iPhone 1 รุ่นแรก จนถึง iPhone 15 ในปีนี้ วันนี้ทีมงาน i […]
iPhone 2G เป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่ออกแบบให้ใช้งานด้วยการสัมผัสหน้าจอแสดงผลได้ ก่อนที่จะถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มิถุนายน 2550 มีข่าวลือออกมามายมายเกี่ยวกับสเปกและคุณสมบัติของ iPhone 2G พร้อมทั้งวันเปิดตัวที่บอกว่าจะเปิดตัวในวันที่ 9 มกราคม 2550 ซึ่งมันก็ไม่เป็นความจริง
หน้าจอแสดงผลแม้จะมีขนาด 3.5 นิ้วเท่าเดิมแต่ได้เปลี่ยนแผงหน้าจอแสดงผลใหม่เป็นแบบ LCD 24 Bit นอกจากนั้นยังมีการอัพเกรดความละเอียดของกล้องจากความละเอียด 2 ล้านพิกเซลเป็น 3 ล้านพิกเซล พร้อมกับบันทึกวิดีโอความละเอียด 480piPhone 4 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นที่ 4 ในตระกูล iPhone เป็น iPhone รุ่นแรกที่ถูกออกแบบมาให้รอบรับการใช้งานด้านมัลติมีเดียมากยิ่งขึ้น โดยความสามารถส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องของความบันเทิง เช่น ดูวิดีโอ, ฟังเพลง, เล่นเกม และ อินเทอร์เน็ต ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.
จุดเด่นที่ทำให้ iPhone 4 กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่ทันสมัยที่สุดในเวลานั้นก็คือการมีฟีเจอร์ FaceTime คือการสนทนาแบบเห็นหน้ากันได้เลยซึ่งในยุคสมัยนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหม่สุดๆ ในยุคสมัยนี้เราจะเรียกวิธีนี้ว่า วิดีโอคอล แต่การใช้ฟีเจอร์ FaceTime นั้นจำเป็นต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi ถึงจะใช้งานฟีเจอร์นี้ได้และมีข้อแม้อีกอย่างหนึ่งคือคนที่เราจะโทรไปหานั้นต้องใช้ iPhone 4 ด้วยถึงจะใช้ฟีเจอร์ FaceTime ได้iPhone 4S เป็นสมาร์ทโฟนถ้านับจำนวนรุ่นคือรุ่นที่ 5 ของตระกูล iPhone แน่นอนว่าปีนี้ Apple...
หน้าจอแสดงผลของ iPhone 5 นั้นถูกเพิ่มขนาดให้กว้างขึ้นจากเดิม iPhone 4 จะมีหน้าจอแสดงผลขนาด 3.5 นิ้วแต่ใน iPhone 5 มีหน้าจอแสดงผลขนาด 4 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 1136 × 640 พิกเซล และเป็นครั้งแรกที่ Apple ตัดสินเปิดตัวพอร์ต Lightning ซึ่งกำลังจะมาเปลี่ยนเรื่องราวในอนาคตแบบที่หลายคนในยุคนั้นไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นiPhone 5S เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ 7 ในตระกูล iPhone โดย iPhone 5S เปิดตัวพร้อมกับ iPhone 5C ซึ่งเป็นรุ่นประหยัด เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ.
Apple เลือกที่จะใช้ชื่อ iPhone 6S กับ iPhone รุ่นใหม่ในการเปิดตัวเพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จของ iPhone 6 โดยให้ชื่อรุ่นว่า iPhone 6S และ iPhone 6S Plus iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีการออกแบบที่เหมือนกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือการเพิ่มกระจกนิรภัยทั้งด้านหน้าและด้านหลังทำให้ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น แต่ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่างมากก็คือ การชาร์จแบบไร้สาย นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มความสามารถของกล้องถ่ายรูปให้สามารถถ่ายรูปในโหมดที่หลากหลายขึ้นและใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ระดับ Apple A11 Bionic ที่ช่วยให้การทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ให้น้อยที่สุดiPhone X ถูกยกให้เป็นสมาร์ทโฟนระดับ...
การดีไซน์ iPhone XS ทำให้ได้ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ในขณะที่ขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกับรุ่นเดิมอย่าง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus อีกทั้งหน้าจอแบบใหม่รองรับการแสดงผล HDR ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการดูหนัง ด้วยอัตราส่วนคอนทราสต์สูงถึง 1,000,000:1 และมีลำโพงสเตอริโอคู่ ชิพประมวลผลที่เลือกใช้ในรุ่นนี้เป็น A12 Bionic เช่นเดียวกับ iPhone Xs ซึ่งจุดขายรุ่นนี้คือกล้องหลังเลนส์ไวด์ 12 ล้านพิกเซล มีระบบกันภาพสั่นไหว OIS รูรับแสงกว้าง f/1.
iPhone SE ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยชิพ A13 Bionic ที่ออกแบบโดย Apple พร้อมระบบกล้องเดี่ยวที่ดีที่สุดเท่าที่ iPhone เคยมีมา ซึ่งจะนำประโยชน์จากการประมวลผลภาพถ่ายด้วยคอมพิวเตอร์มาสู่สมาร์ทโฟน รวมถึงโหมดภาพถ่ายบุคคล และยังได้รับการออกแบบมาให้ทนฝุ่นและน้ำด้วยดีไซน์ของ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่นด้านหน้าจอแสดงผลจะมีรอยบากเหมือนเดิม ขอบข้างจะมีความแบนตามภาพที่หลุดออกมา โดยใช้เป็นขอบอลูมิเนี่ยม ทั้งยังปรับเสาสัญญาณให้อยู่รอบเครื่อง โดยรุ่นจอ 6.
สำหรับหน้าจอต้องพูดถึงเรื่องรอยากขนาดเล็กลงกันก่อนเลยครับ โดยใน iPhone 13 Series จะปรับตำแหน่งลำโพงสนทนาขึ้นไปไว้ด้านบน และขยับเทคโนโลยี Face ID และกล้องหน้าเข้ามาตรงกลาง ทำให้ใช้พื้นที่น้อยลงครับ ส่วนขนาดหน้าจอทั้ง 4 รุ่นจะเท่าเดิมทั้งหมด โดย iPhone 13 mini และ iPhone 13 จะมีความสว่างหน้าจอมากขึ้น 28% ใช้พาเนล Super Retina XDR พร้อมความสว่างสูงสุด 1,200 นิต