ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติผ่านจุดต่ำสุด ปี 2564 สัญชาติจีนโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดมูลค่าถึง 2.29 หมื่นล้านบาท อ่านต่อ: กรุงเทพธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"สุดในไตรมาส 3 ปี 2564 มาแล้ว แต่ในไตรมาส 4 ปี 2564 ยังคงชะลอตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลจีน ซึ่งเป็นสัญชาติที่เป็นกำลังซื้อหลักของตลาดห้องชุดในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการจำกัดการออกหนังสือเดินทาง
โดยจะออกให้กับผู้ที่มีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา การทำงาน และการทำธุรกิจ เท่านั้น และจะระงับการออกหนังสือเดินทาง สำหรับการเดินทางที่ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิดในต่างประเทศ ยังคงรุนแรง และการเดินทางข้ามพรมแดน ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูง เนื่องจาก รัฐบาลจีนยังคงยึดมั่นในแนวทางส่งผลให้มีการดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดต่อไปภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติ ทั่วประเทศ ในไตรมาส 4 ปี 2564 มีจำนวน...
ด้านพื้นที่ห้องชุดที่คนต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสนี้ รวม 92,043 ตารางเมตร ลดลงร้อยละ -12.
โดยมี 4 สัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์อันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 306 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 3.7 ถัดมาคือ สหราชอาณาจักร จำนวน 280 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 3.4 สหรัฐอเมริกา จำนวน 279 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 3.4 อันดับ 5 มีจำนวนหน่วยเท่ากันคือ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส จำนวน 234 หน่วย สัดส่วนร้อยละ 2.
และลำดับรองลงมาส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป โดยมีสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 7 ทั้งนี้ สัญชาติที่นิยมเข้ามาซื้อห้องชุดในประเทศไทยตั้งแต่ ปี 2561 ถึง ปี 2564 ที่มีจำนวนหน่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และ สหรัฐอเมริกา ตามลำดับ ในปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้ชาวจีน เป็นมูลค่าสูงสุด จำนวน 22,874 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 57.7 ของมูลค่าทั้งหมด ส่วน 4 สัญชาติที่มีมูลค่าการโอนรองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 1,299 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 3.