กฟผ.เผยช่วยค่าไฟได้ 0.07 สตางค์ หวั่นกระทบสภาพคล่อง เหตุแบกหนี้ค่า Ft 1.5 แสนล้าน ค่าไฟแพง ค่าFt
เมื่อวันที่ 25 เมษายนผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาพคล่องของบริษัทเมื่อต้องแบกค่าไฟฟ้าผันแปร รวม 150,000 ล้านบาท สิ่งที่ทำได้คือการเจรจากับคู่สัญญา อย่าง บริษัท ปตท. จำกัด รวมถึง 2 การไฟฟ้าจัดจำหน่ายที่ กฟผ. ต้องรับเงิน รวมถึงการกู้เงินทั้ง 2 ก้อนรวม 110,000 ล้านบาทของ กฟผ. ถือเป็นการกู้เงินระยะสั้นและเบิกได้ตามวงเงิน เป็นการกู้โดยการใช้งานที่ต้องจ่ายเงินต้นคืนภายในระยะเวลา 2 ปีดังนั้น เมื่อถึงเวลากำหนด 2 ปี กฟผ.ต้องจ่ายเงินต้นคืน หาก กฟผ.
โดยได้ลดค่าไฟฟ้าผันแปรงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม จากเดิมค่าไฟฟ้าผันแปรอยู่ที่ 4.77 สตางค์ต่อหน่วย ลดลงที่ 4.70 บาทต่อหน่วย หรือลดลง 0.07 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งถือเป็นความร่วมมือในหลายภาคส่วนอย่างไรก็ตาม เท่าที่มีการเจรจาขณะนี้ กฟผ.สามารถแบกหนี้ได้สิ้นสุดตามแผนที่ระบุไว้ว่า กกพ.จะคืนหนี้ได้สิ้นสุดในงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2568 ซึ่งช่วงนั้นรัฐบาลต้องหาเงินมาอุ้มตามกรอบการคืนหนี้ใน 7 งวด เนื่องจาก กฟผ.
อาทิ ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน อาทิ พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวมวล กลุ่มนี้ไม่สามารถพึ่งพาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากปัจจัยช่วงเวลา ฤดูกาล ถูกคำนวณเป็นสำรองไฟฟ้าแต่ไม่ใช่สำรองไฟฟ้าที่แท้จริง
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
กฟผ.เผยแบกค่าเอฟที 1.5 แสนล้าน ทำให้รับภาระแทนชาวบ้านได้เพียง 7 สตางค์-เร่งคืนหนี้เงินกู้นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า สภาพคล่องของ กฟผ.เมื่อต้องแบกค่า Ft รวม 1.5 แสนล้านบาท สิ่งที่ทำได้คือการเจรจากับคู่สัญญา อย่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รวมถึง 2 การไฟฟ้าจัดจำหน่ายที่กฟผ. ต้องรับเงิน รวมถึงการกู้เงินทั้ง 2 ก้อนรวม 1.1 แสนล้านบาท ของ กฟผ. ถือเป็นการกู้เงินระยะสั้นและเบิกได้ตามวงเงิน เป็นการกู้โดยการใช้งานที่ต้องจ่ายเงินต้นและคืนภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่ง กฟผ.
อ่านเพิ่มเติม »
'ศรีสุวรรณ' จี้ กฟผ.เปิดเผยสัญญาซื้อไฟฟ้า IPP และ SPP จากเอกชนทั้ง 67 โรงนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า วันนี้สมาคมฯได้ทำหนังสือส่งไปถึงผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายข้อมูลข่าวสารในการขอสำเนาเอกสารหนังสือสัญญาที่ กฟผ.ซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าของเอกชน ซึ่งสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ค่าเอฟที (FT) พุ่งและทำให้ค่าไฟฟ้าโครตแพงนั้น ต้นเหตุมาจากการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนแพงเกินไปหรือไม่ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ได้เปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าขายให้กับ กฟผ.ได้ จึงทำให้มีบริษัทเอกชนจำนวนมากประมูลขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ.เป็นจำนวนม
อ่านเพิ่มเติม »
ส.อ.ท.ผิดหวัง กกพ.หั่นค่าไฟแค่ 7 สต.จากที่น่าได้ถึง 32 สต.หลังก๊าซแอลเอ็นจีตลาดโลกลดลงนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.)เปิดเผยว่า ผิดหวังที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ลดค่าไฟฟ้าจากประกาศเดิม ในงวด 2/66 เพียง 7 สตางค์ ซึ่งส่งผลค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลง 4.77 บาทต่อหน่วยลงมาอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย เพราะหากดูราคาก๊าซแอลเอ็นจีตลาดโลกที่ลดลงแล้ว น่าจะทำให้ FT ลดลงไปอีก ประมาณ 25 สตางค์ เมื่อรวมกับ 7 สตางค์ของ กฟผ.ที่เสนอยืดเวลาชำระหนี้ ก็น่าจะลดลงได้ 32 สตางค์ หรือคิดเป็นค่าไฟฟ้า 4.45 บาท/หน่วย โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบยืนยันผ่าน ส.อ.ท.ว่าได้ส่งหนังสือแจ้งถึง กกพ.ไปนานหลายสัปดาห์ถึงตัวเลข LNG นำเข้าในงวด 2/66 ที่ลดลงจากเดิม 20 เหรียญสหรัฐ/ล้านบี
อ่านเพิ่มเติม »
เคาะแล้ว ‘ลดค่าไฟ’ 0.07 บาท/หน่วย นาน3 เดือน เริ่มรอบบิลพ.ค.นี้มติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. มีมติเห็นชอบ ‘ลดค่าไฟฟ้า’ 0.07 บาท/หน่วย นาน 3 เดือน เริ่มรอบบิลพ.ค. นี้ ถึงเดือน ส.ค.2566
อ่านเพิ่มเติม »
SCB EIC คาดศก.ไทยปีนี้รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นต่อเนื่อง-เลือกตั้งหนุน GDP 0.07% : อินโฟเควสท์ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้การส่งออกยังไม่สดใส แต่คาดกลับมาขยายตัวได้ช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่เม็ดเงินหาเสียงในช่วงเลือกตั้ง จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติมกว่า 0.07% ของ GDP ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้นชัดเจนในหลายองค์ประกอบ นำโดยภาคการท่องเที่ยว ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 6.5 ล้านคน และมีแนวโน้มฟื้นตัวดีต่อเนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงการท่องเที่ยวในประเทศจากความต้องการท่องเที่ยวที่ยังอยู่ในระดับสูงและปัจจัยสนับสนุนจาก โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่การส่งออกหดตัวเป็นเดือนที่ 5 และแนวโน้มการส่งออกในช่วงครึ่งแรกของปี ยังน่าห่วงจากเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวชะลอลงและปัจจัยฐานสูงเป็นสำคัญ แต่แนวโน้มการส่งออกในครึ่งหลังของปีจะได้รับอานิสงส์มากขึ้นจากการฟื้นตัวของอุปสงค์จีนหลังเปิดประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่จะผ่านจุดต่ำสุดแล้ว การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนมีความชัดเจนมากขึ้นตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นจากการผลิตเพื่อป้อนคำสั่งซื้อเก่าและงานคงค้างเดิม ขณะที่อัตราเงินเฟ้อไทยสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาสินค้าหมวดพลังงานที่ชะลอตัวลงมากตามราคาพลังงานโลกและมาตรการอุดหนุนภาครัฐที่ยังมีอยู่ อย่างไรก็ดี เงินเฟ้ออาจกลับมาเร่งตัวอีกครั้งในช่วงท้ายปีหลังจากนโยบายพยุงค่าครองชีพของภาครัฐทยอยลดลงและการส่งผ่านต้นทุนมายังผู้บริโภคมีมากขึ้นในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวรวมถึงปัจจัยฐานที่เริ่มทรงตัว สำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง SCB EIC ประเมินเม็ดเงินหาเสียงในช่วงเลือกตั้งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติมอย่างน้อย 0.07% ของ GDP SCB EIC ประเมินว่า Terminal […]
อ่านเพิ่มเติม »