ก.ล.ต.แจง 3 หลักการปรับปรุง พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล หวังก้าวทันตลาด-หนุนพัฒนาเทคโนโลยี : อินโฟเควสท์

ประเทศไทย ข่าว ข่าว

ก.ล.ต.แจง 3 หลักการปรับปรุง พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล หวังก้าวทันตลาด-หนุนพัฒนาเทคโนโลยี : อินโฟเควสท์
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด,ประเทศไทย หัวข้อข่าว
  • 📰 InfoQuestNews
  • ⏱ Reading Time:
  • 50 sec. here
  • 2 min. at publisher
  • 📊 Quality Score:
  • News: 23%
  • Publisher: 68%

ก.ล.ต.แจง 3 หลักการปรับปรุง พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล หวังก้าวทันตลาด-หนุนพัฒนาเทคโนโลยี สินทรัพย์ดิจิทัล อินโฟเควสท์

ฝ่ายกฎหมายผู้ประกอบธุรกิจ และฝ่ายนโยบายสินทรัพย์ดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเงิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เผยแพร่บทความ “ความท้าทายในการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลตาม พ.ร.ก. สินทรัพย์ฯ” โดยระบุว่า นับเป็นเวลากว่า 5 ปี ตั้งแต่พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.

เมื่อมองย้อนกลับมาที่กฎหมายฉบับนี้ของไทยและเปรียบเทียบกับพัฒนาการของโลกสินทรัพย์ดิจิทัลจึงเกิดคำถามว่า พ.ร.ก. สินทรัพย์ฯ ที่ออกแบบมาโดยใช้หลักการเดียวกับการกำกับดูแลธุรกรรมในตลาดทุน มีความครอบคลุมและเท่าทันพัฒนาการของโลกสินทรัพย์ดิจิทัลหรือยัง ? รวมทั้งสามารถให้ความคุ้มครองประชาชนอย่างเหมาะสมควบคู่ไปกับการเอื้ออำนวยให้เกิดการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาของประเทศหรือไม่ ?ปัจจุบัน พ.ร.ก.

เมื่อสินทรัพย์ดิจิทัลมีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น จะเห็นได้ว่า การกำหนดนิยามในลักษณะที่กว้างโดยครอบคลุมถึงหน่วยอิเล็กทรอนิกส์ใด ๆ และแบ่งประเภทตามลักษณะการใช้งานจึงทำให้มีสิ่งที่เข้ามาอยู่ภายใต้กำกับดูแลมากขึ้น เช่น การใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อประโยชน์ในการอุปโภคบริโภค รวมถึงการแปลงทรัพย์ในโลกจริงให้อยู่ในรูปโทเคน เป็นต้น ซึ่งลักษณะและความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัลกลุ่มนี้ไม่เหมือนผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน การกำกับดูแลในลักษณะเดียวกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนก็อาจไม่เหมาะสม...

1. ใช้หลักการ Same Risk, Same Rules ในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะและความเสี่ยงคล้ายกันภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกัน

เราได้สรุปข่าวนี้มาให้อ่านอย่างรวดเร็ว หากสนใจข่าว สามารถอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่ อ่านเพิ่มเติม:

InfoQuestNews /  🏆 7. in TH

ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว

Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้

ก.ล.ต. เปิดเฮียริ่งร่างประกาศห้ามให้บริการหรือสนับสนุน deposit taking & lending : อินโฟเควสท์ก.ล.ต. เปิดเฮียริ่งร่างประกาศห้ามให้บริการหรือสนับสนุน deposit taking & lending : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเกี่ยวกับการห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการหรือสนับสนุนการให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ฝากและการให้กู้ยืม (deposit taking & lending) เพื่อเพิ่มความคุ้มครองผู้ซื้อขายและประชาชนจากความเสี่ยงทางธุรกิจของผู้ให้บริการ และเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขตการกำกับดูแลของภาครัฐ ตามที่ ก.ล.ต. มีแนวคิดในการห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการหรือสนับสนุนการให้บริการ deposit taking & lending เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและประชาชนจากการหยุดให้บริการรวมถึงปัญหาทางการเงินของผู้ให้บริการในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งอาจเกิดขึ้นในลักษณะต่อเนื่องหรือพร้อม ๆ กันหลายแห่งเช่นเดียวกับที่ได้เกิดขึ้นกับผู้ให้บริการในต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา และเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขตการกำกับดูแลธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของภาครัฐ ก.ล.ต. จึงได้จัดทำร่างประกาศตามหลักการที่ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องไปเมื่อเดือนกันยายน – ตุลาคม 2565 ตามมติของคณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 12/2565 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 และขอรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศดังกล่าว ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้ (1) ห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล และนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่รับฝากไปให้กู้ยืมหรือลงทุน และจ่ายผลตอบแทนแก่ผู้ฝาก (2) ห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล โดยให้ผลตอบแทนจากการฝากสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นแก่ผู้ฝาก เว้นแต่มีลักษณะเป็นการส่งเสริมการขายตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด (3) ห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโฆษณาหรือชักชวนบุคคลทั่วไปหรือกระทำการอื่นใดที่มีลักษณะเป็นการสนับสนุนการให้บริการ deposit taking & lending ตามข้อ […]
อ่านเพิ่มเติม »

ไขข้อสงสัย ทำไม พ.ร.บ.อุ้มหาย ยังใช้ไม่ได้?ไขข้อสงสัย ทำไม พ.ร.บ.อุ้มหาย ยังใช้ไม่ได้?แม้ว่า “พ.ร.บ.อุ้มหาย” จะประกาศใช้แล้วก็ตาม แต่เนื่องจากความไม่พร้อมของหลายฝ่าย ทำให้มีการออก พ.ร.ก. เพื่อควบคุมและชะลอการใช้กฎหมายดังกล่าวไว้ก่อน ทำให้ต้องเลื่อนการบังคับใช้ไปถึง 8 เดือน อ่านต่อ: กรุงเทพธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
อ่านเพิ่มเติม »

พูดไม่ออก! ก.ล.ต.สหรัฐฯ น้ำท่วมปาก ขณะขึ้นศาลปะทะ Grayscaleพูดไม่ออก! ก.ล.ต.สหรัฐฯ น้ำท่วมปาก ขณะขึ้นศาลปะทะ Grayscaleสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -8 มี.ค. 66 16:49 น. มหากาพย์ 'ETF สปอตบิตคอยน์' ท้าชนปากเปล่านัดแรกในชั้นศาล ก.ล.ต. สหรัฐฯ กับ Grayscale แต่ผลออกมายังไงทำราคากองทร...
อ่านเพิ่มเติม »

ก.ล.ต.เปิดเฮียริ่ง ห้ามผู้ประกอบฯ ยุ่งกับเหรียญคริปโทที่ลูกค้าฝากไว้ก.ล.ต.เปิดเฮียริ่ง ห้ามผู้ประกอบฯ ยุ่งกับเหรียญคริปโทที่ลูกค้าฝากไว้สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -8 มี.ค. 66 17:21 น. ก.ล.ต.เปิดเฮียริ่ง ห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ยุ่งกับเหรียญที่ลูกค้าฝากไว้ ไม่ว่าจะเอาไปหาดอกผลข้างนอก...
อ่านเพิ่มเติม »

ยอดใช้จ่ายครัวเรือน ก.พ. หมื่นแปด หมดไปกับค่ามือถือ-เดินทางยอดใช้จ่ายครัวเรือน ก.พ. หมื่นแปด หมดไปกับค่ามือถือ-เดินทางยอดใช้จ่ายครัวเรือน ก.พ. เงินหมื่นแปด หมดไปกับค่ามือถือ-เดินทาง ยอดใช้จ่ายครัวเรือน ก.พ. เงินหมื่นแปด หมดไปกับค่ามือถือ-เดินทาง
อ่านเพิ่มเติม »

จีนส่งออก-นำเข้าลดลงในเดือนม.ค.-ก.พ. เหตุศก.โลกซบ-ดีมานด์ชะลอตัว : อินโฟเควสท์จีนส่งออก-นำเข้าลดลงในเดือนม.ค.-ก.พ. เหตุศก.โลกซบ-ดีมานด์ชะลอตัว : อินโฟเควสท์สำนักงานศุลกากรจีนรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ปรับตัวลง 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าอาจลดลง 9.4% ขณะที่ยอดนำเข้าในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ร่วงลง 10.2% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 5.5% ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.1688 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.097 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 8.18 หมื่นล้านดอลลาร์ รายงานยังระบุด้วยว่า จีนมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐสูงถึง 4.129 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. ยอดส่งออกและนำเข้าที่ลดลงมากกว่าคาดในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.นั้น สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง ส่วนตลอดปี 2565 นั้น จีนมียอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้น 31% แตะที่ 8.7691 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2493 โดยมียอดส่งออกเพิ่มขึ้น 7% ขณะที่ยอดนำเข้าขยับขึ้นเพียง 1% เท่านั้น โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »



Render Time: 2025-03-20 22:29:46