ขยายเวลา 4 แบงก์รัฐ ลดส่งเงินเข้ากองทุนเหลือ 0.125% อีก 1 ปี กองทุน ครม. ประชุมครม. มติคณะรัฐมนตรี แบงก์รัฐ อินโฟเควสท์
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โดยปรับลดเงินนำส่งเหลือ 0.125% ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.66 และให้กลับไปใช้อัตรา 0.
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่าเนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลต่อลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง หรือกลุ่มฐานราก ทำให้ยังไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ประกอบกับขณะนี้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคได้ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพของประชาชน สถาบันการเงินเฉพาะกิจยังจำเป็นต้องดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง...
ดังนั้น เพื่อให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจสามารถดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนได้ต่อเนื่อง กระทรวงการคลังจึงเห็นสมควรเสนอให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาสถาบันการเงินของธนาคารเฉพาะกิจทั้ง 4 แห่งออกไปอีก 1 ปี สำหรับกองทุนสถาบันการเงินเฉพาะกิจเกิดขึ้นตามบทบัญญัติของ พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ พ.ศ.2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจให้มั่นคงและมีเสถียรภาพ โดยมาตรา 15 ได้กำหนดให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจมีหน้าที่นำส่งเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตราที่รัฐมนตรีกำหนดโดยความเห็นชอบของ ครม. แต่ต้องไม่เกิน 1% ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน ซึ่ง ครม.ได้เห็นชอบกำหนดอัตราที่ 0.
อย่างไรก็ตาม ครม.ได้เห็นชอบให้มีการปรับลดอัตราเงินนำส่งเหลือกึ่งหนึ่งหรือ 0.125% ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระหว่างปี 63-65 เพื่อลดภาระสถาบันการเงินเฉพาะกิจและให้สถาบันการเงินมีสภาพคล่องสำหรับดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
รัสเซียเผยอินเดียเป็นลูกค้าอาวุธรายใหญ่สุด ควักซื้อ 1.3 หมื่นล้านดอลล์ใน 5 ปี : อินโฟเควสท์สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัฐบาลรัสเซียรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (12 ก.พ.) ว่า รัสเซียขายอาวุธให้อินเดียประมาณ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และอินเดียได้ตกลงสั่งซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารจากรัสเซียรวมมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ถือเป็นประเทศผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย คิดเป็นประมาณ 20% ของยอดสั่งซื้อปัจจุบัน นอกจากนี้ อินเดียก็ไม่ได้ออกมาประณามรัสเซียอย่างชัดเจนในกรณีที่รุกรานยูเครน ขณะที่นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เรียกร้องให้มีการเจรจาและใช้วิธีทางการทูตเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ผ่านมา 12 เดือนแล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กลุ่มประเทศตะวันตกได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงอาวุธ เพื่อเป็นการตอบโต้การรุกรานยูเครน ที่ซึ่งรัสเซียเรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” นายดมิทรี ชูกาเยฟ หัวหน้าสำนักงานว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร-เทคนิคแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย กล่าวว่า อินเดีย, จีน และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศ ยังคงมีความสนใจในการซื้ออาวุธรัสเซีย “แม้ว่าอินเดียจะถูกกดดันอย่างชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อนจากกลุ่มประเทศตะวันตกนำโดยสหรัฐ เนื่องจากการมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน แต่อินเดียก็ยังคงเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักของรัสเซียในด้านความร่วมมือทางทหาร-เทคนิค” นายชูกาเยฟ กล่าว นายชูกาเยฟกล่าวอีกว่า กลุ่มประเทศในเอเชียที่เป็นลูกค้าอาวุธรัสเซียให้ความสนใจเป็นพิเศษในระบบต่อต้านขีปนาวุธ S-400 Triumf รวมทั้งระบบขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานพิสัยใกล้อย่าง Osa, Pechora หรือ Strela […]
อ่านเพิ่มเติม »
PPS ปี 66 วางเป้าโต 10% ชูกลยุทธ์ Digital Disruption พร้อมปรับแผนลุยขายวิลลาหรู : อินโฟเควสท์นายพงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส (PPS) เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจปี 66 ว่าบริษัทตั้งเป้าหมายผลประกอบการเติบโต 10% โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์พัฒนาระบบสารสนเทศเพิ่มประสิทธิภาพงานก่อสร้าง ขานรับภาวะโลกร้อนสร้างการเติบโตยั่งยืน บริษัทมีแผนการดำเนินงาน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 1. พัฒนาการบริหารงานก่อสร้าง โดยบริษัทมีแผนนำเทคโนโลยีเข้าไปในขั้นตอนการปฏิบัติงานเพื่อให้เป็นระบบ และมีความชัดเจนในกระบวนการทำงานมากขึ้น รวมถึงการอบรมระบบมาตรฐานใหม่ ให้พนักงานมีความเข้าใจ ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. การพัฒนาระบบสารสนเทศ เพิ่มประสิทธิภาพและต่อยอดในงานก่อสร้างของบริษัท รวมถึงวางแผนจำหน่ายและให้บริการด้านซอล์ฟแวร์ ภายใต้ชื่อ KANNA เป็นโปรแกรมชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นสำหรับงานบริหาร และควบคุมโครงการให้แก่ลูกค้าบริษัทอื่นเพื่อสร้างฐานรายได้ประจำ อีกทั้งเตรียมขอมาตรฐานด้าน IT หรือ ISO 20000-1 ที่เป็นมาตรฐานสากลสำหรับบริหารจัดการบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 3. การพัฒนาอย่างยั่งยืนในงานก่อสร้าง วางแผนขอมาตรฐาน ISO 14001 สำหรับบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นองค์กรที่ตรวจวัด Carbon Credit Equivalent ได้ และได้รับการรับรองจากองค์กรบริหารก๊าซเรือนกระจก โดยปีนี้ภาครัฐประกาศให้มีการบังคับใช้นโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) คาดว่าจะมีบริษัทจำนวนมากที่มองหาที่ปรึกษาเกี่ยวกับลดคาร์บอน ซึ่ง […]
อ่านเพิ่มเติม »
'ตุ๊ก ดวงตา' อายุจะ 70 แต่ยังเฟี้ยว เล่นละครมากสุด 10 เรื่อง จำบทแม่น ขับรถเอง'ตุ๊ก ดวงตา' อายุจะ 70 ปี แต่ยังเฟี้ยว ปี 2565 เล่นละครมากสุดถึง 10 เรื่อง เยอะกว่านางเอกดังคนอื่นๆ พลังเยอะ เสียงดังฟังชัด จำบทแม่น ขับรถเอง
อ่านเพิ่มเติม »
เปิดใจ 'ฉลอง ภักดีวิจิตร' ผู้กำกับละครอายุมากที่สุดในโลกช่อง7HD ขอแสดงความยินดีกับ คุณฉลอง ภักดีวิจิตร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ล่าสุดได้รับการบันทึกลง GUINNESS WORLD RECORDS ว่าเป็นผู้กำกับ ผู้สร้างละครฝ่ายชายคนเดียวและคนแรกของโลก ที่อายุมากที่สุด นับจากวันที่จดสถิติ ด้วยอายุ 90 ปี 297 วัน โดยเป็นผู้กำกับสร้างงานละครกับทางช่อง 7HD มาแล้ว 25 ปี และได้รับความสำเร็จตลอดมาจนถึงปัจจุบันและยังคงสร้างต่อไป (ทั้งนี้ได้สร้างสรรค์ผลงานในวงการมานาน 75 ปี)
อ่านเพิ่มเติม »
เจ้าบ่าว 77 ปี ยกขบวนขันหมากแต่งเจ้าสาว 74 ปี เนื่องในวันแห่งความรักชื่นมื่น ขบวนขันหมากเจ้าบ่าววัย 77 ปี เข้าพิธีวิวาห์ครั้งแรกกับเจ้าสาว วัย 74 ปี หลังอยู่กินกันมากว่า 50 ปี มีลูก 4 คน เจ้าบ่าวเผย รักเดียวมาตั้งแต่สมัยหนุ่มสาว แต่ไม่มีโอกาสเข้าพิธีแต่งงาน วันนี้ทางอำเภอยิ้ม เมืองขอนแก่น จัดให้เข้าพิธีวิวาห์สมใจ
อ่านเพิ่มเติม »