กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการรับประทานหมูดิบ อาจเสี่ยงป่วยโรคไข้หูดับ ทำให้หูหนวกถาวรหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ พร้อมแนะวิธีป้องกัน โดยรับประทานอาหารที่ปรุงสุก และใช้อุปกรณ์ประกอบอาหารระหว่างของสุก และของดิบแยกกัน อ่านต่อ: ข่าวช่อง8 ของดิบ
กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการรับประทานหมูดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ อาจเสี่ยงป่วยโรคไข้หูดับ ทำให้หูหนวกถาวรหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ พร้อมแนะวิธีป้องกัน โดยรับประทานอาหารที่ปรุงสุก และใช้อุปกรณ์ประกอบอาหารระหว่างของสุก และของดิบแยกกัน ไม่สัมผัสเนื้อหมู เลือดดิบด้วยมือเปล่า
วันที่ 15 เมษายน 2565 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์นี้ หลายครอบครัวมีการรับประทานร่วมกัน และอาจมีเมนูสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ หลู้หมูดิบ ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านที่มีการใส่เลือดหมูดิบผสม หรือการปิ้งย่างไม่สุก ทำให้เสี่ยงติดเชื้อโรคไข้หูดับได้ สถานการณ์ของโรคไข้หูดับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 5 เมษายน 2565 พบผู้ป่วย 81 ราย เสียชีวิต 7 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ ได้แก่ อายุมากกว่า 65 ปี รองลงมาคืออายุ 55-64 ปี และ 45-54 ปี ตามลำดับ...
โรคไข้หูดับสามารถเกิดจากเชื้อแบคทีเรียสเตร็พโตค็อกคัส ซูอิส โดยเชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจของหมู และเลือดของหมูที่กำลังป่วย สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ2.การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และเลือดหมูที่เป็นโรค โดยเชื้อจะเข้าทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา หรือการสัมผัสเลือดของหมูที่กำลังป่วย ซึ่งหลังจากได้รับเชื้อ 3-5 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หากพบว่ามีอาการดังกล่าว ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที แจ้งประวัติการกินหมูดิบและสัมผัสเนื้อหมูให้ทราบ เพราะหากมาพบแพทย์และวินิจฉัยได้เร็ว จะช่วยลดอัตราการเกิดหูหนวกและการเสียชีวิตได้ นอกจากนี้...
2.เลือกซื้อเนื้อหมูจากตลาดสดหรือห้างสรรพสินค้า ที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมปศุสัตว์ ไม่ซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาว สีคล้ำโดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ขณะทำงานควรสวมรองเท้าบู๊ทยางและสวมถุงมือ หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422