไปถึงการใดๆ ที่ได้ดำเนินการมาแล้วโดยชอบก่อนวันที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนี้ใช้บังคับ เว้นแต่จะมีบทบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ

2.ในส่วนที่เกี่ยวกับคณะรัฐมนตรีนั้น รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้บัญญัติเรื่องคุณสมบัติ ที่มา วิธีการได้มา กรอบในการปฏิบัติหน้าที่ ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง และผลจากการพ้นจากตำแหน่ง ไว้แตกต่างจากรัฐธรรมนูญที่เคยมีมา และส่วนใหญ่เป็นไปในทางจำกัดสิทธิและเพิ่มความรับผิดชอบ บทบัญญัติต่างๆเหล่านั้น จึงไม่อาจนำไปใช้กับบุคคลหรือการดำเนินการใดๆ ที่ได้กระทำไปโดยชอบแล้วก่อนที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีผลใช้บังคับ เว้นแต่จะมีบทบัญญัติกำหนดไว้เป็นประการอื่นโดยเฉพาะ โดยหลักทั่วไปกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่กำหนดขึ้นย่อมต้องมุ่งหมายที่จะใช้กับคณะรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560

3.อย่างไรก็ตามการที่จะได้มาซึ่งคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อการเลือกตั้งทั่วไป มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาที่จะต้องแต่งตั้งขึ้นใหม่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ก่อน แต่ประเทศไม่อาจว่างเว้นการมีคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศได้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีบทเฉพาะกาลเพื่อกำหนดให้การบริหารราชการแผ่นดินสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่ติดขัด จึงได้มีบทบัญญัติมาตรา 264 บัญญัติขึ้นเป็นการเฉพาะว่า"ให้คณะรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่..." โดยมีบทบัญญัติผ่อนปรนเกี่ยวกับคุณสมบัติและการปฏิบัติหน้าที่บางประการไว้ให้เป็นการเฉพาะ

4.โดยผลของมาตรา 264 ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีรวมทั้งนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งอยู่เฉพาะในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 จึงเป็นคณะรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ใช้บังคับ คือ วันที่ 6 เมษายน 2560 และโดยผลดังกล่าวบทบัญญัติทั้งปวงของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รวมทั้งบทเฉพาะกาลที่ผ่อนปรนให้จึงมีผลต่อคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 อันเป็นวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับเป็นต้นไป และระยะเวลาตามมาตรา 158 วรรคสี่ จึงเริ่มนับตั้งแต่บัดนั้น คือ วันที่ 6 เมษายน เป็นต้นไป

อนึ่ง สำหรับรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561 ในส่วนที่เกี่ยวกับคำกล่าวของข้าพเจ้านั้น ขอเรียนว่า เป็นการจดรายงานที่ไม่ครบถ้วน เป็นการสรุปตามความเข้าใจของผู้จด คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ยังมิได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น เพราะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้ประกาศสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 12 กันยายน 2561 ความไม่ครบถ้วนดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ ในรายงานการประชุมดังกล่าวมีข้อผิดพลาดอยู่หลายประการ ดังจะเห็นได้ว่าในส่วนที่เกี่ยวกับการพิจารณาความมุ่งหมายของมาตรา 183 ที่บันทึกไว้ว่า"ประธานกรรมการกล่าวว่า การตีความว่าหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาตรากฎหมาย โดยกำหนดให้ตนเองได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ ย่อมถือเป็นกรณีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาดำเนินการไปโดยที่รัฐธรรมนูญไม่ได้ประสงค์ให้บุคคลดังกล่าวได้รับเงินนั้น อาจเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากโดยหลักสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามีอำนาจตราพระราชกฎษฎีกาได้ และการกำหนดค่าตอบแทนต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ดังนั้นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาอาจตราพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับบำเหน็จบำนาญได้" ซึ่งเป็นความที่ฝืนต่อความเป็นจริง และข้าพเจ้าคงไม่พูดเช่นนั้น เพราะย่อมรู้อยู่เป็นพื้นฐานว่า การตราพระราชกฤษฎีกาเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ หรือฝ่ายนิติบัญญัติมอบอำนาจให้ผ่านทาง พระราชบัญญัติหรือพระราชกำหนด รายงานการประชุมดังกล่าวจึงยังไม่อาจใช้อ้างอิงเป็นหลักฐานเป็นข้อยุติได้ ซึ่งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้ตระหนักในเรื่องนี้ จึงได้กำหนดให้พิมพ์ข้อความไว้ที่หน้าปก รายงานการประชุมทุกครั้งว่า"บันทึกการประชุมนี้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับรอง ผู้ใดนำไปใช้หากเกิดความเสียหายใดๆ ผู้นั้นรับผิดชอบเอง"อ้างอิงข่าว : https://www.thaipost.net/hi-light/215396/

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

isranews_agency /  🏆 38. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

เปิดคำชี้แจง “มีชัย” วาระนายกฯ 8 ปีเริ่มนับวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 6 เม.ย.60เปิดคำชี้แจง “มีชัย” วาระนายกฯ 8 ปีเริ่มนับวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 6 เม.ย.60จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมวาระพิเศษในวันที่ 8 กันยายนนี้ เพื่อกำหนดแนวทางในการพิจารณาคำร้องของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน เรื่องการนับวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล่าสุดวันนี้ (6 ก.ย.) มีรายงานข่าวป
อ่านเพิ่มเติม »

เอกสารว่อน! คำชี้แจง 'มีชัย' ปมนายกฯ 8 ปี เริ่มนับ 6 เม.ย.2560 - ข่าวสดเอกสารว่อน! คำชี้แจง 'มีชัย' ปมนายกฯ 8 ปี เริ่มนับ 6 เม.ย.2560 - ข่าวสดเอกสารว่อน! คำชี้แจง 'มีชัย' ปมนายกฯ 8 ปี เริ่มนับ 6 เม.ย.2560 หลังศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือเรียกให้ทำคำชี้แจงและเรียกประชุมนัดพิเศษ 8 ก.ย.
อ่านเพิ่มเติม »

เปิดคำชี้แจง“มีชัย ฤชุพันธุ์”วาระนายกฯ 8 ปีเปิดคำชี้แจง“มีชัย ฤชุพันธุ์”วาระนายกฯ 8 ปีกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมวาระพิเศษในวันที่ 8 กันยายนนี้ เพื่อกำหนดแนวทางในการพิจารณาเรื่องการนับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล่า...
อ่านเพิ่มเติม »

เอกสาร'มีชัย'ว่อน นับวาระ นายกฯ 8 ปี “บิ๊กตู่” เริ่มปี 60เอกสาร'มีชัย'ว่อน นับวาระ นายกฯ 8 ปี “บิ๊กตู่” เริ่มปี 60เอกสาร'มีชัย'อดีตประธาน กรธ. ชี้แจงปม 'นายกฯ 8 ปี' ของ “บิ๊กตู่” ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่อนโซเชียล เผยเริ่มนับวาระตั้งแต่ 6 เม.ย.2560 ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ทำให้นั่งนายกฯ ได้อีก 2 ปี
อ่านเพิ่มเติม »

เอกสาร'มีชัย'แจงปม'นายกฯ8 ปี' ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่อนโซเชียลเอกสาร'มีชัย'แจงปม'นายกฯ8 ปี' ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่อนโซเชียลเผยเอกสาร'มีชัย' อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ชี้แจงปม 'นายก 8 ปี' ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่อนโซเชียล เผยคำชี้แจงการนับวาระตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ตามรัฐธรรมนูญปี 60
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-27 01:31:06