ก.ล.ต.แบนผู้แนะนำการลงทุน “กรุงไทย” ลอบขายหน่วยลงทุนลูกค้า สูญ 3.5 ล้านบาท PPTVHD36 ช่อง36 ผู้แนะนำการลงทุน กลต. เพิกถอน ทุจริต ขายหน่วยลงทุนลูกค้า ถอนเงิน ปลอมลายเซ็น
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ระบุว่า ได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทยและตรวจสอบพบว่า ระหว่างปี 2557 – 2564 นางสาวนฤอร โชคสิริรุ่งเรือง กระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน โดยลักลอบขายหน่วยลงทุนของลูกค้าอย่างต่อเนื่องจำนวนหลายรายการ ผ่านการใช้รหัสของพนักงานรายอื่นในการอนุมัติขายหน่วยลงทุนและถอนเงินค่าขายหน่วยลงทุน รวมถึงปลอมลายมือชื่อลูกค้าในใบคำสั่งขายและใบถอนเงินค่าขายหน่วยลงทุน ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหายรวม 3,506,112.
โดยก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนางสาวนฤอรเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนางสาวนฤอรเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดระยะเวลาข้างต้น ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายงานการถือหน่วยลงทุน ตรวจสอบบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ หากพบการซื้อขายหรือการถอนเงินที่ตนเองไม่ได้เป็นผู้สั่งควรปฏิเสธหรือทักท้วงโดยทันทีเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และหากมีข้อสงสัยควรติดต่อบริษัทผู้ให้บริการ หรือสอบถามได้ที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือเฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนผู้แนะนำการลงทุนแอบขายหน่วยลงทุนยักยอกทรัพย์สินลูกค้า : อินโฟเควสท์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุน รายนางสาวนฤอร โชคสิริรุ่งเรือง เป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน กรณีกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน ขณะกระทำผิดสังกัดธนาคารกรุงไทย (KTB) ก.ล.ต. ได้รับรายงานจากธนาคารกรุงไทยและตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างปี 2557-2564 นางสาวนฤอรกระทำมิชอบต่อทรัพย์สินของผู้ลงทุน โดยลักลอบขายหน่วยลงทุนของลูกค้าอย่างต่อเนื่องจำนวนหลายรายการ ด้วยการลักลอบใช้รหัสของพนักงานรายอื่นในการอนุมัติขายหน่วยลงทุนและถอนเงินค่าขายหน่วยลงทุน รวมถึงปลอมลายมือชื่อลูกค้าในใบคำสั่งขายและใบถอนเงินค่าขายหน่วยลงทุน ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 3,506,112.49 บาท ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนางสาวนฤอรเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2 และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนางสาวนฤอรเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดระยะเวลาข้างต้น ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายงานการถือหน่วยลงทุน […]
อ่านเพิ่มเติม »
ก.ล.ต.เพิกถอนผู้แนะนำการลงทุน ลักลอบขายหน่วยลงทุนลูกค้าเสียหายกว่า 3.5 ลบ.สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -21 มี.ค. 66 17:00 น. ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุน รายนางสาวนฤอร โชคสิริรุ่งเรือง (นางสาวนฤอร) เป็นเวลา 6 ปี...
อ่านเพิ่มเติม »
FETCO ผนึกพันธมิตรปลดล็อคกฎเกณฑ์ ลดต้นทุน หนุนขีดแข่งขัน สร้างนวัตกรรมตลาดทุนไทย7 องค์กรสมาชิกสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดตัว “โครงการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในตลาดทุนไทย” โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) มุ่งผนึกกำลังทำงานเชิงรุกปรับลดกฎเกณฑ์ที่จะช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบธุรกิจและนักลงทุน ปลดล็อคให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆในตลาดทุน เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้ตลาดทุนไทย เมื่อวันที่ 21 มี.ค.66 สภาธุรกิจตลาดทุนไทยในฐานะผู้แทนองค์กรเอกชนภาคตลาดทุน ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการก
อ่านเพิ่มเติม »
'สินทรัพย์ดิจิทัล'เทรนด์โลก ก.ล.ต.ชี้รายใหม่ยื่นขอไลเซ่นส์คึกธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลยังเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการ สะท้อนจากผู้ประกอบการที่เข้ามายืื่นขอใบอนุญาต(ไลเซ่นส์)ประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ,นายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker)ฯลฯ
อ่านเพิ่มเติม »
FETCO ผนึกพันธมิตรรื้อ กม.อุปสรรคตลาดทุนไทย ปลดล็อก ลดต้นทุน หนุนแข่งขัน สร้างนวัตกรรม : อินโฟเควสท์7 องค์กรสมาชิกสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดตัว “โครงการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจและการลงทุนในตลาดทุนไทย” โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) มุ่งผนึกกำลังทำงานเชิงรุกปรับลดกฎเกณฑ์ที่จะช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบธุรกิจและนักลงทุน ปลดล็อกให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในตลาดทุน เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้ตลาดทุนไทย โครงการดังกล่าวจะดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านต้นทุนของกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขออนุญาต (Licenses) และการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการในตลาดทุน ภายใต้การสนับสนุนจาก กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) โดยจัดตั้งคณะทำงานพิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจในตลาดทุนไทย เพื่อทำงานเชิงรุก ประสานพลังร่วมกับหน่วยงานราชการ เอกชน ผลักดันให้เกิดการทบทวนกฎหมายและกฎระเบียบ ลดขั้นตอนที่ล้าสมัย ไม่จำเป็นหรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจและการลงทุน (Regulatory Guillotines) เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ ลดต้นทุนให้ผู้ประกอบธุรกิจและนักลงทุน ลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรมและนำมาสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ FETCO กล่าวว่า การดำเนินงานเพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมายต่าง ๆ ล้วนมีค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนแฝงของผู้ประกอบธุรกิจ กฎระเบียบและกฎหมายที่ไม่จำเป็นหรือล้าสมัยย่อมส่งผลกระทบไปถึงการประกอบธุรกิจและการทำธุรกรรมในตลาดทุนของนักลงทุน นอกจากนี้ยังเป็นอุปสรรคต่อการสร้างนวัตกรรมและความสามารถในการแข่งขัน ทั้งทางด้านเศรษฐศาสตร์และตลาดทุนโดยรวม FETCO ในฐานะผู้แทนองค์กรเอกชนภาคตลาดทุน ขอขอบคุณสำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและเอกชนที่ให้เกียรติร่วมโครงการฯ ผมเชื่อว่าพลังความร่วมมือครั้งนี้ […]
อ่านเพิ่มเติม »