ของที่ระลึกธ.เครดิต สวิส โผล่ร้านออนไลน์ หลัง UBS ประกาศควบรวม

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ของที่ระลึกธ.เครดิต สวิส โผล่ร้านออนไลน์ หลัง UBS ประกาศควบรวม
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 eFinanceThai
  • ⏱ Reading Time:
  • 13 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 9%
  • Publisher: 63%

ของที่ระลึกธ.เครดิต สวิส โผล่ร้านออนไลน์ หลัง UBS ประกาศควบรวม... อ่านต่อ efinanceThai

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อเร็วๆนี้ว่า พบของที่ระลึกของธนาคารเครดิต สวิส วางขายในร้านค้าออนไลน์ ซึ่งเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมง หลังการประกาศการเข้าซื้อกิจการของ UBS โดยถือเป็นจุดสิ้นสุดของยุคของธนาคารเครดิต สวิส หลังก่อตั้งมานานเกือบ 200

ปีของที่ระลึกดังกล่าว คือทองคำแท่งน้ำหนัก 100 กรัม จำนวนหลายสิบแท่ง ซึ่งประทับด้วยชื่อของธนาคารเครดิต สวิส ที่ก่อตั้งมาอย่างยาว 167 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2399 ถูกนำไปวางจำหน่ายในร้านค้าออนไลน์ ยอดนิยมของสวิตเซอร์แลนด์ อย่าง Ricardo.ch และ tutti.ch

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

eFinanceThai /  🏆 17. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

'เครดิต สวิส' ตั้งรองประธานฝ่ายบริหารความมั่งคั่งประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : อินโฟเควสท์'เครดิต สวิส' ตั้งรองประธานฝ่ายบริหารความมั่งคั่งประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : อินโฟเควสท์ธนาคารเครดิต สวิสเปิดเผยในวันนี้ (23 มี.ค.) ว่า ธนาคารได้ว่าจ้าง นายกวง คิน มุน ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานคนใหม่ฝ่ายการบริหารความมั่งคั่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารยูบีเอสได้บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส วงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งช่วยให้เครดิต สวิส สามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการเงิน หน่วยงานกำกับดูแลตลาดการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องดำเนินการ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่ธนาคารเครดิต สวิส อาจจะมีสภาพคล่องในระดับต่ำ หลังจากที่ราคาหุ้นของเครดิต สวิสร่วงลงอย่างหนัก และเงินฝากลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะยังคงมีปริมาณเงินเพียงพอต่อการชำระหนี้ก็ตาม นายกวงระบุในแถลงการณ์ของเครดิต สวิสว่า ผลบวกที่เกิดจากการควบรวมกิจการของ 2 ผู้นำระดับโลกในด้านการบริหารความมั่งคั่งนั้น จะสร้างโอกาสอย่างมากให้กับลูกค้าและผู้ให้คำแนะนำและปรึกษาด้านการลงทุน ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการอาจทำให้ต้องปลดพนักงานของเครดิต สวิสครั้งใหญ่ ขณะที่สมาคมพนักงานธนาคารสวิสฯ ระบุเมื่อวันจันทร์ (20 มี.ค.) ว่า ควรปรับลดพนักงานให้น้อยที่สุด สำหรับนายกวงซึ่งอยู่ในสิงคโปร์นั้น เคยทำงานให้กับธนาคารดอยซ์แบงก์เป็นเวลา 11 ปี และทำงานที่ดีบีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง […]
อ่านเพิ่มเติม »

สหรัฐตรวจสอบ 'เครดิต สวิส - ยูบีเอส' ปมช่วยลูกค้ารัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร : อินโฟเควสท์สหรัฐตรวจสอบ 'เครดิต สวิส - ยูบีเอส' ปมช่วยลูกค้ารัสเซียเลี่ยงคว่ำบาตร : อินโฟเควสท์สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในวันนี้ (24 มี.ค.) ว่า ธนาคารเครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี (Credit Suisse Group AG) และธนาคารยูบีเอส กรุ๊ป เอจี (UBS Group AG) รวมอยู่ในบรรดาธนาคารหลายแห่งที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือผู้มีอำนาจชาวรัสเซียในการหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรหรือไม่ ในหมายเรียกชุดใหม่ที่ออกโดยรัฐบาลสหรัฐนั้นมีรายชื่อของธนาคารสวิส 2 แห่งดังกล่าวด้วย และมีการส่งคำขอข้อมูลไปตั้งแต่ก่อนที่ธนาคารเครดิต สวิสจะเกิดวิกฤต จนกระทั่งธนาคารยูบีเอสเข้าซื้อกิจการในที่สุด นอกจากนี้แล้ว ยังมีการส่งหมายเรียกไปยังพนักงานของธนาคารรายใหญ่บางแห่งในสหรัฐด้วยเช่นกัน การสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐมุ่งเน้นไปที่การระบุว่า พนักงานธนาคารคนใดได้ติดต่อเป็นการลับ ๆ กับลูกค้าที่ถูกคว่ำบาตร และลูกค้าเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบอย่างไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยนายธนาคารและที่ปรึกษาเหล่านั้นอาจถูกสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบว่าได้กระทำการละเมิดกฎหมายหรือไม่ ในช่วงก่อนที่รัสเซียจะเข้ารุกรานยูเครนซึ่งส่งผลให้เกิดการคว่ำบาตรในวงกว้างนั้น ธนาคารเครดิต สวิส เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการให้บริการอย่างดีแก่ชาวรัสเซียที่ร่ำรวย โดยในช่วงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดนั้น ธนาคารแห่งนี้ได้บริหารจัดการเงินกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับลูกค้าชาวรัสเซีย ซึ่งสร้างรายได้ให้กับธนาคารราว 500-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจ KleptoCapture เพื่อบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกลุ่มชาวรัสเซียผู้มั่งคั่งซึ่งเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยรัฐบาลสหรัฐได้ยึดเรือยอชต์ เครื่องบินส่วนตัว และทรัพย์สินหราหรูหลายรายการจากกลุ่มคนเหล่านี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »

'รัชนก' ขอบคุณแฟนกีฬาให้กำลังใจ สุดงงไม่ใช่ปีชงแต่เจอปัญหาตลอด'รัชนก' ขอบคุณแฟนกีฬาให้กำลังใจ สุดงงไม่ใช่ปีชงแต่เจอปัญหาตลอดหลังจากที่ 'เมย์' รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่ขวัญใจคนไทย ต้องขอถอนตัวระหว่างที่ดวลกับ ริโกะ กุนจิ นักตบสาวญี่ปุ่น ในการแข่งขัน แบดมินตัน โยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น
อ่านเพิ่มเติม »

นลท.สหรัฐจ่อฟ้องรัฐบาลสวิสฯ เหตุตัดมูลค่า AT1 ของเครดิตสวิสเหลือศูนย์ : อินโฟเควสท์นลท.สหรัฐจ่อฟ้องรัฐบาลสวิสฯ เหตุตัดมูลค่า AT1 ของเครดิตสวิสเหลือศูนย์ : อินโฟเควสท์สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า กลุ่มนักลงทุนและกลุ่มธุรกิจในสหรัฐเตรียมยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีกับรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้ตัดมูลค่าของตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) หรือ AT1 มูลค่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ของธนาคารเครดิต สวิส ลงเหลือศูนย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการเทกโอเวอร์กิจการโดยธนาคารยูบีเอส ทั้งนี้ ยูบีเอสได้เข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส ในวงเงิน 3 พันล้านฟรังก์สวิส (3.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้ข้อตกลงการเทกโอเวอร์กิจการนั้น ตราสาร AT1 ของเครดิต สวิสซึ่งระบุมูลค่าหน้าตั๋วไว้ที่ 1.6 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (1.735 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะถูกตัดมูลค่าลงเหลือศูนย์ นอกจากนี้ ข้อตกลงยังกำหนดว่า ผู้ถือ AT1 ของเครดิต สวิส จะไม่มีสิทธิในการรับเงินชดเชย แต่ผู้ถือหุ้นสามัญกลับได้รับเงินชดเชย 3.23 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าผู้ถือหุ้นสามัญมักมีอันดับเป็นรองผู้ถือตราสารหนี้ในการได้รับเงินชดเชยในกรณีธนาคารล้มละลาย โดยทั่วไปแล้ว โครงสร้างทุนของธนาคารพาณิชย์จะมีตราสาร AT1 ในอัตราส่วนสูงกว่าหุ้นสามัญ และหากธนาคารประสบปัญหา กลุ่มผู้ถือตราสารหนี้เหล่านี้ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ก่อนผู้ถือหุ้นสามัญในกรณีที่นักลงทุนต้องการเงินคืน แต่การที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ตัดมูลค่า AT1 ของเครดิต สวิส […]
อ่านเพิ่มเติม »

แบงก์ชาติฮ่องกงจับตาวิกฤตแบงก์สหรัฐ แต่มั่นใจฮ่องกงไม่ถูกกระทบ : อินโฟเควสท์แบงก์ชาติฮ่องกงจับตาวิกฤตแบงก์สหรัฐ แต่มั่นใจฮ่องกงไม่ถูกกระทบ : อินโฟเควสท์นายเอ็ดดี้ หยู ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกงเปิดเผยในวันนี้ (24 มี.ค.) ว่า ฮ่องกงจำเป็นต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐนั้นจะลุกลามบานปลายหรือไม่ แม้ว่าภาคธนาคารของฮ่องกงแทบจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรปก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB) ของสหรัฐ รวมทั้งวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารเครดิต สวิส ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมา และสร้างแรงกระเพื่อมที่รุนแรงต่อระบบธนาคารทั่วโลก ทั้งนี้ นายหยูกล่าวว่า ฮ่องกงมีการลงทุนที่น้อยมากในตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) หรือ AT1 ในขณะที่ธนาคารกลางทั่วเอเชียกำลังหาแนวทางที่จะบรรเทาความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถือครองตราสาร AT1 ของธนาคารเครดิต สวิส หลังจากรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้ตัดมูลค่า AT1 ของเครดิต สวิส ลงเหลือศูนย์ตามข้อตกลงการเทกโอเวอร์กิจการโดยธนาคารยูบีเอส “วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐและยุโรปเมื่อเร็วนี้ ๆ แทบจะไม่มีผลกระทบกับฮ่องกง และเรามองว่าสถานการณ์ในขณะนี้เริ่มมีเสถียรภาพ แต่ฮ่องกงก็ยังจำเป็นต้องจับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินว่าวิกฤตการณ์นั้นจะลุกลามบานปลายหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับธนาคารระดับภูมิภาคของสหรัฐ” นายหยูกล่าว นอกจากนี้ เขากล่าวว่า ธนาคารในฮ่องกงและทั่วโลกจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือกับความผันผวนในตลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ยูบีเอสได้เข้าซื้อกิจการธนาคารเครดิต สวิส ในวงเงิน […]
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-04-08 08:21:49