การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไม่ใช่อยู่แค่เงินกู้ 1.9 ล้านล้านเท่านั้น แต่อยู่กับวิธีการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพด้วย คาบลูกคาบดอก
เงินกู้ เกือบ 2 ล้านล้านบาทเพื่อมาใช้ในการเยียวยาและ ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดีโปร่งใสและตรวจสอบได้ ไม่ให้ซ้ำร้อย เหมือนการใช้ งบประมาณตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา
กระทรวงการคลัง โดย อุตตม สาวนายน รมว.
ฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน หมู่บ้าน ชั้นรากหญ้า มาถึงขนาดกลาง ธุรกิจเอสเอ็มอี และระดับบนคือ สถาบัน การเงิน บริษัทขนาดใหญ่ มีทั้งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำโครงการชดเชยช่วยเหลือสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ ที่เกิดความเป็นห่วงกันว่า ถ้าการกำกับดูแลเงินก้อนนี้ไปอยู่ในมือ ของคลังหรือรัฐบาล หรือ หน่วยงานรัฐ โดยไม่มีการรับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชน จะเป็นการช่วยไม่ถูกจุด เกาไม่ถูกที่คัน เป็นช่องว่างในการทุจริตและละลายแม่น้ำเหมือนโครงการแจกเงิน โครงการเงินผัน หรือประชานิยมในอดีต
เพราะปัญหาครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ถ้าฟื้นฟูไม่สำเร็จ จะเป็นวิกฤติซ้ำซ้อน ซ้ำเติมประเทศอย่างแสนสาหัส การตั้ง คณะกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบงบประมาณ การใช้จ่ายก็เป็นหนทางหนึ่งที่จะบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการตรวจสอบป้องกันการทุจริตที่จะตามมาเท่านั้น แต่อยู่กับวิธีการบริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพด้วย ยกตัวอย่าง ข้อเสนอของ ส.ส.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
คาบลูกคาบดอก : ทิศทางการเมืองฉวยวิกฤติเป็นโอกาสคนตกงานมากขึ้น การอุปโภค บริโภค การใช้จ่ายลดลง ตามอุปสงค์อุปทาน แน่นอน การกระตุ้นเศรษฐกิจหรือฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล จะต้องเกาให้ถูกที่คันจริงๆ โดยเฉพาะ เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท
อ่านเพิ่มเติม »