ครม.จ่ายชดเชย 1,340 ลบ. ให้ผู้ได้รับผลกระทบจากฝายราษีไศลแทนจัดสรรที่ดิน เกษตรกร เขื่อนราษีไศล อินโฟเควสท์
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการให้มีการจ่ายเงินชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพเป็นกรณีพิเศษ แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจาการก่อสร้างโครงการฝายราษีไศล ในเขตท้องที่จังหวัดสุรินทร์ที่มีรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยพิเศษตามผลการตรวจสอบของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีราษฎรขอรับสิทธิการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการเขื่อนราษีไศลในเขตท้องที่จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 1,590 ราย วงเงิน 1,339.
ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส ป้องกันมิให้บุคคล หรือกลุ่มบุคคล แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากราษฎร ครม.
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การจ่ายเงินชดเชยพิเศษฯ ข้างต้น สืบเนื่องมาจากข้อเรียกร้องของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2538 ที่ประชาชน เช่น กลุ่มสมัชาคนจนได้เริ่มเรียกร้องค่าชดเชย และตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้น ตามโครงการได้จ่ายค่าชดเชยแก่ราษฎรอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด คือ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และร้อยเอ็ด โดยจ่ายชดเชยแก่ราษฎรกรณีที่ไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดินอัตราไร่ละ 32,000 บาท รวม 16,061 แปลง เนื้อที่ 68,738 ไร่ 1 งาน 6.46 ตารางวา รวมเงินชดเชยจ่ายแล้วทั้งสิ้น 2,271.
อย่างไรก็ตาม ในปี 2556 กลุ่มสมัชชาเกษตรกรภาคอีสาน และสมาพันธ์เกษตรกรอีสาน ได้ยื่นเรื่องเรียกร้องต่อรัฐบาลเรียกร้องให้จัดสรรที่ดินแปลงอพยพให้แก่ราษฎรผู้เป็นเจ้าของหรือครอบครองที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายราษีไศล เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ได้รับเงินชดเชยที่เคยได้รับไร่ละ 32,000 บาทไปแล้ว แต่ตามหลักเกณฑ์กรมชลประทานจะจัดสรรที่ดินให้แก่เกษตรกรได้เฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานขนาดใหญ่ เช่น เขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เท่านั้น...
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
โรงรับจำนำรัฐกู้เพิ่ม 300 ลบ. เป็นเงินทุนหมุนเวียน : อินโฟเควสท์น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2566 จำนวน 300 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และรองรับธุรกรรมการให้บริการรับจำนำแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ วงเงินกู้ดังกล่าว ได้รับการบรรจุในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2566 แล้ว น.ส.รัชดา ชี้แจงถึงความจำเป็นในการกู้เงินครั้งนี้ว่า สำนักงานธนานุเคราะห์ ได้ประมาณการทางการเงินในปีงบประมาณ 2566 และคาดการณ์ว่าจะมีผลประกอบการหรือกำไรสุทธิลดลงจากปีงบประมาณ 2565 จำนวน 89.55 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ อาทิ เศรษฐกิจโลก ความผันผวนของ ราคาทองคำ และการเปิดสาขาใหม่ 2 สาขา เป็นต้น ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินกิจการมีสภาพคล่องทางเงิน สำนักงานธนานุเคราะห์จึงจำเป็นต้องกู้เงินดังกล่าว โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
ครม. จัดงบ 875 ลบ. ส่งเสริมผลิตข้าวรักษ์โลก BCG Model : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก BCG Model ภายใต้กรอบวงเงิน 874.83 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาปัจจัยการผลิตและเครื่องจักรกลการเกษตร ตามแผนความต้องการของศูนย์ข้าวชุมชน 292 ศูนย์ เป้าหมายพื้นที่ดำเนินการ 58,400 ไร่ และพื้นที่ให้บริการ 60 ล้านไร่ โดยปรับปรุงกระบวนการเพาะปลูกข้าว เน้นการทำนาแบบประณีต คือ การใช้ระบบชีวมวล ชีวภาพ และจุลินทรีย์ที่ลด ละ เลิก การใช้สารเคมี ส่งเสริมการทำนาแบบยั่งยืน สร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเกษตรกร สำหรับพื้นที่ และขอบเขตการดำเนินการพื้นที่ผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี อยู่ในกลุ่มของศูนย์ข้าวชุมชนที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการข้าว จำนวน 292 ศูนย์ ในพื้นที่ 74 จังหวัด ซึ่งเป็นศูนย์ข้าวชุมชนที่มีความพร้อมในการดำเนินงานตามเงื่อนไขของโครงการฯ โดยดำเนินการศูนย์ละ 200 ไร่ เพื่อปลูกข้าวรักษ์โลก ซึ่งมีรูปแบบการเกษตรแบบยั่งยืน ไม่มีการเผาฟาง ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีหรือลดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูข้าว มีการจัดการศัตรูข้าวด้วยการใช้จุลินทรีย์เพื่อการเกษตร และสารชีวภัณฑ์ มีการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรและเทคโนโลยีนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อลดต้นทุนในการผลิต ลดความเสียหายอันเกิดจากศัตรูข้าวหรือกิจกรรมการทำนา […]
อ่านเพิ่มเติม »
ครม.รับทราบผลกู้เงินปรับโครงสร้างหนี้รัฐ คลังยันอยู่ในระดับบริหารจัดการได้ : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลที่มีระยะเวลาชำระหนี้เกิน 12 เดือน ซึ่งดำเนินการในปีงบประมาณ 65 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เนื่องจากในปีงบประมาณ 65 (ต.ค.64-ก.ย.65) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้กู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้รัฐบาลวงเงินรวม 1,204,030.54 ล้านบาท คิดเป็น 87% ของวงเงินตามแผนบริหารหนี้ประจำปีงบประมาณ 65 (1,384,703.45 ล้านบาท) จากวงเงินกู้ดังกล่าวเป็นวงเงินกู้ระยะเวลาชำระหนี้เกิน 12 เดือน รวม 643,305.23 ล้านบาท คิดเป็น 53% ของวงเงินกู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ทั้งหมด การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้เป็นการบริหารจัดการหนี้ของรัฐบาล เพื่อลดการกระจุกตัวของหนี้ระยะสั้น โดย ณ สิ้นปีงบประมาณ 65 หนี้คงค้างของรัฐมีจำนวนรวม 9,163,673 ล้านบาท เป็นหนี้ระยะสั้น (ไม่เกิน 1 ปี) 561,315.67 ล้านบาท คิดเป็น 6.13% และหนี้ระยะยาว (1 ปีขึ้นไป) […]
อ่านเพิ่มเติม »
ครม.เปิดโอกาสเอกชนร่วมลงทุนนำผลวิจัยไปใช้ประโยชน์จริงในเชิงศก. : อินโฟเควสท์น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างระเบียบสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ว่าด้วยการร่วมลงทุนในโครงการซึ่งนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการร่วมลงทุนในโครงการที่นำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐและหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจและวัตถุประสงค์ด้านการวิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานอื่นของรัฐตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติประกาศกำหนด สามารถร่วมลงทุนกับภาคเอกชน เพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสาธารณประโยชน์ได้ ในส่วนของร่างระเบียบฯ ดังกล่าว มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1. ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับแก่ (1) สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ (2) หน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจและวัตถุประสงค์ด้านการวิจัยและนวัตกรรมตามที่สภานโยบายฯกำหนด และ (3) หน่วยงานอื่นของรัฐตามที่สภานโยบายฯ กำหนด 2. วัตถุประสงค์การร่วมลงทุนเพื่อนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ แบ่งออกเป็น 2 ข้อ คือ (1) สร้างประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เชิงสังคม หรือเชิงสาธารณประโยชน์ และ (2) สร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน หรือสร้างให้เกิดธุรกิจฐานเทคโนโลยีและนวัตกรรมรายใหม่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ครม. ขยายเวลายกเว้นภาษีเงินได้บริจาคผ่าน e-Donation 4 กองทุนวิจัย : อินโฟเควสท์น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคเงินให้แก่กองทุนวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม) ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ เพื่อขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการบริจาคเงินให้แก่กองทุนวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม (ระยะที่ 3) พ.ศ.2566-2568 (รวม 3 ปีภาษี) ในปีงบประมาณ 2564-2565 กระทรวงการคลังได้มีมาตรการภาษี โดยเป็นการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยให้หักลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าของจำนวนเงินหรือรายจ่ายที่บริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร สำหรับการบริจาคให้แก่กองทุนวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม รวม 4 กองทุน ได้แก่ กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบมาตรวิทยา กองทุนเพื่อการพัฒนาระบบสาธารณสุข กองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวสิ้นสุดไปแล้วเมื่อ 31 ธ.ค. 65 โดยมีผู้บริจาคเงินให้แก่กองทุนวิจัย […]
อ่านเพิ่มเติม »
ครม.ไฟเขียวให้ส่วนลดค่า Ft ผู้ใช้ไฟรายย่อย งวด ม.ค.-เม.ย.66 : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติวงเงิน 3,191.74 ล้านบาท ให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนมกราคม-เมษายน 2566 เพื่อให้ส่วนลดอัตราค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยเป็นกรอบวงเงินของ กฟน. 517.95 ล้านบาท และกฟภ. 2,673.79 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบในการลดภาระค่าครองชีพให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นกลุ่มเปราะบาง โดยก่อนหน้านี้ ครม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง ประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ของ กฟน. และกฟภ. รวมทั้งผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทาน กองทัพเรือ เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่ค่าไฟฟ้าประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2566 โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 […]
อ่านเพิ่มเติม »