ก.เกษตรฯ เปิดผลกระทบน้ำท่วมเสียหายกว่าพันลบ. เตรียมมาตรการช่วยเหลือหลังน้ำลด น้ำท่วม ช่วยเหลือเกษตรกร อินโฟเควสท์
นายประยูร อินสกุล รักษาการปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ว่า ได้เตรียมเสนอโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติจากสถานการณ์ฝนตกชุกสะสม และพายุดีเปรสชันโนรู ตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวมทั้งสิ้น 59 จังหวัด
ขณะนี้สถานการณ์ได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ 31 จังหวัด และยังประสบอุทกภัย 28 จังหวัด ส่งผลกระทบต่อผลผลิตและโอกาสในการสร้างรายได้ที่เกษตรกรควรจะได้รับ ทำให้กระแสเงินสดในมือของเกษตรกรลดลง ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ พร้อมทั้งเร่งปรับแผนการบริหารจัดการน้ำ และการบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และการเพาะปลูกตามแผนบริหารจัดการน้ำ โดยจากการสำรวจผลกระทบด้านการเกษตร มีดังนี้เกษตรกร 531,703 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 4,505,862 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 2,991,705 ไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,473,553...
กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยกรมชลประทาน ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 424 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 480 เครื่อง เครื่องจักรอื่นๆ 20 เครื่อง และกระสอบทราย 12,000 กระสอบ ส่วนกรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการอพยพสัตว์ 20,391 ตัว แจกจ่ายหญ้าพระราชทาน 338.26 ตัน อาหาร TMR 6.
ขณะเดียวกัน ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย และตรวจสอบข้อมูลหรือเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร รวมทั้งเตรียมเสนอโครงการหรือมาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน และได้เตรียมจัดพื้นที่ให้เกษตรกรได้นำสินค้าเกษตรมาขายที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ภายหลังสถานการณ์น้ำกลับสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ ได้เตรียมปรับแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ 10 ทุ่ง และเตรียมให้การสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ ให้สามารถทำการผลิตได้ตามแผนการบริหารจัดการน้ำฯ ซึ่งจะมีการบูรณาการร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ด้วย
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ก.ล.ต.พร้อมให้บริการอิเล็กทรอนิกส์อำนวยความสะดวกและลดภาระปชช.-ภาคธุรกิจ : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมให้บริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (SEC Digital Services) และเดินหน้าพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ ตามแผนการพัฒนาบริการดิจิทัล (SEC Digital Services Roadmap) สอดรับกับนโยบายรัฐบาลดิจิทัลและพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ตอบรับนโยบายรัฐบาลเพื่อมุ่งสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยจัดให้มีแผนการพัฒนาบริการดิจิทัล (SEC Digital Services Roadmap) ตั้งแต่ปี 2563 โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการให้บริการที่ตอบโจทย์ประชาชนและภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับ พ.ร.บ. การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้เปิดให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ไปแล้วหลายรายการ และจะเดินหน้าพัฒนาบริการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มความสะดวก ลดภาระและค่าใช้จ่ายในการจัดทำเอกสารและการเดินทางของประชาชนและภาคธุรกิจต่อไป ทั้งนี้ บริการอิเล็กทรอนิกส์ที่ ก.ล.ต. เปิดให้บริการไปแล้วนั้น ครอบคลุมการรับส่งและออกเอกสารเป็นอิเล็กทรอนิกส์ การเปิดเผยข้อมูล (SEC Open Data) การยกระดับบริการ เช่น บริการสืบค้นข้อมูลผู้ได้รับอนุญาตและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ (SEC Check …
อ่านเพิ่มเติม »
ก.ล.ต. ให้วันที่ 16-18 พ.ย.เป็นวันทำการตามปกติของบล.-ผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้วันพุธที่ 16 วันพฤหัสบดีที่ 17 และวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เป็นวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ เนื่องในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 และการประชุมที่เกี่ยวข้องนั้น สำนักงาน ก.ล.ต. ได้พิจารณาแล้ว เห็นควรกำหนดให้ช่วงวันดังกล่าวเป็นวันทำการตามปกติของบริษัทหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ผู้ประกอบธุรกิจ) เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจถือเป็นตัวกลางสำคัญในการให้บริการด้านการลงทุนแก่ภาคธุรกิจและประชาชน ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอความร่วมมือผู้ประกอบธุรกิจพิจารณาลักษณะงานที่สามารถปฏิบัติในรูปแบบออนไลน์ หรือ work from home ในช่วงวันดังกล่าว เพื่อบรรเทาปัญหาด้านการจราจร และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของผู้เข้าร่วมประชุม โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ต.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
แบงก์จีนลั่นส่งเสริมเศรษฐกิจ หลังสีจิ้นผิงประกาศพัฒนาเศรษฐกิจโดยมุ่งเน้นคุณภาพ : อินโฟเควสท์ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุด 6 แห่งของรัฐบาลจีนประกาศว่าจะยกระดับการสนับสนุนเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว ตามข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการพัฒนาเศรษฐกิจโดยมุ่งเน้นไปยังคุณภาพเป็นหลักที่การเปิดประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของโลกเมื่อเทียบตามสินทรัพย์ เปิดเผยว่าธนาคารจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในกลุ่มธนาคารรายใหญ่ และจะเพิ่มการสนับสนุนด้านสินเชื่อเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจที่แท้จริง ขณะที่ ธนาคารอะกริคัลเจอรัล แบงก์ ออฟ ไชน่า รวมถึง แบงก์ ออฟ ไชน่า และโพสทอล เซฟวิงส์ แบงก์ ออฟ ไชน่าระบุว่า ทางธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้และจะเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งมีความจำเป็นต่อการทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพและมีคุณภาพสูง ส่วนธนาคารไชน่า คอนสตรักชัน คอร์ป และแบงก์ ออฟ คอมมิวนิเคชันส์ระบุว่า ธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและจะยกระดับการบริหารความเสี่ยงเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ดียิ่งขึ้น สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การให้คำมั่นในการสนับสนุนเศรษฐกิจของธนาคารเหล่านี้มีขึ้นหลังปธน.สีเปิดประชุมสมัชชาฯในกรุงปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ (16 ต.ค.) โดยเขาระบุว่าจีนจะมุ่งเน้นไปที่การเติบโตทางเศรษฐกิจคุณภาพสูง และจะสนับสนุนเศรษฐกิจเอกชนอย่างเต็มที่ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ต.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
CONSENSUS: โบรกฯเชียร์ 'ซื้อ' COM7 คาดกำไรสุทธิ Q3/65 สวยรับยอดขาย iPhone 14 หนุน : อินโฟเควสท์โบรกเกอร์ต่างแนะนำ “ซื้อ” หุ้นบมจ.คอมเซเว่น (COM7) คาดผลประกอบการในไตรมาส 3/65 ออกมาดีมาก โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1.7 พันล้านบาท (+200% YoY, +176% QoQ) จากกำไรพิเศษครั้งเดียวจำนวน 1 พันล้านบาทหลังหักภาษี สืบเนื่องจากการขายหุ้น 40% ใน Double 7 เพื่อแลกหุ้นกับ SABUY หากไม่รวมกำไรพิเศษ คาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 3/65 จะอยู่ที่ 678 ล้านบาท (+21% YoY, +9% QoQ) ได้แรงหนุนมาจากการเติบโตของยอดขาย นำโดยการเปิดตัว iPhone 14 คงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 3.0 พันล้านบาท (+13% YoY) และปี 2566 ที่ 3.6 พันล้านบาท (+19% YoY) จากรายได้ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นปี ละ +21%/+17% …
อ่านเพิ่มเติม »
III มั่นใจรายได้-กำไรปี 65 ทำนิวไฮจาก Q4 เข้าไฮซีซั่น-ศก.โลกฟื้นหนุนภาพขนส่งโต : อินโฟเควสท์นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III) เปิดเผยว่า คาดว่าทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/65 จะออกมาได้ค่อนข้างดีและน่าพอใจ โดยกำหนดประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 8 พ.ย. ก่อนที่จะประกาศผลประกอบการในวันที่ 9 พ.ย. ขณะที่ช่วงไตรมาส 4/65 อาจจะมีแรงกดดันจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วโลกส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกมีความผันผวน แต่อย่างไรก็ตามความต้องการการขนส่งยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศที่ได้รับปัจจัยหนุนหลักจากการกลับมาเดินทางมากขึ้นทั่วโลก ยังคงเป็นส่วนหนุนให้ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/65 สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับภาพรวมผลประกอบการทั้งปียังคงมั่นใจว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปี 64 ที่รายได้ 3,012.94 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 377.34 ล้านบาท โดยจะเห็นว่าภาพรวมผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการขนส่ง และ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกยังเป็นส่วนช่วยหนุน ให้ภาพรวมธุรกิจของบริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง นายทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทย่อย เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI) ผู้ดำเนินธุรกิจตัวแทนสายการบินระดับภูมิภาค ที่ III ถือหุ้นในสัดส่วน 50.35% การเข้าซื้อกิจการ Asia GSA …
อ่านเพิ่มเติม »
คลัง เผยโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 มียอดใช้จ่ายสะสมกว่า 3.4 หมื่นลบ. : อินโฟเควสท์นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 เป็นวันสุดท้ายของการใช้สิทธิครั้งแรกสำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนรอบสิทธิคงเหลือของโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ซึ่ง ณ สิ้นวันดังกล่าว มีประชาชนที่ลงทะเบียนรอบสิทธิคงเหลือ และใช้สิทธิครั้งแรกตามระยะเวลาที่กำหนดจำนวน 622,225 คน จากจำนวนประชาชนที่ลงทะเบียนรอบสิทธิคงเหลือสำเร็จทั้งสิ้น 822,188 คน ส่งผลให้ในภาพรวมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ได้รับสิทธิโครงการ และใช้จ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนดจำนวน 24.02 ล้านคน จากจำนวนสิทธิโครงการทั้งสิ้น 26.5 ล้านคน โดยในจำนวน 24.02 ล้านคน มีประชาชนที่ใช้สิทธิครบวงเงินโครงการ 800 บาทแล้ว จำนวน 8.75 ล้านคน หรือคิดเป็น 36% ของผู้ได้รับสิทธิโครงการและใช้จ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด สำหรับความคืบหน้าการใช้สิทธิมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5, โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ …
อ่านเพิ่มเติม »