การจราจรทางอากาศรอบไต้หวันกลับสู่ภาวะปกติแม้จีนประกาศซ้อมรบครั้งใหม่ จราจรทางอากาศ จีน ซ้อมรบ สหรัฐ สายการบิน เที่ยวบิน ไต้หวัน อินโฟเควสท์
กระทรวงคมนาคมและการสื่อสารของไต้หวันเปิดเผยในวันนี้ว่า การจราจรทางอากาศรอบไต้หวันค่อย ๆ กลับสู่ภาวะปกติหลังจากเปิดน่านฟ้ารอบไต้หวันอีกครั้ง แม้จีนจะประกาศซ้อมรบครั้งใหม่ในบริเวณดังกล่าวก็ตาม
กระทรวงคมนาคมฯ ไต้หวันระบุว่า เที่ยวบินส่วนใหญ่ทั้งขาเข้าและออกจากไต้หวันยังคงให้บริการตามปกติในระหว่างการซ้อมรบของจีนที่เริ่มขึ้นในวันที่ 4 ส.ค. โดยเฉลี่ยแล้วมีเที่ยวบินขาเข้าและออกประมาณ 150 เที่ยวต่อวัน
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
อิตาลีพบผู้ติดเชื้อไวรัส 'เวสต์ไนล์' ที่มียุงเป็นพาหะเพิ่มขึ้น ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน : อินโฟเควสท์สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) สถาบันสุขภาพแห่งชาติอิตาลี (ISS) รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ (West Nile virus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่มียุงเป็นพาหะ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเมื่อสัปดาห์ก่อน และมียอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 7 ราย เมื่อนับถึงวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ของอิตาลีสะสมอยู่ที่ 94 ราย นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 42 ราย โดยจากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด พบว่ามี 55 ราย หรือมากกว่าครึ่งหนึ่ง ติดเชื้อไวรัสชนิดทำลายประสาทที่มีอันตรายมากกว่า จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเวสต์ไนล์ในอิตาลี มี 5 รายอยู่ในแคว้นเวเนโตทางตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่เหลืออยู่ในแคว้นปิเอมอนเตและแคว้นเอมีเลีย-โรมัญญาแห่งละ 1 ราย ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสชนิดนี้แต่กำลังมีการวิจัยอยู่ โดยสถาบันฯ แนะนำผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับยุงโดยใช้ยาไล่แมลงหรือสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวหนัง และกำจัดหรือหลีกเลี่ยงบริเวณที่ยุงสามารถแพร่พันธุ์ได้ง่าย เช่น จุดที่มีน้ำขังสะสม ทั้งนี้ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่าอาการของไข้เวสต์ไนล์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสชื่อเดียวกัน อาจประกอบด้วยอาการปวดศีรษะ มีไข้สูง …
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลยันอนุญาตนำเข้ากุ้งทะเลไม่กระทบราคาในประเทศ ตั้งเป้าผลิต 4 แสนตันในปี 66 : อินโฟเควสท์น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญหรือครัวของโลก โดยยึดหลักอาหารปลอดภัย (Safety) ความมั่นคงทางอาหาร (Security) และความยั่งยืนยัน (Sustainability) ซึ่งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความมั่นคงอาหาร โดยให้ความสำคัญกับการจัดการระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกันทั้งระบบ (BIG DATA) เพื่อคาดการณ์ปริมาณการผลิตสินค้าเกษตรแบบรายชนิดสินค้า และวางแผนรับมือสถานการณ์ความเสี่ยงต่างๆ ในส่วนของผลผลิตกุ้งทะเลที่ผ่านมาประเทศไทยมีการผลิตเป็นอันดับ 5 ของโลก แต่จากการระบาดของโรคตายด่วนในปี 2564 ทำให้ผลผลิตลดลงอย่างมากเหลือเพียง 2.54 แสนตัน จากเฉลี่ย 3 ปีก่อนหน้าอยู่ที่ 2.8 แสนตัน รมว.เกษตรฯ จึงได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศในพื้นที่ 35 จังหวัด โดยตั้งเป้าปี 2566 ไว้ที่ 4 แสนตัน ทั้งนี้ กรมประมงได้ดำเนินงานร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการจัดการข้อมูลเพื่อการบริหารแบบรอบด้าน ครอบคลุมการกำหนดแผนเชิงรุก นโยบายการช่วยเหลือเกษตรกรกรณีความเสี่ยงต่างๆ การศึกษาวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหาโรคระบาดกุ้ง การปรับปรุงพันธุ์กุ้งทะเล การส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเพื่อการผลิตกุ้งทะเล การฟื้นฟูพื้นที่การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลเสื่อมโทรมร่วมกับการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม การจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับเกษตรกร การส่งเสริมและหาช่องทางการตลาดเพิ่มเติมเพื่อรองรับผลผลิตกุ้งทะเลที่เพิ่มขึ้น สำหรับการอนุญาตให้ผู้ประกอบการห้องเย็นและโรงงานแปรรูปสามารถนำเข้ากุ้งทะเลจากเอกวาดอร์และอินเดียนั้น ทางกรมประมงยืนยันว่าไม่กระทบต่อราคากุ้งในประเทศอย่างแน่นอน เพราะเป็นการอนุญาตให้เฉพาะช่วงเวลาที่ผลผลิตภายในประเทศมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอการแปรูปเท่านั้น …
อ่านเพิ่มเติม »
กรมอุตุฯเตือนภัย 7-9 ส.ค.ทั่วประเทศมีฝนตกหนักถึงหนักมาก/ทะเลคลื่นลมแรง : อินโฟเควสท์กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยจากฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน โดยจะมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7-9 ส.ค.65 เนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 7 ส.ค.65 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด …
อ่านเพิ่มเติม »
นายกฯ เตรียมประชุมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำเอเปควันพรุ่งนี้ : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (8 ส.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี พ.ศ.2565 ครั้งที่ 2/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อติดตามการเตรียมการของคณะอนุกรรมการแต่ละชุดเพื่อรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.65 ที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงแผนงานการประชุมที่เกี่ยวข้องที่จะเกิดขึ้นก่อนการประชุมระดับผู้นำ พร้อมกันนี้ หน่วยงานต่างๆ ซึ่งดำเนินการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคไปในช่วงที่ผ่านมาจะได้รายงานผลการประชุมพร้อมประเด็นที่จะนำเสนอสู่ที่ประชุมผู้นำในช่วงเดือน พ.ย.65 โดยในเดือน ส.ค. นี้ ประเทศไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมที่เกี่ยวข้องสำคัญ 2 การประชุม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่จากทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจเข้าร่วมในแต่ละการประชุมหลายร้อยคน ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปคและการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 14-20 ส.ค.65 ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานเจ้าภาพ และการประชุมระดับสูงว่าด้วยสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ 22-26 ส.ค.65 ที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานเจ้าภาพ โดยทั้ง 2 การประชุมจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี พ.ศ.2565 …
อ่านเพิ่มเติม »
สปส.เตรียมคืนเงินลดอัตราสมทบมาตรา 40 ให้ผู้ที่จ่ายเต็ม 8 ส.ค.นี้ : อินโฟเควสท์น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เตรียมคืนเงินกรณีลดอัตราเงินสมทบสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ชำระเงินสมทบเต็มจำนวน งวดเดือน ส.ค.64-ม.ค.65 และงวดเดือน ก.พ.-ก.ค.65 โดยผู้ประกันตนจะได้รับเงินคืนในส่วนที่ชำระเกินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน โดยมีกำหนดวันโอนดังนี้ ผู้ที่ผูกบัญชีก่อนวันที่ 1 ส.ค.65 จะได้รับการคืนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ ระหว่างวันที่ 8-11 ส.ค.65 ผู้ที่ผูกบัญชีก่อน 8 ก.ย.65 จะได้รับการคืนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ ระหว่างวันที่ 14-16 ก.ย.65 สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่ยังไม่มีบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ม (สปส.1-40/7) ได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือขอรับได้ที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ การคืนเงินกรณีลดอัตราเงินสมทบดังกล่าวสืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกันตน ซึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้เหลือร้อยละ 60 ของเงินสมทบ (เดิม) เป็นระยะเวลา 6 เดือน ส.ค.64-ม.ค.65 และต่อเนื่องอีก …
อ่านเพิ่มเติม »
รัฐบาลยันมีปริมาณยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 สำรองไว้ใช้เพียงพอมากกว่า 14 วัน : อินโฟเควสท์นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมด้านยาเพื่อรองรับการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างเพียงพอ โดยมีการจัดหายารักษาโควิด-19 จำนวน 4 รายการ ได้แก่ 1) ฟาวิพิราเวียร์ 2) โมลนูพิราเวียร์ 3) เรมเดซิเวียร์ และ 4) แพกซ์โลวิด ซึ่งเป็นยาที่ได้ขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และผ่านการคัดเลือกและรับรองคุณภาพจากต่างประเทศซึ่งนำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ค.65 กระทรวงสาธารณสุขได้สนับสนุนยาให้แก่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วประเทศ แบ่งเป็น ยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 265.5 ล้านเม็ด ยาโมลนูพิราเวียร์ จำนวน 12 ล้านเม็ด และยาเรมเดซิเวียร์ จำนวน 375,210 ขวด ซึ่งยาแต่ละรายการมีข้อบ่งชี้ในการใช้แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสทุกราย แม้จะเป็นกลุ่ม 608 ก็ตาม โดยการจ่ายยาต้านไวรัส ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ที่จะพิจารณาจ่ายยาตามอาการ ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 3 ส.ค.65 มีรายงานยาคงคลังในพื้นที่ ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์และโมลนูพิราเวียร์ …
อ่านเพิ่มเติม »