กัมพูชาทุ่ม 7 ล้านดอลล์ จ่ายค่าอาหาร-ที่พัก ให้นักกีฬา-โค้ชต่างชาติซีเกมส์ กัมพูชา ซีเกมส์ นักกีฬา ฮุนเซน อินโฟเควสท์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยว่า กัมพูชาวางแผนใช้จ่ายเงิน 7 ล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นค่าอาหารและค่าที่พักสำหรับทีมนักกีฬาและผู้ฝึกสอนต่างชาติทั้งหมดในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32
รายงานระบุว่า กัมพูชาได้ประกาศยกเว้นการเก็บเงินค่าอาหารและค่าที่พัก 50 ดอลลาร์ต่อคนต่อวันจากนักกีฬาและผู้ฝึกสอนต่างชาติ รวมถึงจะมอบบัตรเข้าชมโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่ผู้เข้าชมทุกคน และสิทธิการถ่ายทอดสดโดยไม่คิดค่าใช้สำหรับเครือข่ายโทรทัศน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สมเด็จฮุนเซนแถลงว่า การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในกัมพูชาไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายกับนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และผู้เข้าชมทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาวกัมพูชาหรือชาวต่างชาติ โดยแม้กัมพูชาเป็นประเทศขนาดเล็กและยากจน ทว่าเป็นประเทศที่ใจกว้าง
ทั้งนี้ กัมพูชาเตรียมเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งแรกในรอบ 64 ปี ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค. โดยคาดว่าจะมีทีมนักกีฬาและผู้ฝึกสอนจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าวมากกว่า 11,000 คน ด้านคณะกรรมการจัดการแข่งขันซีเกมส์ของกัมพูชา ระบุว่าจะมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬา 37 ชนิด รวม 581 รายการ
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ชาวอิสราเอลนับหมื่นประท้วงรัฐบาลครั้งใหญ่ เหตุคัดค้านแผนปฏิรูปศาล : อินโฟเควสท์สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชาวอิสราเอลนับหมื่นคนออกมาชุมนุมบนท้องถนนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 เม.ย.) เพื่อต่อต้านแผนปฏิรูประบบตุลาการของนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ก่อนวันครบรอบ 75 ปีการประกาศเอกราชของประเทศ รายงานระบุว่า แผนปฏิรูปศาลถูกระงับชั่วคราวเมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังเกิดการนัดหยุดงานและการประท้วงจำนวนมาก โดยการประท้วงระลอกล่าสุดมีขึ้นเนื่องจากอิสราเอลใกล้ถึงวันประกาศอิสรภาพและงานวันรำลึกแห่งชาติ ซึ่งเป็นการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามอิสราเอลและจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย แผนดังกล่าวเสนอให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจในการแต่งตั้งผู้พิพากษาศาลฎีกา และอนุญาตให้รัฐบาลสามารถลบล้างคำตัดสินของศาลด้วยเสียงข้างมากในรัฐสภา ส่งผลให้เกิดการแตกแยกครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล ขณะที่รัฐบาลกล่าวว่า จำเป็นต้องยกเครื่องระบบตุลาการเพื่อสร้างสมดุลระหว่างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกับฝ่ายตุลาการ แต่ฝ่ายค้านมองว่าเป็นการบ่อนทำลายการถ่วงดุลอำนาจและเป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตยของอิสราเอล ทั้งนี้ ผลการสำรวจที่เผยแพร่โดยสถานีโทรทัศน์ของอิสราเอลเมื่อวันศุกร์ (21 เม.ย.) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจต่อแผนปฏิรูปศาล โดย 53% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า แผนดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อประเทศ ขณะที่ 60% ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นตัวแทนของพวกเขา และ 48% เชื่อว่าสถานการณ์ในประเทศจะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
'อนุสรณ์' ชู 13 ข้อเสนอให้รัฐบาลใหม่แก้ปัญหากิจการไฟฟ้าและพลังงานทั้งระบบ : อินโฟเควสท์นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางการแก้ปัญหาค่าไฟฟ้าราคาแพงด้วยการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระ หรือสร้างภาระงบประมาณเพิ่มนั้น เป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น และไม่ได้แก้ปัญหาความไม่เป็นธรรม แต่สร้างความไม่เป็นธรรมเพิ่มเติมต่อประชาชนผู้เสียภาษีในอนาคต เกิดความไม่โปร่งใสในการจัดการกิจการไฟฟ้าทั้งระบบ จากการกำหนดนโยบายที่มีลักษณะเป็นการแสวงหาค่าเช่าทางเศรษฐกิจ จากความร่วมมือของผู้มีอำนาจรัฐ กับกลุ่มทุนกิจการไฟฟ้ารายใหญ่ บนภาระของประชาชนและภาคธุรกิจอุตสาหกรรม ไทยจึงเป็นประเทศที่มีค่าไฟฟ้าแพงที่สุดในอาเซียน ประชาชน และภาคการผลิต ภาคบริการทั้งระบบ ประสบปัญหาค่าไฟแพง ซึ่งเกิดจากการวางแผนที่ไม่ตระหนักว่าประชาชน และภาคธุรกิจจะได้รับผลกระทบ “คาดว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะพิจารณาค่าไฟฟ้างวดใหม่ พ.ค.-ส.ค. อีกครั้ง และลดค่าไฟฟ้าลงมาเพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แต่เป็นการผลักภาระให้ กฟผ. ซึ่งในที่สุดหนีไม่พ้นเอาเงินสาธารณะมาชดเชย แทนที่จะใช้วิธีแก้ไขสัมปทานการผลิตไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรม และเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนกิจการไฟฟ้าขนาดใหญ่มากเกินไป” นายอนุสรณ์ ระบุ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า หากสามารถแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นในกิจการไฟฟ้าได้ ค่าไฟฟ้าควรลดลงมาอยู่ในระดับ 2.5-3.5 บาทต่อหน่วยกิโลวัตต์ชั่วโมงในระยะยาว เฉพาะหน้าระยะสั้นต้องกดต้นทุนค่าไฟฟ้าไม่ให้สูงกว่า 4 บาทต่อหน่วย ไม่ใช่ค่าไฟฟ้าแพงมากเช่นในปัจจุบัน เพราะจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเข้มข้น จะทำให้ผู้ผลิตในไทยมีความสามารถในแข่งขันด้อยลง ขณะที่ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าแพงขึ้น ทั้งนี้ หากเทียบกับประเทศอาเซียนที่มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน ไทยมีค่าไฟฟ้าที่แพงกว่ามาก โดยราคาค่าไฟฟ้าในอินโดนีเซียอยู่ที่ […]
อ่านเพิ่มเติม »
เลือกตั้ง'66: ขุนพลเพื่อไทยย้ำจุดยืน ขอเป็นรัฐบาลพรรคเดียว : อินโฟเควสท์พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย โดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า ปัญหาสำคัญของ จ.ปทุมธานี ในเรื่องหนี้สินจากการทำการเกษตรนั้น พรรคเพื่อไทยมีนโยบายพักหนี้ ทั้งต้นทั้งดอก 3 ปี รัฐบาลที่ผ่านมา ขาดการเอาใจใส่ดูแล ไม่จัดการทุนใหญ่ที่ทำมาหากินบนความยากลำบากประชาชน นายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย จะนำสินค้าจากเกษตรกรไปขายในประเทศต่างๆ ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปี นอกจากนี้ คนไทยที่อายุ 16 ปี ขึ้นไปจะได้เงิน 10,000 บาท จากนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล คนที่ไม่อยากเกณฑ์ทหาร จะเสนอนโยบายเกณฑ์ทหารด้วยความสมัครใจ ไม่ให้เสียโอกาสในการทำมาหากิน ขณะที่ปัญหายาเสพติด พรรคเพื่อไทยสนับสนุนแค่กัญชาเพื่อการแพทย์ หากเป็นรัฐบาล ปัญหายาเสพติดจะถูกบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เพียงการเลือกพรรค แต่เป็นการเลือกอนาคตและสิ่งที่ดีกว่าให้ตัวเอง วางรากฐานให้ลูกหลาน หากปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ บ้านเมืองจะไม่ดีกว่าเดิม ส่วนการจับขั้วการเมืองพรรคนั้น เพื่อไทยประกาศชัดมาตลอดคือ […]
อ่านเพิ่มเติม »
ผู้เชี่ยวชาญเผยเอเชียเผชิญคลื่นความร้อนรุนแรงถึงตาย จ.ตากทำสถิติร้อนสุดในไทย : อินโฟเควสท์เว็บไซต์ข่าวยูเอสเอ ทูเดย์รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแม็กซิมิเลียโน เฮอร์เรรา ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศและสภาพอากาศซึ่งระบุว่า ประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์และเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยในหลายพื้นที่ทำสถิติอุณหภูมิสูงสุดครั้งใหม่ในเดือนเม.ย. ซึ่งรวมถึงจังหวัดตากของไทยที่มีอุณหภูมิสูงถึง 113.7 องศาฟาเรนไฮต์ (45.38 องศาเซลเซียส) และกลายเป็นจังหวัดที่ร้อนที่สุดของไทย นอกจากนี้ ประเทศลาวยังมีอุณหภูมิที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่หลวงพระบางมีอุณหภูมิสูงถึง 108.9 องศาฟาเรนไฮต์ (42.72 องศาเซลเซียส) ทั้งนี้ การที่คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมไปทั่วเอเชีย ตั้งแต่อินเดียไปจนถึงจีน, ไทย และญี่ปุ่นนั้น ทำให้เฮอร์เรราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ปีศาจคลื่นความร้อนเอเชีย (Monster Asian Heat Wave)” ซึ่งเป็นคลื่นความร้อนรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำนักข่าว CNN รายงานว่า คลื่นความร้อนได้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคลมแดด (ฮีทสโตรก) ในอินเดียจำนวน 13 ราย และมีประชาชนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจำนวน 50-60 รายหลังจากประชาชนเหล่านี้เข้าร่วมพิธีศพในเมืองนาวิมุมไบ ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของรัฐมหาราษฏระ (Maharashtra) ทางด้านเว็บไซต์ข่าวแอกซิออส (Axios) รายงานว่า พิธีศพดังกล่าวจัดขึ้นนอกตัวอาคาร และมีประชาชนหลายหมื่นคนเข้าร่วมพิธีอย่างแออัด ขณะที่วิทยาลัยทุกแห่งในรัฐเบงกอลตะวันตกยังถูกสั่งปิดการเรียนการสอน เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด นอกจากนี้ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศจีนยังเผชิญกับอุณหภูมิสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย. โดยจิม หยาง […]
อ่านเพิ่มเติม »
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดไร้ทิศทาง นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจ : อินโฟเควสท์ตลาดหุ้นเอเชียเปิดไร้ทิศทางในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอคอยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในภูมิภาคเอเชียที่จะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 28,631.78 จุด เพิ่มขึ้น 67.41 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,049.87 จุด ลดลง 25.86 จุด หรือ -0.12% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,300.81 จุด ลดลง 0.45 จุด หรือ -0.01% นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเป็นการประชุมในฐานะผู้ว่าการ BOJ ครั้งแรกของนายคาซูโอะ อุเอดะ ตลาดหุ้นบางแห่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปิดทำการในวันนี้ (24 เม.ย.) เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ขณะที่สิงคโปร์จะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสำหรับเดือนเม.ย.ในวันนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน โดยแม้ว่าทางการจีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 4.5% ในไตรมาส […]
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์คล้ายภูมิภาค ไร้ปัจจัยหนุน-รอดู GDP สหรัฐฯ-ยุโรป : อินโฟเควสท์นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แก่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง สอดคล้องตลาดหุ้นในภูมิภาค เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุน โดยนักลงทุนรอดูตัวเลข GDP สหรัฐและยุโรป รวมถึงตัวเลข PCE สหรัฐในปลายสัปดาห์ ส่วนบ้านเรายังรอดูผลงานไตรมาส 1/66 อย่างต่อเนื่อง และตัวเลขส่งออกสัปดาห์นี้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,570 จุด นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาสนับสนุน ขณะที่นักลงทุนยังรอดูการเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาสแรกของฝั่งสหรัฐและยุโรป รวมถึงตัวเลข PCE สหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ส่วนบ้านเรายังคงติดตามการทยอยประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขส่งออกของไทยในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ให้แนวรับไว้ที่ 1,550 จุด และแนวต้าน 1,570 จุด โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »