ปัจจุบันประเทศไทยมีสถิติการเพิ่มขึ้นของโรคเรื้อรัง ทั้งความดัน เบาหวาน ไขมัน ทำให้ค่ายาของโรคในกลุ่มนี้และโรคแทรกซ้อนเพิ่มสูงมากขึ้นทุกปีอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รวมถึงโรคมะเร็งเป็นอีกโรคที่ค่ายาแพงเป็นอย่างมาก ประเทศไทยต้องจ่ายค่ายาเหล่านี้ให้กับต่างประเทศปีละหลายหมื่นล้านบาท
หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้ประเทศไทยไม่มีเงินนำไปใช้ในการพัฒนาด้านอื่นๆ ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการศึกษาที่จำเป็น เพื่อยุติวงจรความยากจนและความเหลื่อมล้ำให้หมดไปจากสังคมไทย ได้นำไปสู่การร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรในพระอุปถัมภ์ฯ และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในด้านงานวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพร ให้เป็นอีกทางเลือก เพื่อทดแทนการนำเข้ายาราคาแพง เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและมีราคาที่ประชาชนเข้าถึงได้“ดร.ภญ.
“เราต้องคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อทดแทนการนำเข้ายา เพิ่มความสามารถในการแข่งขันและมีราคาที่ประชาชนเข้าถึงได้ เป็นความหวังจะยุติวงจรความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำงานร่วมกันในช่วงการระบาดของโควิด จนสามารถค้นพบศักยภาพของสมุนไพรไทยที่มีแนวโน้มจะต่อยอดเป็นยาในกลุ่มนี้ได้ เช่น กระชาย ฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรหลัก จะนำมาพัฒนาต่อร่วมกันในระยะแรกนี้”ขณะที่ รศ.ดร.ภก.
จากการศึกษาพบว่าฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรต้านการอักเสบที่เข้าไปอยู่ในปอดได้ถึง 30-40% และการทดลองในหนูพบว่าสามารถลดการอักเสบของปอดได้ จากการได้รับ PM 2.5 ส่วนรางจืดเป็นสมุนไพรอีกตัวที่น่าจะมีศักยภาพ เพราะมีงานวิจัยเกี่ยวกับการต้านพิษโลหะหนักและต้านอนุมูลอิสระ ลดการทำลายเซลล์จากสารพิษ “ความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ตั้งแต่การปลูก การสกัดและการพัฒนาตำรับของอภัยภูเบศร กับความเชี่ยวชาญในการวิจัยในระดับพรีคลินิกและคลินิกของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ทำให้เราเชื่อมั่นว่า จะสามารถนำสมุนไพรไทยมาเป็นที่พึ่งให้คนไทยและแข่งขันในระดับโลกได้อย่างแน่นอน”