กบน.ตรึงดีเซลลิตรละ 35 บาทแม้ราคาตลาดโลกปรับขึ้นจากสัปดาห์ก่อน น้ำมันดีเซล ราคาน้ำมัน อินโฟเควสท์
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพของประชาชน แม้ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดีเซล วันนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 145.48 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 10.75 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ 134.
ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันผันผวน มาจากทั้งด้านกลุ่มประเทศโอเปกพลัสที่อาจจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันได้ทุกเวลาเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ท้าทาย ส่วนทางกลุ่มประเทศยุโรป มีความกังวลจากสถานการณ์ด้าน Supply ก๊าซธรรมชาติตึงตัวหลังจากบริษัท Gazprom ของรัสเซียยังคงหยุดส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยังประเทศในยุโรป ส่งผลให้ราคาก๊าซในยุโรปปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมันแทนก๊าซธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ด้านสหรัฐฯ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา ปรับลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับที่ 421.7 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้วางมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล 50% ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่าลิตรละ 35 บาทเป็นเวลา 3 เดือน แต่มาตรการดังกล่าวยังไม่ได้นำมาปรับใช้แต่อย่างใด เนื่องจากต้องการบรรเทาผลกระทบให้ประชาชน ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงยังคงสูงกว่าราคาขายปลีกในประเทศที่ลิตรละ 35 บาท
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน วันที่ 28 สิงหาคม 2565 ติดลบ 119,764 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 78,301 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 41,463 ล้านบาท
ประเทศไทย ข่าวล่าสุด, ประเทศไทย หัวข้อข่าว
Similar News:คุณยังสามารถอ่านข่าวที่คล้ายกันนี้ซึ่งเรารวบรวมจากแหล่งข่าวอื่น ๆ ได้
ภาวะตลาดตราสารหนี้: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 49,533 ล้านบาท : อินโฟเควสท์สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 49,533 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 6,453 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทประกัน ซื้อสุทธิ 1,296 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 542 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.06% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.06% ภาพรวมของตลาดในวันนี้ Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าประมาณ 1-6 bps. ภายหลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมนโยบายประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล ส่งสัญญาณจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อลดเงินเฟ้อ แม้ว่าอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานประจำเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 4.6% (YoY) ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ …
อ่านเพิ่มเติม »
หุ้นไทยปิดร่วง 18.26 จุดตามตลาดหุ้นโลกรับแรงกดดันเฟดย้ำขึ้นดอกเบี้ยแม้เศรษฐกิจชะลอ : อินโฟเควสท์ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,626.52 จุด ลดลง 18.26 จุด (-1.11%) มูลค่าการซื้อขาย 71,417.81 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับลงแรงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยทำระดับสูงสุด 1,634.63 จุด และระดับต่ำสุด 1,619.58 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 443 หลักทรัพย์ ลดลง 1,461 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 369 หลักทรัพย์ นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับลงแรงทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวในการประชุมประจำปีที่แจ็คสัน โฮลว่าจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ แม้ยอมรับว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะชะลอตัว เป็นแรงกดดันเข้ามายังตลาดหุ้นทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังปรับลงน้อยกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ เนื่องจากมีแรงซื้อกลุ่มหุ้นโรงกลั่นและถ่านหินเข้ามาช่วยหนุนได้บ้าง หลังจากราคาน้ำมันกลับมาปรับตัวสูงขึ้น และดัชนียังสามารถยืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้ แนวโน้มพรุ่งนี้ตลาดฯ มีโอกาสรีบาวด์หลังจากลงไปแรงแล้ว หรืออาจะแกว่งตัวไซด์เวย์ แม้ว่าจะยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหลังจากรับรู้ปัจจัยสำคัญเรื่องถ้อยแถลงของประธานเฟดไปแล้ว และยังคงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยให้แนวต้าน …
อ่านเพิ่มเติม »
คลัง ย้ำเริ่มใช้จ่าย 'คนละครึ่ง เฟส 5' ได้ 1 ก.ย.-31 ต.ค.นี้ เตือนรีบกดยืนยันสิทธิ : อินโฟเควสท์นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ประชาชนจะเริ่มใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ถึง 31 ต.ค. 65 โดยรัฐจะสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ในอัตรา 50% แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ ทั้งนี้ ล่าสุด วันที่ 29 ส.ค. 65 เวลา 15.00 น. มีประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการฯ ระยะที่ 4 (ประชาชนรายเดิมฯ) กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 5 แล้วจำนวน 18.30 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% …
อ่านเพิ่มเติม »
'โอลิมปัส' จ่อขายแผนกกล้องจุลทรรศน์ให้ 'เบน แคปปิตอล' : อินโฟเควสท์โอลิมปัส คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทได้ตกลงขายแผนกกล้องจุลทรรศน์ให้กับเบน แคปปิตอล ซึ่งเป็นบริษัทไพรเวทอิควิตี้ ในวงเงิน 4.276 แสนล้านเยน (3.1 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งจะนับเป็นการถอนการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของบริษัท รายงานระบุว่า การขายแผนกดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่บริษัทเร่งการยกเครื่องกลุ่มธุรกิจ โดยมุ่งทำธุรกิจเทคโนโลยีทางการแพทย์เท่านั้น ที่ผ่านมานั้น โอลิมปัสได้เชิญบริษัทแวลูแอค แคปิตอล ของสหรัฐเข้าร่วมคณะกรรมการบริษัท ซื้อบริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ในต่างประเทศหลายแห่ง และขายธุรกิจกล้องดิจิทัลของบริษัทที่ขาดทุนมาเป็นเวลานาน เพื่อปรับปรุงโครงสร้างบริษัท โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ส.ค. 65) FacebookTwitterLine
อ่านเพิ่มเติม »
'ฮอนด้า-แอลจี' ผนึกกำลังสร้างโรงงานแบตเตอรี EV ในสหรัฐ : อินโฟเควสท์หนังสือพิมพ์นิกเกอิ บิสซิเนส เดลี เปิดเผยวันนี้ (29 ส.ค.) ว่า บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ โควางแผนสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรีลิเธียมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) แห่งใหม่ในสหรัฐ ร่วมกับบริษัทแอลจี เอ็นเนอร์จี โซลูชัน ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์แบตเตอรีจากเกาหลีใต้ รายงานระบุว่า บริษัททั้งสองจะร่วมทุนกันผลิตแบตเตอรีลิเธียมไออนในรัฐโอไฮโอ อันเป็นที่ตั้งของโรงงานหลักของฮอนด้า โดยทตั้งเป้าหมายเริ่มการก่อสร้างโรงงานในปี 2566 และดำเนินการผลิตแบตเตอรีจำนวนมากในปี 2568 โดยคาดว่าการลงทุนครั้งนี้จะมีมูลค่าหลายแสนล้านเยนด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ฮอนดาและแอลจีปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฮอนด้าเป็นผู้จัดหาแบตเตอรีรถไฟฟ้าให้กับบริษัทผลิตยานยนต์หลายแห่ง รวมถึง เทสลา อิงค์ เจเนอรัล มอเตอร์ส และโฟล์คสวาเกน โดยก่อนหน้านี้ฮอนด้าเพิ่งลงนามในข้อตกลงร่วมทุนด้านแบตเตอรีรถยนต์ EV กับเจเนอรัล มอเตอร์ส ฮุนได มอเตอร์ส และสเตลแลนติส ทั้งนี้ ฮอนด้าได้วางเป้าหมายในช่วงต้นปีไว้ว่าจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่นทั่วโลก และผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ได้ประมาณ 2 ล้านคันต่อปีภายในปี 2573 โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ส.ค. 65) …
อ่านเพิ่มเติม »
TWPC คาด H2/65 โตตามดีมานด์ฟื้น-ขยายไลน์ผลิต-ออกสินค้าใหม่หนุนทั้งปีโต 2 Digit : อินโฟเควสท์นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยวา (TWPC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดยอดขายครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตต่อเนื่อง ตามดีมานด์ที่ฟื้นตัวดีขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และธุรกิจพลาสติกชีวภาพจากแป้งมันสำปะหลัง (ไบโอพลาสติก) สามารถกลับมาเดินเครื่องได้เต็มกำลัง รวมถึงบริษัทมีแผนขยายไลน์การผลิตแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA), ธุรกิจอาหาร (Food) คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 4/65 และขยายไลน์ผลิตไบโอพลาสติกไลน์ที่ 2 โดยวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 100-150 ล้านบาท ขณะที่เตรียมจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมอีกในกลุ่ม Food ส่วนในเรื่องของต้นทุนที่อยู่ในระดับสูง ที่ผ่านมากระทบกับราคาขายไม่มาก เพราะสามารถปรับขึ้นราคาขายได้ตามต้นทุน อีกทั้งการก่อนค่าของเงินบาท บริษัทฯ ก็ได้มีการทำป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าเมื่อได้รับออเดอร์บางส่วน และในขณะเดียวกันราคาขายแป้งก็มีการปรับตัวตามราคาค่าเงินบาทด้วย บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก (double-digit) จากปีก่อนที่มีรายได้ 9,194.51 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 5,232.51 ล้านบาท และตั้งเป้าภายใน 2 ปีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจะมียอดขายเติบโตเป็นกว่า 7 พันล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) จากการขายทั้งในรูปแบบ B2B และ B2C ส่วนด้านการส่งออก …
อ่านเพิ่มเติม »