คาดกำไรบริษัทแม่ 'ยูนิโคล่' สูงเป็นประวัติการณ์ใน Q3 รับอานิสงส์จีนฟื้นตัว UNIQLO ญี่ปุ่น ยูนิโคล่ เสื้อผ้า อินโฟเควสท์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในวันพรุ่งนี้ บริษัทฟาสต์ รีเทลลิ่ง โค ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านเสื้อผ้าแบรนด์ “ยูนิโคล่” ของญี่ปุ่น จะรายงานผลกำไรเพิ่มขึ้น 25% ในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2566 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมมุ่งความสนใจไปที่การฟื้นตัวของยอดขายในจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฟาสต์ รีเทลลิ่งมีร้านยูนิโคล่ 925 สาขาในจีน ซึ่งมากกว่าในญี่ปุ่น และทำให้จีนกลายเป็นศูนย์กลางของตลาดค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดที่เข้มงวดของโควิด-19 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
แกนนำพิราบขาว จี้ กกต.เร่งส่ง ศาล รธน.วินิจฉัยปม 'พิธา' ถือหุ้นสื่อ : อินโฟเควสท์นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ดำเนินการนำเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กรณีถือหุ้น บมจ.ไอทีวี และการโอนหุ้นให้บุคคลอื่นหลังวันเลือกตั้ง ว่าเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) และเป็นเหตุให้สิ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) หรือไม่ ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยทันที เมื่อความปรากฏเห็น และรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว ทั้งนี้ ในเอกสารคำร้องยังระบุด้วยว่า หากความได้ปรากฏหรือเมื่อเห็น ก็สามารถตั้งกรรมการรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเรียกผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำแต่อย่างใด ตามที่ กกต.ได้ชี้แจงผ่านสื่อ ขณะที่มีรายงานว่า กกต.ได้เชิญนายพิธา มาชี้แจงด่วนในเวลา 13.00 น. แต่ก็ได้รับการปฎิเสธว่าไม่ได้มีการนัดให้มาชี้แจงดังกล่าว รวมทั้งในส่วนของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนที่มี ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวน สำนักงาน กกต. เป็นประธาน ก็ไม่ได้เชิญมาชี้แจงแต่อย่างใด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
'ไอ ทู' เสนอขาย IPO 120 ล้านหุ้น เข้า mai รองรับแผนลงทุนโครงการใหญ่หนุน New S Curve : อินโฟเควสท์นายอธิพร ลิ่มเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไอ ทู เอ็นเตอร์ไพรซ์ (I2) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 120,000,000 หุ้น คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (par) 0.50 บาทต่อหุ้น จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มอุตสาหกรรม เทคโนโลยี (TECH) โดยมี บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด และบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทฯ ประกอบธุรกิจ System Integration (SI) ให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา ติดตั้ง และจำหน่ายผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ […]
อ่านเพิ่มเติม »
เพื่อไทย เชื่อ กกต.ให้ความเป็นธรรม 'พิธา' ปมหุ้นสื่อ คาดไม่กระทบวันโหวตนายกฯ : อินโฟเควสท์นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (11 ก.ค.) 8 พรรคร่วม ได้นัดหารือกันเพื่อเตรียมความพร้อมในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และอาจมีประเด็นที่เกี่ยวเนื่องของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านบ้าง จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้นัดหมายประชุมวิป 3 ฝ่าย ในเวลา 11.00 น. เพื่อกำหนดแนวทางในการประชุมสภาฯ วันที่ 13 ก.ค.ว่าการโหวตเลือกนายกฯ จะต้องอาศัยข้อบังคับใดบ้าง และก่อนโหวต ควรเปิดให้แสดงวิสัยทัศน์ก่อนหรือไม่ ซึ่งแนวทางการโหวตของ 8 พรรคร่วมฯ มีความชัดเจน เป็นเอกภาพ และเป็นไปตาม MOU ที่จะสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนความคืบหน้าของจำนวนเสียง ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ กล่าวว่า เท่าที่สอบถามจากพรรคก้าวไกล ก็ยืนยันว่าสามารถหาเสียง ส.ว.ได้เพียงพอ และเข้าใจดีว่าคงไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากการโหวตครั้งนี้มีความสำคัญ แต่ก็ได้รับการยืนยันจากแกนนำพรรคก้าวไกลเสมอว่าได้รับเสียงที่เพียงพอ “พรรคก้าวไกล คงยังไม่อยากเปิดเผยอะไรมากนัก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนโหวต เราเข้าใจดีว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงถามเท่าที่ทำได้” […]
อ่านเพิ่มเติม »
เหตุน้ำท่วมใหญ่อินเดียคร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 22 ราย : อินโฟเควสท์สื่อท้องถิ่นของอินเดียรายงานวันนี้ (10 ก.ค.) ว่า เหตุฝนตกหนักในพื้นที่ทางตอนเหนือของอินเดีย ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม รวมถึงมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 ราย โรงเรียนในกรุงนิวเดลีต้องปิดการเรียนการสอนเนื่องจากเกิดฝนตกหนักตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ทางการในรัฐหิมาจัลประเทศและอุตตราขัณฑ์แนะนำให้ประชาชนงดออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หนังสือพิมพ์ไทมส์ออฟอินเดีย รายงานว่า รัฐที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มจากผลพวงของฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ได้แก่ หิมาจัลประเทศ, อุตตราขัณฑ์, อุตตรประเทศ, ชัมมูกับแคชเมียร์ และปัญจาบ โดยมีผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 22 ราย คลิปวิดีโอภาพจากสำนักข่าวเอเอ็นไอ แสดงให้เห็นว่า รัฐหิมาจัลประเทศทางตอนเหนือของอินเดียได้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้สะพานขาดและซัดบ้านพังหลายหลัง ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่ติดอยู่บนถนนและสะพานเนื่องจากฝนตก นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นอินเดียรายงานว่า ถนนตามรัฐต่าง ๆ ทางภาคเหนือของอินเดีย รวมทั้งในรัฐปัญจาบ, กรุงนิวเดลี และรัฐอุตตราขัณฑ์ ต่างเผชิญน้ำท่วม ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้แพยางเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในบ้านเรือนในบางพื้นที่ นายสุขวินเทอร์ สิงห์ สุขุ มุขมนตรีของรัฐหิมาจัลประเทศประกาศเตือนประชาชนเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (9 ก.ค.) ว่า “โปรดอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากเราคาดว่าจะมีฝนตกหนักอีกใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า” โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ก.ค. 66) Facebook […]
อ่านเพิ่มเติม »
บิ๊กตู่ ทดสอบสายสีชมพู คาดทดลองเดินรถปลายปี 66 เปิดจริงมิ.ย.67 : อินโฟเควสท์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจสอบความพร้อมก่อนทดสอบการเดินรถไฟฟ้าเสมือนจริง (Trial Run) ของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี จากสถานีมีนบุรี (PK30) – สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (PK12) พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมจุดเชื่อมต่อระหว่างโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูฯ และโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม ในอนาคต บริเวณสถานีมีนบุรี นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ตามแผนงานโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนมิถุนายน 2567 โดยคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ได้ช่วงปลายปี 2566 โดยพิจารณาดำเนินการตามความพร้อมของแต่ละสถานีจนครบ 30 สถานี โดยยึดถือหลักความพร้อมของงานและความปลอดภัยต่อประชาชนที่จะเข้ามาใช้บริการในระบบรถไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญสูงสุด โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี เป็นโครงการฯ ตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 มีมติเห็นชอบให้กระทรวงคมนาคม […]
อ่านเพิ่มเติม »
ฮุนเซนเตือนยูเครนใช้ระเบิดลูกปรายสหรัฐเสี่ยงเป็นภัยต่อประชาชน วอนมองกัมพูชาเป็นบทเรียน : อินโฟเควสท์สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชาออกโรงเตือนเมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.ค.) ให้ยูเครนหลีกเลี่ยงการใช้คลัสเตอร์บอมบ์ (cluster bomb) หรือระเบิดลูกปราย หลังสหรัฐประกาศส่งระเบิดลูกปรายให้ยูเครนใช้ต่อสู้กับกองทัพรัสเซีย โดยปัจจุบันกัมพูชายังคงต้องต่อสู้กับเศษซากจากสงคราม ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มนักมนุษยธรรมได้ออกมาประณามการตัดสินใจของสหรัฐในการจัดหาระเบิดลูกปรายให้ยูเครน เนื่องจากระเบิดชนิดดังกล่าวอาจไม่ระเบิดในทันทีและกลายเป็นภัยต่อพลเรือนในอีกหลายปีข้างหน้า สมเด็จฮุนเซนโพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า “การใช้ระเบิดลูกปรายในพื้นที่ที่รัสเซียยึดครองในดินแดนของยูเครนจะสร้างภัยอันตรายใหญ่หลวงที่สุดสำหรับชาวยูเครนในอีกหลายปี หรือหลายร้อยปีข้างหน้า” นอกจากนี้ สมเด็จฮุนเซนยังได้กล่าวถึงประสบการณ์อันเจ็บปวดของกัมพูชาจากกรณีที่สหรัฐทิ้งระเบิดลูกปรายในกัมพูชาเมื่อช่วงต้นทศวรรษ 1970 ซึ่งทำให้ผู้คนนับหมื่นพิการหรือเสียชีวิต สมเด็จฮุนเซนระบุว่า “เวลาล่วงเลยมากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว แต่ยังไม่มีวิธีใดที่จะทำลายระเบิดในกัมพูชาได้หมด” พร้อมกล่าวเสริมว่า “ผมสงสารชาวยูเครน ดังนั้นผมขอร้องให้ประธานาธิบดีสหรัฐในฐานะผู้จัดหา และประธานาธิบดีสหรัฐในฐานะผู้รับ อย่าใช้ระเบิดลูกปรายในสงครามครั้งนี้ เพราะเหยื่อที่แท้จริงก็คือชาวยูเครนเอง” รายงานระบุว่า สหรัฐได้รับการยืนยันจากยูเครนว่าจะพยายามลดความเสี่ยงของระเบิดลูกปรายต่อพลเรือน โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐยอมรับว่าการส่งมอบระเบิดลูกปรายให้ยูเครนถือเป็น “การตัดสินใจที่ยากลำบาก” สหรัฐได้ทำการทิ้งระเบิดหลายล้านลูกใส่กัมพูชาและลาวในช่วงสงครามเวียดนามในช่วงทศวรรษ 1960 และ 1970 เพื่อโจมตีฐานของพรรคคอมมิวนิสต์ หลังจากสงครามกลางเมืองที่กินเวลายาวนานถึง 30 ปีซึ่งสิ้นสุดลงในปี 2541 กัมพูชาก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีกับระเบิดจำนวนมากที่สุดในโลก ทั้งนี้ ผลกระทบจากการทิ้งระเบิดของสหรัฐและกับระเบิดที่หลงเหลือจากความขัดแย้งส่งผลต่อเนื่องอย่างยาวนาน โดยชาวกัมพูชาราว 20,000 รายต้องเสียชีวิตในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากเหยียบกับระเบิดหรืออาวุธที่ยังไม่ระเบิด […]
อ่านเพิ่มเติม »