คลังเผยสิ้นไตรมาส 2 ปีงบ 66 เบิกจ่ายแล้ว 1.69 ล้านลบ. คิดเป็น 53.12% : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

คลังเผยสิ้นไตรมาส 2 ปีงบ 66 เบิกจ่ายแล้ว 1.69 ล้านลบ. คิดเป็น 53.12% : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 53 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 24%
  • Publisher: 68%

คลังเผยสิ้นไตรมาส 2 ปีงบ 66 เบิกจ่ายแล้ว 1.69 ล้านลบ. คิดเป็น 53.12% งบประมาณปี66 งบประมาณรายจ่าย อินโฟเควสท์

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ 2566 ว่า ภาพรวม ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 มีการเบิกจ่ายแล้ว 1.69 ล้านล้านบาท คิดเป็น 53.12% ของวงเงินงบประมาณ 3.18 ล้านล้านบาท จำแนกเป็น รายจ่ายประจำเบิกจ่ายแล้ว 1.45 ล้านล้านบาท คิดเป็น 57.88% ของวงเงินงบประมาณ 2.52 ล้านล้านบาท รายจ่ายลงทุนเบิกจ่ายแล้ว 2.32 แสนล้านบาท คิดเป็น 35.05% และมีการใช้จ่ายหรือก่อหนี้แล้ว 3.98 แสนล้านบาท คิดเป็น 60.06% ของวงเงินงบประมาณ 6.

น.ส.กุลยา กล่าวว่า กรมบัญชีกลาง ได้ติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของส่วนราชการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีคณะทำงานเฉพาะกิจในการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่าย ทั้งในส่วนกลาง และสำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เร่งรัดและสนับสนุนการดำเนินงาน พร้อมทั้งให้คำแนะนำหน่วยรับงบประมาณทุกแห่ง ให้สามารถดำเนินการเบิกจ่ายได้ตามแผนการใช้จ่ายเงิน

โดยในปีนี้ คณะรัฐมนตรี กำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในภาพรวมไม่น้อยกว่า 93% การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำไม่น้อยกว่า 98% การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า 75% และการใช้จ่ายงบประมาณ รายจ่ายภาพรวม รายจ่ายประจำ และรายจ่ายลงทุน 100% “ขณะนี้คณะทำงานเฉพาะกิจในการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายเงินฯ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้กำกับดูแล เร่งรัดการดำเนินการ และการเบิกจ่ายของหน่วยรับงบประมาณที่อยู่ในความรับผิดชอบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเบิกจ่าย และการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐอื่น เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุ

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

สรท.ชี้ส่งออกไทยปี 66 เผชิญความท้าทายสูง อาจโตไม่ถึง 1% คาด Q1 หด 10% : อินโฟเควสท์สรท.ชี้ส่งออกไทยปี 66 เผชิญความท้าทายสูง อาจโตไม่ถึง 1% คาด Q1 หด 10% : อินโฟเควสท์นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ระบุว่า การส่งออกของไทยในปี 2566 มีปัจจัยที่ท้าทายมากขึ้น และมีโอกาสที่จะเติบโตได้ไม่ถึง 1% แต่ทั้งนี้ สรท.ยังคงเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ไว้ตามเดิมที่ 1-2% ไปก่อน และรอให้คณะกรรมการชุดใหม่มีการประเมินและตัดสินใจอีกครั้ง พร้อมกันนี้ ยังคาดว่าการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาส 1/66 จะหดตัวราว 10% (YoY) เนื่องจากเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/65 การส่งออกของไทยมีการเติบโตค่อนข้างสูง และคาดว่าการส่งออกในไตรมาส 2/66 อาจจะยังไม่ฟื้นตัวนัก โดยจะยังหดตัวราว 5% แต่หลังจากนั้นไปแล้ว การส่งออกของไทยจะขึ้นกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า เช่น จีน สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป เป็นสำคัญ “ถ้าสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายไปมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยน ถ้าทุกอย่างยังสามารถบริหารจัดการได้ การส่งออกในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ก็มีโอกาสจะกลับมาเป็นบวกได้ แต่ต้องติดตามเรื่องราคาน้ำมัน เงินเฟ้อสหรัฐ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่าราวเดือน พ.ค. หรือ มิ.ย. น่าจะเห็นความชัดเจน และคาดการณ์ได้ชัดกว่านี้” ประธาน สรท.ระบุ ทั้งนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »

CK BEM ทำนิวไฮ Backlog ทะลุ 2.5 แสนล้าน ชี้ปี 66 โตสดใส : อินโฟเควสท์CK BEM ทำนิวไฮ Backlog ทะลุ 2.5 แสนล้าน ชี้ปี 66 โตสดใส : อินโฟเควสท์นายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และกรรมการบริหาร บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เผยมั่นใจทุกบริษัทในกลุ่ม CK มีผลการดำเนินงานดีทั้งกลุ่ม และปี 2566 จะเป็นปีที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ของ CK และ BEM รายได้กำไรของ BEM จะทำนิวไฮรวมถึง Backlog ของ CK จะทำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี ตอกย้ำโมเดลธุรกิจของ CK มาถูกทาง นายพงษ์สฤษดิ์ เปิดเผยว่าปี 2565 ที่ผ่านมา BEM มีรายได้ 14,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3,304 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.8 กำไรสุทธิ 2,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน […]
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: ภาคเอกชนจี้รัฐบาลใหม่เร่งเดินหน้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจ : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: ภาคเอกชนจี้รัฐบาลใหม่เร่งเดินหน้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจ : อินโฟเควสท์นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีความเป็นกลางในการเลือกตั้ง โดยพร้อมที่จะทำงานร่ามกับรัฐบาลทุกพรรค และเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งขณะนี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อจากปัญหาต่างๆ ดังนั้นภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันทำงานอย่างใกล้ชิด “รัฐบาลใหม่ต้องทำให้เร็ว เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจกลับคืนมา กกร.พร้อมร่วมมือทำงานกับทุกรัฐบาล” นายเกรียงไกร กล่าว พร้อมเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน การลดต้นทุน การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้เข้มแข็ง ส่วนในระยะกลางและระยะยาวนั้น ต้องมีการปรับโครงสร้างเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง เช่น ค่าไฟฟ้าที่มีอัตราสูงกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศไม่กล้าตัดสินใจเข้ามาลงทุน ขณะที่คู่แข่งผลิตสินค้าเดียวกัน ตลาดส่งออกเดียวกัน ทำให้เกิดความเสียเปรียบ ไม่สามารถแข่งขันด้านราคาได้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: 'ศรีสุวรรณ' ร้องกกต.สอบพรรคการเมือง ยืนหาเสียงบนรถกระบะผิดกม. : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: 'ศรีสุวรรณ' ร้องกกต.สอบพรรคการเมือง ยืนหาเสียงบนรถกระบะผิดกม. : อินโฟเควสท์นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือขอให้นายทะเบียนพรรคการเมือง และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบการนำรถยนต์และรถกระบะมาดัดแปลงเป็นรถแห่หาเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ เสรีรวมไทย รวมถึงอีกหลายพรรค หลังพบว่า พรรคการเมืองมีการนำรถยนต์และรถกะบะมาดัดแปลงเป็นรถแห่หาเสียง ซึ่งในอดีตอาจทำได้ แต่ปัจจุบันไม่อาจทำได้เนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ม.ค.66 มีประกาศของ ผบ.ตร. เรื่องเข็มขัดนิรภัย ซึ่งในประกาศดังกล่าวมีข้อกำหนดชัดเจน ห้ามมีการนั่งและยืนท้ายรถกระบะเด็ดขาด เมื่อมีกฎหมายออกมาบังคับใช้ขนาดนี้ ผู้สมัครและพรรคการเมืองไม่สามารถที่จะใช้รถกระบะหาเสียง หรือยืนปราศรัยบริเวณท้ายรถกระบะ ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร พ.ศ.2522 ดังนั้น จึงร้องเพื่อให้นายทะเบียนดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเป็นการเลือกปฎิบัติ เพราะอีกไม่กี่วันจะเข้าเทศกาลสงกรานต์ ที่ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางทางโดยรถกระบะกันเป็นส่วนใหญ่ “ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมาย ห้ามนั่ง หรือยืนท้ายรถกระบะ ซึ่งหากไม่ไปจับกุมนักการเมืองที่ยืนท้ายรถกระบะ ก็จะเป็นการเลือกปฎิบัติโดยทันที กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย” นายศรีสุวรรณ ระบุ ที่สำคัญคือ มาตรา 22 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดไว้ชัดเจนว่า หลังจากมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งแล้ว เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง ที่จะต้องควบคุมดูแลสมาชิกพรรคและผู้สมัครของพรรค […]
อ่านเพิ่มเติม »

เลือกตั้ง'66: ส่องปาร์ตี้ลิสต์แต่ละพรรค วัดขุมกำลังเลือกตั้ง : อินโฟเควสท์เลือกตั้ง'66: ส่องปาร์ตี้ลิสต์แต่ละพรรค วัดขุมกำลังเลือกตั้ง : อินโฟเควสท์เปิดบัญชีรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หลังแต่ละพรรคการเมืองได้ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันรับสมัครวันแรก โดยมี 2 พรรค ที่แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีไม่ลงส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค คือ พรรคเพื่อไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนพรรคที่ส่งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว และอยู่ในบัญชีรายชื่ออันดับ 1 มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่พรรคไทยสร้างไทย รายชื่อแคนดิเดททั้ง 3 ชื่อ อยู่ในอันดับบัญชีรายชื่อครบทั้ง 3 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายสุพันธุ์ มงคลสุธี และ น.ต.ศิธา ทิวารี *พรรคเพื่อไทย ส่ง 100 รายชื่อ ไม่รวมแคนดิเดทนายกฯ สำหรับใน 100 รายชื่อของพรรคเพื่อไทย ไม่มีมีชื่อของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร […]
อ่านเพิ่มเติม »

มองโกเลียเผยยอดนทท.ต่างชาติ Q1/66 กว่า 1.3 แสนคน : อินโฟเควสท์มองโกเลียเผยยอดนทท.ต่างชาติ Q1/66 กว่า 1.3 แสนคน : อินโฟเควสท์กระทรวงสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวของมองโกเลียรายงานว่า มองโกเลียต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 มากกว่า 130,000 คน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลมองโกเลียได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดใหญ่ รวมถึงกระตุ้นสาธารณชนมีส่วนช่วยสร้างประเทศที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากขึ้น เมื่อเดือนม.ค. มองโกเลียได้ยกเว้นวีซ่าแก่ 34 ประเทศ เพื่อการเดินทางเข้ามองโกเลียด้วยจุดประสงค์ท่องเที่ยว ทำให้จำนวนประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าเพิ่มขึ้นเป็น 61 ประเทศ โดยพลเมืองของประเทศเหล่านี้สามารถอยู่ในมองโกเลียได้นานสูงสุด 30 วัน จนถึงสิ้นปี 2568 นอกจากนั้น มองโกเลียยังกำหนดให้ปี 2566-2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวมองโกเลีย และคาดว่าจะจัดกิจกรรมส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวในปี 2566 มากกว่า 90 รายการ ปัจจุบัน เศรษฐกิจมองโกเลียพึ่งพาอาศัยภาคธุรกิจเหมืองแร่ที่มุ่งเน้นการส่งออกเป็นหลัก ขณะการพัฒนาการท่องเที่ยวถือเป็นวิธีสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจที่เป็นไปได้มากที่สุด โดยมองโกเลียตั้งเป้าหมายต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างน้อย 1 ล้านคน และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงหลายปีข้างหน้า ทั้งนี้ มองโกเลียต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2564 รวม 290,400 คน และสร้างรายได้จากภาคการท่องเที่ยว 350 ล้านดอลลาร์ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-17 10:32:17