ครม.ไฟเขียวงบฯ-แผนการดำเนินงานองค์กรร่วมไทย-มาเลย์ ประจำปี 66 ประชุมครม. มติคณะรัฐมนตรี มาเลเซีย อินโฟเควสท์
น.ส.
โดยงบประมาณปี 66 ที่องค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย เสนอขอครั้งนี้จำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการจัดทำรายละเอียดคำขอขึ้นตามพื้นฐานกิจกรรมการดำเนินงานขององค์กรร่วมฯ ในสถานการณ์ปกติ ซึ่งสูงกว่างบประมาณปี 2565 ที่ได้รับอนุมัติภายใต้สภาวะเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 22% ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 4,836,100 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าใช้จ่ายที่เป็นทุน 163,900...
ส่วนที่มาของงบประมาณนั้น องค์กรร่วมฯ ได้เสนอขอใช้เงินที่ได้รับจากการขายปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี 2565 จำนวน 4,271,916 ดอลลาร์สหรัฐ และงบประมาณเหลือจ่ายของปี 2564 จำนวน 728,084 ดอลลาร์สหรัฐ และได้ประมาณการรายได้รวมขององค์กรร่วมฯในปีงบประมาณ 2566 อยู่ที่จำนวน 667 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วยค่าภาคหลวง 181 ล้านดอลลาร์สหรัฐและปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรจำนวน 486 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้แก่ ค่าใช้จ่ายบุคลากร ประกอบด้วย เงินเดือนพนักงาน ค่าเบี้ยเลี้ยงและสวัสดิการ เพิ่มขึ้น 16.2%, ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของคณะกรรมการองค์กรร่วมฯและเจ้าหน้าที่ เพิ่มขึ้น 50%, ค่าเช่า เช่น พื้นที่สำนักงาน อุปกรณ์สำนักงาน เพิ่มขึ้น 6%, ค่าบริการและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้น 18.5%, ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม เพิ่มขึ้น 68.
สำหรับแผนการดำเนินงานขององค์กรร่วมฯในปี 66 ที่สำคัญเช่น เจาะหลุมประเมินผลจำนวน 1 หลุมในแหล่ง Senja , เจาะหลุมปิโตรเลียมในแหล่ง Bumi Deep Phrase 1 and 2 จำนวน 7 หลุม, รักษาระดับอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติที่เรียกรับสูงสุด ในอัตรา 869 ล้านลูกบาศก์ฟุต และประสานงานกับบริษัท ทรานส์ไทย-มาเลเซีย เพื่อให้การผลิตก๊าซเป็นไปตามสัญญา เป็นต้น
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
CONSENSUS: โบรกฯเชียร์ซื้อ BAFS คาด H2/65 ฟื้นตามท่องเที่ยว-ท่อส่งน้ำมันดีขึ้น,พลิกกำไรปี 66 : อินโฟเควสท์โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะนำ “ซื้อ” หุ้น บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) คาดผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัวต่อเนื่อง และจะกลับมามีกำไรสุทธิในปี 66 รับความต้องการเติมน้ำมันอากาศยานฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากหลายประเทศคลายมาตรการปิดเมือง (Lockdown) และสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังสถานการณ์คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศกลับมาเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจขนส่งน้ำมันทางท่อภาคเหนือยังคงเป้าหมายไว้ที่ 500 ล้านลิตร เนื่องจากบริษัทได้ลูกค้ารายใหม่ รวมไปถึงยังรับอานิสงส์การเดินทางภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนผลขาดทุนลดลง และเชื่อว่าเข้าใกล้ถึงจุดคุ้มทุนในอนาคต ราคา BAFS ปิดเช้าอยู่ที่ 29.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.86%) ขณะที่ดัชนี SET ลบ 0.31% โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) พาย ซื้อ 33.00 ดาโอ(ประเทศไทย) ซื้อ 35.00 หยวนต้า(ประเทศไทย) ซื้อเก็งกำไร 35.00 นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) (DAOL) เปิดเผยว่า …
อ่านเพิ่มเติม »
คลังอนุญาต Deutsche Bank AG ออกบาทบอนด์ในไทย ภายใน 31 พ.ค.66 : อินโฟเควสท์รายงานข่าวสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในรอบการพิจารณาอนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศ ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย รอบอนุญาตที่ 3/2565 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 – 31 พฤษภาคม 2566 กระทรวงการคลัง ได้อนุญาตให้นิติบุคคลต่างประเทศ จำนวน 1 ราย ได้แก่ Deutsche Bank AG ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยได้ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 โดยมีเงื่อนไขให้ใช้เงินที่ได้รับจากการออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทได้ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ กระทรวงการคลังขอสงวนสิทธิ์ในการระงับการออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทย ในกรณีที่สถานภาพ สถานะการเงิน หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้องของผู้ได้รับอนุญาต มีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินอย่างมีนัยสำคัญ หรือเมื่อผู้ได้รับอนุญาตมีการดำเนินการไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ได้รับอนุญาต โดยที่ผ่านมา การพิจารณาให้นิติบุคคลต่างประเทศ สามารถออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้สกุลเงินบาทในประเทศไทยในแต่ละครั้ง กระทรวงการคลัง ได้พิจารณาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อตลาดการเงิน และตลาดตราสารหนี้ไทยในภาพรวม อาทิ 1) ด้านเสถียรภาพของตลาดการเงินในประเทศ 2) ด้านผลกระทบต่อการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนไทย 3) ด้านการส่งเสริมให้นักลงทุนในประเทศมีตราสารหนี้ที่มีคุณภาพให้ลงทุน 4) ด้านการพัฒนาตลาดพันธบัตรหรือหุ้นกู้สกุลเงินบาท …
อ่านเพิ่มเติม »
ครม.ไฟเขียวกู้ 8.5 หมื่นลบ.บริหารภาระค่า Ft-เคาะมาตรการเยียวยาสัปดาห์หน้า : อินโฟเควสท์นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนากยกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนการกู้เงินวงเงินประมาณ 85,000 ล้านบาท เพื่อบริหารภาระค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) ประจำปีงบประมาณ 2566 ส่วนมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านพลังงานแก่ประชาชนในด้านค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) กระทรวงพลังงานจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาในสัปดาห์หน้า โดยจะสามารถออกมาตรการช่วยเหลือได้ทันในรอบบิลเดือนนี้ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของภาระค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยจะบูรณาการทำงานทั้งจากกระทรวงพลังงาน การไฟฟ้า โดยจะเร่งรัดการส่งเสริม การติดตั้ง Solar Rooftop ให้เร็วขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสำหรับครัวเรือนที่มีศักยภาพในการติดตั้งได้ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ย. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
ครม. ไฟเขียวงบกลาง 1.6 พันลบ.บริหารจัดการน้ำฤดูฝน-กักเก็บน้ำฤดูแล้ง, ซื้อเครื่องจักรสูบน้ำ : อินโฟเควสท์นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เสนอ ในกรอบวงเงิน 911.71 ล้านบาท เพื่อเป็นการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 65 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี 65-66 ซึ่งโครงการนี้มีความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในสถานการณ์อุทกภัย และเพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยเป็นการดำเนินการของ 3 กระทรวง 7 หน่วยงาน จำนวน 576 โครงการ – กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน จำนวน 4 โครงการ วงเงิน 192.07 ล้านบาท – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 519 โครงการ วงเงินรวม 619.71 ล้านบาท โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จำนวน 496 โครงการ วงเงิน 376.42 ล้านบาท …
อ่านเพิ่มเติม »
ครม.อนุมัติข้อยกเว้นให้ ก.ทรัพยากรฯ นำป่าชายเลน 13 จ.ไปจัดที่ดินให้ชุมชนอาศัย : อินโฟเควสท์น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ ในการขอยกเว้นมติ ครม. เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าชายเลน เพื่อนำที่ดินไปจัดเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในพื้นที่ป่าชายเลน ตามนโยบายของรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ในพื้นที่ 13 จังหวัดชายฝั่งทะเล ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จันทบุรี ชลบุรี ชุมพร ตราด นครศรีธรรมราช ประจวบศิรีขันธ์ พังงา ภูเก็ต ระนอง ระยอง สตูล และสุราษฎร์ธานี จำนวน 64 พื้นที่ เนื้อที่รวม 573,378 ไร่ ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ มีมติรับทราบแล้ว ในการประชุมครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 64 โดยในส่วนของค่าใช้จ่ายในการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลนทดแทน ไม่น้อยกว่า 20 เท่าของพื้นที่ป่าชายเลนที่ใช้ประโยชน์ กระทรวงทรัพยากรฯ จะดำเนินการตามระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง …
อ่านเพิ่มเติม »
เอชเอสบีซี-โกลด์แมนคาดเยนอ่อนทะลุ 145 เยนเทียบดอลลาร์ในไม่ช้านี้ : อินโฟเควสท์เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ สถาบันการเงินขนาดใหญ่รายล่าสุดได้ปรับลดคาดการณ์ค่าเงินเยนของญี่ปุ่น หลังจากเยนเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบเป็นรายปี นักกลยุทธ์ของเอชเอสบีซีประมาณการว่า เยนจะอ่อนค่าลงทะลุระดับ 145 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หลังแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี แม้พวกเขายังคงมีมุมมองเชิงบวกก็ตาม การประมาณการของเอชเอสบีซีเป็นไปในทิศทางเดียวกับการคาดการณ์เมื่อไม่นานมานี้ของโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ และมิซูโฮ ซีเคียวริตีส์ หลังนักวิเคราะห์ประเมินผลกระทบอีกครั้งจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการยึดมั่นต่อนโยบายผ่อนคลายการเงินเป็นพิเศษของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินเยนปรับตัวลง 0.2% ในวันนี้ (6 ก.ย.) สู่ระดับต่ำกว่า 141 เยนเล็กน้อย เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเงินเยนร่วงกว่า 18% แล้วในปีนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับการปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2522 ที่ 19.2% “ขณะนี้เราคาดว่าดอลลาร์-เยนจะเคลื่อนไหวเหนือระดับ 140 เยนในช่วงหลายเดือนข้างหน้า โดยเป็นไปได้ที่จะทะลุระดับ 145 เยน จากนั้น จะร่วงเร็วขึ้นอีกเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ก่อนแตะที่ 130 เยนในช่วงสิ้นปีหน้า เราชะลอมุมมองสำหรับการฟื้นตัวของเงินเยนออกไปเป็นปี 2566” นักกลยุทธ์ของเอชเอสบีซี ซึ่งรวมถึงนายพอล …
อ่านเพิ่มเติม »