กรรมการ ECB คาดดอกเบี้ยอาจแตะ 4% ตามตลาดคาด หากเงินเฟ้อยังสูง อินโฟเควสท์
นายปิแอร์ วุนสช์ กรรมการสภาธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า การคาดการณ์ของตลาดที่ว่า อัตราดอกเบี้ยของ ECB จะแตะระดับสูงสุดที่ 4% นั้นอาจจะถูกต้อง หากแรงกดดันด้านราคายังคงอยู่ในระดับสูง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายวุนสช์ได้เปิดเผยกับนักข่าวในกรุงบรัสเซลส์ว่า “หากเราไม่ได้รับสัญญาณที่ชัดเจนว่าเงินเฟ้อพื้นฐานจะปรับตัวลง เราก็ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก”
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
มอร์แกนสแตนลีย์คาด ECB ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง หนุนดอกเบี้ยสูงสุดแตะ 4% : อินโฟเควสท์มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุด (Terminal Rate) ของ ECB ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4% การคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.5% จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 3.25% ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากนางอิสเบล ชนาเบล กรรมการ ECB และนายฟรังซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาลฮาว ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศส ซึ่งเป็นกรรมการ 2 ใน 26 คนที่มีอิทธิพลของ ECB ได้ออกมาสนับสนุนการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ECB มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน นอกจากนี้ ECB ยังส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และระบุอย่างชัดเจนว่า ECB […]
อ่านเพิ่มเติม »
ประธาน ECB ชี้มีสิทธิ์ขึ้นดอกเบี้ยหลังมี.ค. แต่ต้องคำนึงถึงข้อมูลศก. : อินโฟเควสท์นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยในวันนี้ (2 มี.ค.) ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมหลังเดือนมี.ค.นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้ โดยทั้งนี้ต้องพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก “ขณะนี้เรามองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปหลังเดือนมี.ค. แต่ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ” นางลาการ์ดกล่าวต่อสถานีโทรทัศน์ช่อง “Antena 3” ของสเปน อนึ่ง นางลาการ์ดเคยออกมาย้ำหลายครั้งว่า ECB จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบต่อเนื่อง เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นทั่วทั้งยูโรโซน โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 มี.ค. 66) Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLine
อ่านเพิ่มเติม »
TRUE ชูแนวคิด Better Together ทรู-ดีแทค ขึ้นแท่น Telecom Tech Com ก้าวเทียบชั้นอาเซียน : อินโฟเควสท์นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) บริษัทใหม่หลังควบรวมกิจการระหว่าง TRUE เดิม และ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) แถลงว่า TRUE เดิมกับ DTAC ผนึกร่วมกันบนหลักการ Equal Partner เพื่อสร้างบริษัทโทรคมนาคมเทคโนโลยีชั้นนำ (Telecom Technology company) ชูแนวคิดชีวิตดีกว่าเมื่อมีกันและกัน (Better Together) และจะขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ TRUE ขึ้นเป็นผู้นำตลาดมือถือ โดยวันนี้ ทรูมูฟเอช 33.8 ล้านเลขหมาย และ ดีแทค 21.2 ล้านเลขหมาย รวม 55 ล้านเลขหมาย ด้านตลาดบรอนด์แบนด์ ทรูออนไลน์มี 5 ล้านราย และทรูวิชั่นส์ 3.2 ล้านราย ทั้งนี้ มูลค่าตลาด ของสองบริษัท (Market Cap) รวมเป็น […]
อ่านเพิ่มเติม »
กกพ.เลื่อนประกาศผลรับซื้อไฟรอบใหม่เป็น 5 เม.ย. หลังขยายวันตัดสินอุทธรณ์ : อินโฟเควสท์นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กกพ. ได้เลื่อนประกาศผลการคัดเลือกเอกชนที่ผ่านเกณฑ์คะแนนความพร้อมทางด้านเทคนิคขั้นต่ำตามเกณฑ์ ในการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 เป็นวันที่ 5 เม.ย. (เดิม 22 มี.ค.) หลังจากขยายกรอบระยะเวลาสำหรับการประกาศผลการยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาความพร้อมด้านเทคนิคฯ เป็นวันที่ 10 มี.ค.นี้ (จากเดิม 1 มี.ค.) ส่วนกำหนดการแจ้งให้ผู้ได้รับคัดเลือกทราบและยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นวันที่ 19 เม.ย. (จากเดิม 29 มี.ค.) เนื่องจากมีผู้ยื่นของผลิตไฟฟ้ายื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาความพร้อมด้านเทคนิคขั้นต่ำตามเกณฑ์ผ่านหรือไม่ผ่าน เป็นจำนวนมาก เพื่อให้การพิจารณาอุทธรณ์เป็นไปด้วยความครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นธรรม จึงจำเป็นต้องขยายกรอบเวลาที่กำหนดไว้ อนึ่ง ผู้ผ่านการพิจารณา มีจำนวน 318 ราย แบ่งเป็น – พลังงานลม ผ่าน 20 ราย ปริมาณเสนอขาย 1,291.30 เมกะวัตต์ (MW) […]
อ่านเพิ่มเติม »
โพล ส.อ.ท.ชี้เป้า นโยบายรัฐบาลใหม่ที่ภาคอุตสาหกรรมอยากได้ : อินโฟเควสท์นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll หัวข้อ “นโยบายรัฐบาลใหม่ที่ภาคอุตสาหกรรมอยากได้” พบว่า จากการที่ประเทศไทยจะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในช่วงเดือนพ.ค. ที่จะถึงนี้ ภาคอุตสาหกรรมมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่เราจะได้รัฐบาลใหม่ และมีนโยบายใหม่ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งนี้ จากการสำรวจความเห็นของผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่คาดหวังให้รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญกับกรอบนโยบายใน 5 เรื่อง ดังนี้ 1. การแก้ไขปัญหาต้นทุนพลังงานและการสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานให้แก่ประเทศ 2. การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม 3. การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น 4. การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในภาคธุรกิจ และการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME 5. การแก้ไขปัญหาโลกร้อน Climate change มาตรการกีดกันทางการค้า และการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดี ในแต่ละเรื่อง ส.อ.ท. ได้มีการสำรวจความเห็นเจาะลึกในแต่ละประเด็นนโยบายย่อย เพื่อเป็นโจทย์ให้กับพรรคการเมืองที่มีการหาเสียงอยู่ในขณะนี้ นำไปใช้เป็นกรอบในการกำหนดนโยบายการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศในอนาคตต่อไป โดยนโยบายที่มองว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาต้นทุนพลังงาน และการสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานให้แก่ประเทศได้มากสุด คือ การเร่งเปิดเสรีพลังงานทางเลือก ส่งเสริมการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงาน รองลงมา คือ การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เช่น […]
อ่านเพิ่มเติม »
ผู้ว่าฯ กทม. ผุด 3 ไอเดีย แนะพรรคการเมืองหยิบทำนโยบาย : อินโฟเควสท์นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม. มี 3 เรื่อง ที่จะเสนอก่อนจะมีการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งหากมีผู้สมัครรับเลือกตั้งเห็นด้วย และนำข้อเสนอดังกล่าวไปเป็นนโยบาย จะทำให้ประชาชนมีโอกาสพิจารณานโยบายก่อนการเลือกตั้ง แต่หากกทม. นำเสนอหลังจากผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว ประชาชนก็จะไม่มีโอกาสได้เลือกว่าชอบนโยบายใด ซึ่งการเสนอเชิงนโยบายนี้ เป็นวิธีหนึ่งตามระบอบประชาธิปไตย สำหรับข้อเสนอแก่รัฐบาลชุดหน้า มีดังนี้ 1. เสนอปรับและพิจารณาแผนย้ายท่าเรือคลองเตย : สำหรับแนวคิดการย้ายท่าเรือคลองเตย อยู่ในแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขมลพิษด้านฝุ่นละออง อย่างไรก็ตาม อาจยังไม่มีการดำเนินการจริงจัง เนื่องจากการย้ายท่าเรือคลองเตยไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาระยะยาวเป็น 10 ปี ซึ่งปัจจุบัน มีการวัดปริมาณฝุ่นบริเวณคลองเตย และดูผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ได้มีการบริหารจัดการเป็นกรีนพอร์ต คือเป็นพอร์ตซึ่งมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งมีการทำรถไฟเชื่อมมาที่ ICD ลาดกระบัง เป็นการเพิ่มการขนส่งทางรถไฟมากขึ้น ทั้งนี้ มองว่าน่าจะตอบโจทย์ หากมีตู้คอนเทนเนอร์ไปลงที่แหลมฉบังมากขึ้น “ปัจจุบันเข้าใจว่าตู้ที่ไปแหลมฉบังมีประมาณ 10 ล้านตู้ ที่กรุงเทพฯ ประมาณ 1 ล้านตู้ หรือแค่ประมาณ 10% การย้ายไปก็น่าจะสามารถทำได้ […]
อ่านเพิ่มเติม »